เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา-พิธา' ลงพื้นที่เชียงใหม่ ดูปัญหาไฟป่า-ฝุ่นพิษ ยันมาทำหน้าที่ ปัดวัดพลัง

โดย panwilai_c

16 มี.ค. 2567

81 views

จังหวัดเชียงใหม่วันนี้คึกคักไปด้วยการลงพื้นที่ของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางกลับไปแล้ว ส่วนนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีการลงพื้นที่ติดตามปัญหาไฟป่าและหมอกควันเหมือนกันแต่คนละบทบาท ซึ่งต่างยืนยันว่าไม่ใช่การแย่งซีนหรือแข่งขันกันทำงาน แต่มองเป็นเรื่องดีถ้าประชาชนได้ประโยชน์



เริ่มที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ร่วมกับทุกฝ่ายที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง ซึ่งรายงานว่ามีการประสานงานพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ทั้งกัมพูชาและลาวแล้ว เหลือเพียงเมียนมาที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลดลงกว่าปีที่แล้วกว่า 1 เท่า



แม้ที่เชียงใหม่ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาปริมาณฝุ่นละอองจะติดอันดับหนึ่งของโลก จึงยังบอกไม่ได้ว่าไทยทำดีแล้ว แต่มองว่าปัญหาลดลงและต้องทำต่อเนื่อง และค่าจุดความร้อนปัจจุบัน มีเพียง 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา ถือว่าทำงานได้ดีขึ้นกว่า 3 เท่าตัว และได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการแก้ไฟป่ามาแล้ว รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ขอชื่นชม



และยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะหลังจากนี้อีก 45 วันเป็นช่วงเฝ้าระวังที่สำคัญ ลดการเผาในภาคการเกษตร โดยเฉพาะจากต่างประเทศมีการตั้งคณะทำงานพิเศษ และมีมาตรการจริงจังที่จะห้ามนำเข้าข้าวโพดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนด้วย



นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหน้ากากอนามัย หน้ากาอนามัย จำนวน 2 ล้านชิ้นให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเป็นการขอบคุณและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายเศรษฐาได้ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับบ้านเกิดเชียงใหม่ของนายทักษิณ ชินวัตรโดยยืนยันไม่ได้น้อยใจที่มีคนรักนายทักษิณมากกว่า เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายปีและชนะการเลือกตั้งแลนด์สไลด์มาแล้ว จึงไม่แปลกที่จะมีคนรักมากกว่า ส่วนจะมีการเชิญมาทำงานกับรัฐบาลหรือไม่ ยืนยันว่ายังไม่มี เพราะเชื่อว่าต้องการเวลากับครอบครัว หากอยากช่วยเหลือบ้านเมืองก็้องถามเมื่อมีโอกาส



ส่วนการลงพื้นที่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทางนายเศรษฐา ก็มองว่าเป็นเรื่องดีและบังเอิญ ไม่ใช่การแย่งซีนหรือแข่งขันกัน แต่เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลและฝ่ายค้าน ได้ทำงานเพื่อประชาชน



นายพิธา ลิ้มเจริญรัฐ นำทีม สส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เขาทุ่งปี๊ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมภารกิจดับไฟป่ากับอาสมัครมูลนิธิกระจกเงา เรียกได้ว่าสลัดคราบนักรบห้องแอร์ มาปฏิบัติการจริง ด้วยการจับเครื่องมือดับไฟป่า ซึ่งดัดแปลงมาจากเครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เพื่อดับไฟ และเครื่องพ่นลมในการพ่นใบไม้ สร้างเป็นแนวกันไฟ โดยอาสาสมัครคอยแนะนำ ท่ามกลางไฟที่ลุกและมีกระแสลมแรงตลอดเวลา ซึ่งนายพิธา ยอมรับว่า เครื่องมือนี้ช่วยควบคุมได้แต่ต้องใช้อาสาสมัครไม่ต่ำกว่า 30 คน ที่ต้องเข้าพื้นที่ให้รวดเร็วด้วย ทำให้จำนวนคนยังไม่เพียงพอ และนายพิธา เห็นว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ มาจากการเผาจากต่างประเทศ 20 เปอร์เซ็นต์ มาจากไฟป่าในประเทศ ขณะที่เราสามารถแก้ปัญหาได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์



ดังนั้นภาครัฐจึงต้องเติมทั้งเงินและคน และต้องประกาศให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อนำงบกลางมาใช้ เพราะค่าฝุ่นวิกฤตต่อเนื่องและมีมาตรการเช่นหยุดเรียนและป้องกันเรื่องสุขภาพของประชาชน



นายพิธา ยอมรับว่าวันนี้ครูฝึกดับไฟป่าให้คะแนน 5 เต็ม 10 เพราะทำครั้งแรกจึงต้องฝึกต่อไป และดีกว่าคนไม่มาสอบ และมีการเปรียบเทียบตัวเองเป็นนักรบห้องแอร์ ที่ต้องการมาลงพื้นที่เพื่อเข้าใจเรื่องการพิจารณางบประมาณด้วย และไม่อยากให้มองว่าการมาลงพื้นที่วันนี้มาเพื่อวัดพลังกับนายกรัฐมนตรี แต่ในฐานะ สส.และฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ในการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนด้วยและกำลังเป็นวิกฤตของจังหวัดเชียงใหม่



นายพิธา ยังได้ไปไหว้พระวัดฝานหิน เชิงดอยสุเทพ และไปแจกลายเซ็นต์หนังสือ ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน ให้กับแฟนคลับ ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา และบอกว่ากำลังเขียนเล่มใหม่เป็นเรื่อง 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุบสภาจนชนะเลือกตั้งแต่ต้องไปเป็นฝ่ายค้านจนถึงคดีหุ้นไอทีวี



ส่วนนายกรัฐมนตรี ในช่วงค่ำที่ผ่านมา ไปเปิดงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถึบีวิตทางสายไหม ชาติพันธุ์ลีซู โดยใส่เสื้อชุดชาติพันธุ์ลีซูด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่า เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานนี้ โดยรัฐบาลกำลังผลักดันร่าง พรบ.ชาติพันธุ์ให้เข้าสภาได้ไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้

คุณอาจสนใจ

Related News