สังคม

"ผู้เสียหาย" ไม่ติดใจเอาความ รับคำขอโทษ ชายคุกคามบนทางด่วน

โดย gamonthip_s

11 มี.ค. 2567

361 views

11 มี.ค. 2567 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ นางสาวแก้ม (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) หญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 35 ปี กรณีชายปริศนาเข้ามาขวางรถบนทางด่วน เพื่อขอติดรถไปด้วย พร้อมใช้หมวกกันน็อกฟาดรถ เดินทางเข้าไกล่เกลี่ย ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนขับรถขึ้นบนทางด่วน ไม่ได้มีเจตนารับเขา เนื่องจากเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว แต่สถานการณ์ที่มีรถขับเบียดมา เราจึงเปิดไฟฉุกเฉิน และชะลอ ตนก็ไม่ทราบว่าการที่เปิดไฟฉุกเฉิน และชะลอความเร็วรถทำให้เขาเข้าใจผิดหรือไม่ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินออกมา ทำให้เราต้องหยุดรถ



"มันมีแว๊บหนึ่งที่แก้มก็มีความคิดว่า ถามเขาดีหรือไม่ว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พอรถเราหยุดรถปุ๊บ เขาเดินมาดึงประตูรถเลย ทางฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าข้างคนขับ แก้มก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว"



นางสาวแก้ม กล่าวต่อว่า พอเขาเปิดไม่ได้ ก็ดูโมโหมาก ก็เลยตีกระจก ฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับด้านหลัง พร้อมพูดว่าขอไปลงข้างหน้าหน่อย เราตกใจมาก จนเราเหมือนทำอะไรไม่ถูก เราอึ้งอยู่ แต่เราไม่อยากอยู่ตรงนั้น จนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ต้องออกจากตรงนั้น จึงค่อยเคลื่อนขึ้นรถไปด้านหน้า เขาก็เลยเอาหมวกกันน็อกฟาด กระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง



ทั้งนี้ตนรู้สึกตกใจมาก กระจกด้านหลังรถก็เป็นรอยถาก แต่ไม่ได้ร้าว ยังไม่เอารถไปซ่อม เรายังไม่ทราบว่ามีความเสียหายแค่ไหน



เมื่อถามว่าพฤติกรรมที่เห็นมีอาการหลอนหรือผิดปกติกว่าคนทั่วไปหรือไม่ นางสาวแก้ม กล่าวว่า แว๊บแรกเหมือนเขาจะมีปัญหาอะไรมา เพราะดูหงุดหงิดมาก ตนเดาว่าอาจจะทะเลาะกับใครมา แต่ดูแล้วไม่ค่อยปกติ มองว่าเป็นการถูกคุกคาม เพราะคำพูดที่เขาใช้ ท่าทางที่แสดงออก ในสิ่งที่ทำมันคือการคุกคาม เราไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะลดกระจกพูดคุยกับเขา



เมื่อถามว่าคนก่อเหตุระบุว่าที่เอาหมวกกันน็อกฟาดเพราะไม่มีน้ำใจ นางสาวแก้ม ระบุว่า ก็ทราบมาว่าเป็นแบบนั้น แต่ไม่เป็นไร เราก็มีสิทธิ์จะเลือก ว่าจะช่วยเหลืออะไรใครแค่ไหน เราอาจจะโชคร้ายที่จังหวะหลบเลี่ยงไม่ได้



ส่วนติดใจหรือไม่ นางสาวแก้ม กล่าวว่า พอเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัวมาแล้ว พอได้พูดคุยก็เข้าใจแล้วว่าเขาคงมีปัญหาของเขา ส่วนได้พูดคุยกันหรือยัง นางสาวแก้ม ระบุว่า “ได้พูดคุยนิดนึง ขอโทษนะคะเขาดูไม่ค่อยปกติ น่าจะมีปัญหาทางจิตอยู่ประมาณหนึ่งเหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคุยเยอะแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า"



นางสาวแก้ม ย้ำว่า ได้มีการขอโทษกันแล้ว ตนยกโทษให้ ก็พูดกันตามตรงว่าคนสติไม่ดีจะไปเอาเรื่องเอาราวอะไรกับเขาได้ ส่วนเรื่องคดีจะมี 2 ทาง คืออาญาและแพ่ง ในทางอาญาอาจจะมองว่าเขาไม่ปกติ อาจจะยอมความไป แต่ในทางแพ่งก็ให้บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบว่าจะทำอย่างไรต่อทางกฎหมาย



นางสาวแก้ม ยังฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ด้วย เพราะรู้สึกว่าก่อนเดินทางอยากให้ทุกคนเช็กประตูรถดี อย่างรถของตนเป็นรถที่ค่อนข้างเก่า โชคดีที่ล็อกรถก่อนที่จะออกมา รวมถึงกล้องหน้ารถเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีหลักฐาน



ขณะที่ พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหา นายศุกฤกษ์ อายุ 42 ปี ใน 2 ข้อหา คือทำให้เสียทรัพย์และข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และขอโทษผู้เสียหาย ส่วนที่ขึ้นไปบนทางด่วนได้อย่างไรนั้นเจ้าตัวอ้างว่ามุดขึ้นไป เพื่อไปหาของเนื่องจากว่าของหาย



ส่วนหลังจากนี้เป็นกระบวนการของการสอบสวนต่อไป ขณะเดียวกันตอนสอบปากคำผู้ต้องหามีความเครียด และมีอารมณ์ฉุนเฉียว บางช่วงกุมขมับแล้วบอกว่าเครียด ผมเครียด




ส่วนมีอาการทางจิตหรือไม่นั้น กำลังตรวจสอบ และกำลังประสานสอบถามข้อมูลจากญาติว่าเคยมีประวัติรักษาอาการทางจิตหรือไม่

คุณอาจสนใจ