สังคม

หลานอากู๋ ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย '5 ผู้ต้องหาบุกรุกบ้าน' พร้อมยื่นค้านประกันตัว เกรงกลับมาทำพฤติกรรมซ้ำ มั่นใจในพยานหลักฐาน

โดย weerawit_c

17 ก.พ. 2567

1.4K views

จากกรณีข้อพิพาทระหว่างเจ้าของบ้านย่านรามอินทรา 58 กับเพื่อนบ้านที่ลักลอบเข้ามายึดบ้าน โดยอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์เป็นของตนเอง  ก่อนจะมีการเจรจาและย้ายออกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และกลับเข้ามาอ้างสิทธิใหม่ โดยเปิดร้านขายไก่ทอดในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ต่อมา ทนายความ พร้อมด้วยตำรวจ ได้พาเจ้าของบ้านตัวจริง บุกปลดป้ายขายไก่ทอดทิ้งลุยเอาบ้านคืนนั้น


คืบหน้าวานนี้ (16 ก.พ.) เวลา 10.00 น. นายภคิน ทิมกุล หรือ ซัน อายุ 27 ปี พร้อมทีมทนายความของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้เดินทางมาถึงที่สำนักงานอัยการก่อน เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน   นายซัน เปิดเผยว่า  มายื่นคัดค้านการประกันตัวกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อยากขอให้สำนักอัยการเมตตา เพราะคู่กรณีบุกรุกมาแล้วหนึ่งรอบเมื่อปีที่แล้ว และปีนี้ได้บุกรุกมาอีกครั้ง จึงเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวและกระทำพฤติกรรมดังกล่าวอีก อีกทั้งตนเองและครอบครัวก็กลัวเรื่องความปลอดภัยด้วย


โดยคดีนี้ เป็นคดีตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งพฤติกการณ์ครั้งนั้น กลุ่มผู้ต้องหายืนยันกับตนเองว่า จะคืนบ้าน และตนเองก็ได้เข้าไปล็อกบ้านตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 66 และเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 67 ตนเองไปเช็กบ้านอีกรอบ กลับพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกเข้ามาอยู่อีกรอบ


นายซัน ยืนยันว่า หลังจากนี้จะไม่มีการไกล่เกลี่ย เพราะผู้ต้องหาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกฎหมาย ส่วนบ้านหลังดังกล่าวจะยังไม่เข้าไปอยู่ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำเรื่องขอไฟฟ้าและน้ำประปา และยังติดขัดเรื่องที่ผู้ต้องหารีโนเวทบ้านบางส่วนด้วย อีกทั้งในคดีแรกก็ยังไม่มีการสืบพยาน และตนเองเพิ่งฟ้องแย้งคัดค้านไปเมื่อ 9 มกราคม และศาลอาญาฯ นัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม


เบื้องต้น ตนเองยังไม่เคยพูดคุยกับคู่กรณี แต่มีเพียงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่นางสาวอาย แฟนของตนโทรพูดคุยกับทนายของคู่กรณี และหลังจากนี้คงไปเจอที่ชั้นศาลทีเดียว หลังจากนี้หากคดีสิ้นสุดแล้ว และมีการรีโนเวทบ้านใหม่แล้ว อาจจะมีการปล่อยเช่าหรือขาย แต่ก็จะมีการปรึกษากับอากู๋อีกครั้ง ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร แต่ยืนยันจะไม่ขายให้กับคู่กรณี ซึ่งตนเองมีความมั่นใจว่าจะชนะคดี และเชื่อว่าศาลท่านจะเมตตา เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัวตนอย่างชอบธรรม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปยุ่งอะไรกับคู่กรณี


นายซัน ยังบอกอีกว่า คดีนี้มีผู้ต้องหามากกว่า 5 คน แต่ที่แจ้งความแค่นี้ เพราะความเมตตาจึงเอาผิดแค่คนหลัก ๆเท่านั้น ส่วนพยานบุคคล ที่เป็นพยานให้คู่กรณีก่อนหน้านี้ ก็จะให้ทนายดูว่า หากเป็นพยานเท็จ ก็จะดำเนินการทางกฎหมาย ตนเองมั่นใจในพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าคู่กรณีเข้ามาครอบครองบ้านของตนไม่เกิน 10 ปี


จากนั้น 10.46 น. น.ส.ศรีพรรณ กับพวกผู้ต้องหาบุกรุก รวม 5 คน  ผู้ต้องหา 5 ราย เดินทางมาพร้อมกับนายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความคนเก่า ซึ่งมาดูแลคดีอาญาให้กับผู้ต้องหา ซึ่งทันทีที่ลงมาจากรถ โดยทั้งหมดสวมแว่นดำสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า บางคนสวมหมวก รีบขึ้นไปด้านบนของอาคาร ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามว่า มีอะไรอยากชี้แจงหรือไม่ / กังวลกับ 3 ข้อหา ที่ถูกแจ้งดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้หรือไม่ / รวมถึงกังวลกับการยื่นคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ / ซึ่งทั้ง 5 คน ได้แต่ก้มหน้าส่ายหัวเล็กน้อย ไม่ยอมเปิดปากตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด


หลังจากทั้ง 5 คน เข้าพบพนักงานอัยการ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็ได้เดินลงมาจากชั้น 2 พร้อมทนาย โดยทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และใช้เสื้อคลุมอำพรางใบหน้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกครั้ง ว่าอยากจะชี้แจงอะไรหรือไม่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลุ่มผู้ต้องหาก็ไม่ได้ตอบอะไร และรีบเดินก้มหน้าขึ้นรถเดินทางกลับไปทันที โดยทางอัยการได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน โดยไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีไม่ร้ายแรง และหากไม่มีการร้องขอ หรือมีความเปลี่ยนแปลงใด ก็จะส่งให้ศาลพิจารณาภายในวันที่ 6 มีนาคม นี้


ขณะที่ฝ่ายของนายซัน และนางสาวอาย แฟนสาวของนายซัน หลังจากเข้าพบกับพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ก็เปิดเผยว่า ระหว่างที่เข้าพบพนักงานอัยการ ได้เจอกับคู่กรณีทั้ง 5 คนแล้ว แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เพราะนั่งกันคนละฝั่ง ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาก็ไม่ได้เข้ามาขอโทษหรือพูดอะไรกับตน และจากการสังเกต ทุกคนมีสีหน้าค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด  แต่ทางฝั่งของตนเองก็มั่นใจเหมือนกัน ว่าจะสามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้แน่นอน เพราะมีพยานหลักฐาน และเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ส่วนการมายื่นคัดค้านการประกันตัว  ก็ขอให้เป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการว่าจะพิจารณาอย่างไร ตนเองก็ยอมรับ และเคารพในขบวนการยุติธรรม เพราะคิดว่าอัยการจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


ด้านทนายความของทั้งคู่ เผยว่า พนักงานอัยการได้นัดผู้ต้องหาอีกครั้งวันที่ 6 มีนาคม 67 เพื่อมาฟังคำสั่งฟ้อง ซึ่งสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ผู้ต้องหาก็มีสิทธิ์ร้องขอความเป็นธรรมได้ ก็อยู่ที่อัยการจะพิจารณา


ขณะที่นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 กล่าวถึงขั้นตอนการพิจารณาสำนวนว่า หลังจากพนักงานสอบสวน นำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานอัยการ อัยการจะใช้เวลาในการพิจารณาสำนวนไม่เกิน 1 เดือน  เนื่องจากคดีนี้ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน และคาดว่าจะมีความเห็นทางคดีได้ว่าจะมีความเห็นฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่ ซึ่งอัยการนัดฟังคำสั่งวันที่ 6 มี.ค.2567


จากนั้น นายซันได้เดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ในส่วนของคดีใหม่ ที่ สน.โคกคราม เพราะเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนเองได้ประสานตำรวจเข้ายึดป้ายร้านขายไก่ทอด ป้ายห้ามผู้อื่นบุกรุก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านที่คู่กรณีนำเข้าไปไว้ เพื่อนำไปเป็นของกลางทางคดี


ขณะที่ทีมข่าวได้กลับไปสำรวจที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าไม่มีใครกลับเข้าไปที่บ้าน โดยด้านหน้าบ้านได้มีการคล้องกุญแจล็อคเอาไว้  จากการสังเกต มีเพียงการวางเครื่องครัวเอาไว้เท่านั้น เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง ก็บอกเพียงว่าไม่ทราบว่ามีใครกลับมาบ้างหรือไม่ และส่วนตัวไม่ได้รู้จัก หรือ สนิทสนมกับทั้งสองฝ่าย


ในวันเดียวกัน ‘น้องไก่ทอด’ ที่ถูกนำเบอร์โทรศัพท์มือถือ ไปขึ้นป้ายขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ซึ่งเธอยืนยันไม่เคยรู้จักกลุ่มคนที่บุกรุกหรือเกี่ยวข้องอะไรกับบ้านหลังนี้ และไม่เคยขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาด้วย รู้สึกแปลกใจเพราะมีคนโทรศัพท์มาหา 3 วัน 3 คืน มีทั้งด่าและสั่งซื้อไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ซึ่งเจ้าตัวก็งงว่าทำไมถึงโทรเข้าเบอร์นี้ กระทั่งมีนักข่าวโทรฯ มา จึงทราบว่า ถูกนำเบอร์โทรศัพท์ไปขึ้นป้ายขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ซึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.หาดใหญ่ แล้ว


https://youtu.be/oF_7T6sEKpM

คุณอาจสนใจ