อาชญากรรม
ตร.ไซเบอร์ จับเจ้าหน้าที่ธนาคาร นำข้อมูลลูกค้า ขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดย nutda_t
15 ก.พ. 2567
3.4K views
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลปฏิบัติการจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ถึง 3 คดี ประกอบไปด้วย คดีจับเจ้าหน้าที่ธนาคารด้านสินเชื่อ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปขาย , คดีจับกุมผู้ต้องหาเป็นธุระจัดหาพาคนไปเปิดบัญชีม้าที่ประเทศเพื่อนบ้าน และคดีจับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์
ในคดีแรก คดีการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจไซเบอร์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขายข้อมูลส่วนบุคคลได้กว่า 9 ราย จากปฏิบัติการณ์ 7 ครั้งที่ผ่านมา ต่อมาได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPC
จนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อของสถาบันการเงินเอกชนแห่งหนึ่ง คือนายสุวรรณ อายุ 42 ปี ชาว จ.นนทบุรี มีพฤติการณ์ลักลอบนำข้อมูลของลูกค้าในสถาบันการเงินของตนเองมาดัดแปลง แก้ไข และจำหน่ายไปยังกลุ่มคนที่สนใจข้อมูล อาทิ ตัวแทนสินเชื่อ ตัวแทนประกัน และมีข้อมูลบางส่วนตกไปยังมือของกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทางตำรวจไซเบอร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับนายสุวรรณ ในข้อหาล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น เนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตำรวจไซเบอร์ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสุวรรณ ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบตัวนายสุวรรณ พร้อมของกลางได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือที่เก็บไฟล์ภาพข้อมูลของลูกค้า
จากการสอบปากคำ นายสุวรรณ ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อในการประสานงานกับลูกค้า จึงเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ส่วนหนึ่ง ก่อนที่ทำการจดบันทึกและจัดทำเป็นไฟล์เอกสาร นำข้อมูลลูกค้าไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มนายหน้าประกันหรือนายหน้าสินเชื่อของสถาบันการเงินอื่น ๆ โดยไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จากนั้น นายสุวรรณ จะทยอยนำรายชื่อลูกค้าเครดิตดีและมีชื่อเสียง ครั้งละ 3,000-5,000 รายชื่อ ไปจำหน่ายต่อในราคาที่ละ 1 บาท ทำให้นายสุวรรณ มีรายได้เพิ่มเติมเดือนละหลายหมื่นบาท กระทำแบบนี้มาแล้วต่อเนื่อง 1-2 ปี
แท็กที่เกี่ยวข้อง ขายข้อมูลส่วนบุคคล ,แก๊งคอลเซ็นเตอร์