สังคม

นายกฯปาฐกถา เวที Thailand Energy Executive Forum คาดภายใน 2040 ไทยมีไฟฟ้าพลังงานสะอาดใช้ร้อยละ 50

โดย panwilai_c

14 ก.พ. 2567

84 views

นายกฯปาฐกถา เวที Thailand Energy Executive Forum ตั้งเป้าภายใน 2040 ไทยได้ใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดร้อยละ 50



วันนี้มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญเรื่องทิศทางพลังงานของประเทศไทย ในเวที Thailand Energy Executive Forum โดยสถาบันวิทยาการพลังงาน หรือ วพน.นายกรัฐมนตรีในฐานะองค์ปาฐก ในปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน คาดการณ์ว่าภายในปี 2040 หรืออีก 16 ปีข้างหน้า ร้อยละ 50 ของไฟฟ้าประเทศไทยจะมาจากพลังงานสะอาด ส่วนการแทรกแซงราคาพลังงานจะกลายเป็นการรัฐประหารทางเศรษฐกิจ ขณะที่เวทีสัมมนาทิศทางพลังงานไทยปี 2567 คาดว่าราคาพลังงานจะลดลง



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานเปิดงาน Thailand Energy Executive Forum และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าพลังงานถือเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต เมื่อวานนี้ในที่ประชุม ครม.ได้มีข้อสั่งการในการช่วยเหลือลดค่าไฟสำหรับเครื่องสูบน้ำการทำนา เนื่องจากการเกษตรถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่จำเป็นจะต้องทำเพื่อลดช่องว่างทางสังคม



นายกฯกล่าวว่า ทั้งนี้เกษตรกรต้องการความช่วยเหลือ และการช่วยเหลือเกษตรกรก็ต้องช่วยเหลือแบบอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่รอพึ่งการสนับสนุนจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียวในทุกเรื่อง ซึ่งต้องยอมรับว่าพลังงานเป็นต้นทุน และองค์ประกอบใหญ่อย่างหนึ่งของการทำเกษตร ยอมรับว่าพลังงานโซลาร์เซลล์ถือเป็นพลังงานที่ถูกที่สุด ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนการทำตามหมู่บ้านต่างๆ ทำให้ค่าไฟถูกลงและเกษตรกรใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ



นายกฯกล่าวว่า ขณะเดียวกันพลังงานและอุตสาหกรรมก็มีความสำคัญ หลังจากตนรับตำแหน่ง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ได้เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามา โดยเฉพาะนักลงทุนทั่วโลกถามถึงพลังงานสะอาด โดยเฉพาะสหรัฐและจีน ดังนั้น เชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานจะให้ความสำคัญและตระหนักดีในเรื่องนี้ ที่จะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศมาได้



นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการหารือกับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ผ่านมาว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่เรามีความสัมพันธ์กันดี มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ซึ่งตนกับนายรัฐมนตรีกัมพูชามีความสัมพันธ์อันดี ได้หารือในประเด็นชายแดน การค้า ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนระหว่าง 2 ประเทศ การดูแลแรงงานชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทยเนื่องจากแรงงานไทยเองไม่พอเพียงพอ โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอให้ไทยดูแลค่าแรงให้เหมาะสม การเจรจาอีกเรื่องที่สำคัญคือ OCA หรือพื้นที่ทับซ้อนซึ่งมูลค่ามหาศาล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขไหนที่คนพูดถึง อาจพูดถึง 20 ล้านล้านบาทก็ได้



ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าการทุบโดยไม่ต้องสนใจกลไกการตลาด จะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจ เราอาจจะได้ค่าไฟถูกอยู่ไม่กี่วัน ก่อนที่จะควักเอาเงินของประชาชนมาจ่าย การลงทุน การส่งออก การจ้างงานอยู่ในใจของคนทั้งโลกไปนานนับปี ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่ว่าเรามีกลไกการสนับสนุนเรื่องภาษีที่ดีแล้ว มีมาตรการต่างๆ ที่ทำให้คนมาอยู่ในประเทศไทยอย่างมีความสุข แต่เรื่องราคาพลังงานก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ หากมองในระยะยาวเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง พร้อมที่จะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเพื่อมาตั้งฐานการผลิต



และระบุว่าเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่ประเทศไทยไม่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขนาดใหญ่เลย มันเป็นไปได้อย่างไร ฉะนั้น วันนี้ต้องมีการประชุมโครงสร้างพื้นฐาน ต่อไปควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญเรื่องพลังงานสะอาด พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญ ในการขับเคลื่อน ประเทศไปข้างหน้า ทุกภาคส่วน ตั้งแต่บริษัทต่างชาติที่ไปชักชวนให้มาลงทุน ตลอดจนภาคส่วนเกษตรกร ต้องการพลังงานสะอาดที่ราคาถูกทั้งสิ้น ซึ่งในปี 2040 เราได้คาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนคือเป็นพลังงานสะอาดมากกว่า 50% ของไฟฟ้าทั้งหมด



ส่วนเวทีสัมมนาเรื่องทิศทางพลังงานไทยปี 2567 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด กล่าวระหว่างเสวนา กรณีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา ในมุมของ ปตท.อาจจะมีโมเดลให้ศึกษาได้ อย่างพื้นที่ไทย-มาเลเซีย ทั้งนี้ เรื่องการแบ่งดินแดนไม่น่าจะสรุปได้ เพราะเข้าใจว่าการแบ่งพื้นที่แม้แต่ตารางนิ้วเดียวต้องมีปัญหา หากมาหารือกันเรื่องของวัตถุดิบที่อยู่ใต้ดิน น่าจะหารือได้ไม่ยาก เพราะประเทศไทยมีท่อก๊าซและโครงสร้างพื้นฐานใกล้ๆ พื้นที่ทับซ้อนอยู่แล้ว การจะขุดเจาะและนำขึ้นมาใช้ก็ง่าย ส่งไปกัมพูชาสะดวก



นายอรรถพล กล่าวว่า ปตท.มีภารกิจคือการสร้างความมั่นคงพลังงานของประเทศ ไม่ว่าหน้าตาของพลังงานประเทศจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ปตท.ต้องตามไปทำ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภูมิรัฐศาสตร์ สภาวะและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และสภาพสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติในช่วงที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู แต่ปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่มีสถานการณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ความคลี่คลายจากสถานการณ์ต่างๆ ส่งผลให้ราคาพลังงานในปี 2567 จะลดลง



ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ราคาค่าไฟของไทยงวดปัจจุบันระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2567อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งด้านการลงทุนไทยอย่างเวียดนามซึ่งราคาเพียง 2.67 บาทต่อหน่วย และนอกจากราคาพลังงานเหมาะสมแข่งขันได้ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไทย 5 ด้านหลักคือ 1.สนับสนุนการเปลี่ยนใช้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพ 2.สนับสนุนใช้พลังงานหมุนเวียน 3.พัฒนาบุคลากร 4.ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และ 5.จัดทำฐานข้อมูลอุตสาหกรรม



ขณะเดียวกันในการสนับสนุนการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งปัจจุบันอีวีจีนเข้ามาจำนวนมาก อยากให้รัฐบาลสนับสนุนให้การลงทุนสะอาดทั้งระบบ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมสีเขียว มุ่งสู่บีซีจี และสามารถมุ่งเน็ตซีโร่ได้

คุณอาจสนใจ

Related News