สังคม

หนุ่มพิการตาบอด เครียดไม่มีงานทำ ถูกพ่อตำหนิ คว้าเชือกผูกคอเสียชีวิต ทิ้งจดหมายลา 18 ฉบับ

โดย gamonthip_s

3 ก.พ. 2567

1.6K views

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.พ.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากนาย ธิติวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้องนอนของบ้าน หมู่ที่ 7 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู


ที่เกิดเหตุต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไปในคลองตาเพิ่มประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านขวามือ พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงปลูกติดริมคลอง ภายในห้องนอนพบร่าง นาย ไพรวัลย์ อายุ 33 ปี ใช้เชือกไนล่อนผูกกับตัวล็อกสายเข็มขัดนิรภัยแขวนกับเขื่อภายในห้องนอน สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง บริเวณบนที่นอนพบกระดาษ A4 ที่ผู้ตายเขียนระบายความในใจจำนวน 18 ฉบับ



จากการสอบถาม นาย สมพงษ์ อายุ 62 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ให้การว่าเมื่อประมาณ 10 ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตเคยเป็นทหารเรือ โดยในขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้ประสบอุบัติเหตุขับรถกระบะชนกับเสาไฟฟ้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นดวงตาขวาบอด และผ่าตัดสมอง จนกระทั่งปลดประจำการแล้วมาพักอยู่บ้าน ทำอาชีะรับจ้างจับหอย จับปู และงานอื่น ๆ แถวบ้าน กระทั่งเมื่อช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตไม่มีงาน และขอเงินทางบ้านบ่อย ตนเลยบ่นให้ผู้เสียชีวิตให้ออกไปหางานทำ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัวทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความน้อยใจ เก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้อง


กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. วันนี้ ภรรยาของตนจะเอาของเก่าที่เก็บไว้ในบ้านใส่เรือออกไปขาย จึงตะโกนเรียกผู้เสียชีวิตให้ออกมาช่วย แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงเดินไปเปิดประตูห้องนอน พบผู้เสียชีวิตแขวนคอกับเขื่อเสียชีวิตแล้ว โดยระหว่างที่ตนออกไปถางหญ้าอยู่ที่วังเลี้ยงกุ้ง ส่วนในบ้านเหลือแค่ภรรยาตน และผู้เสียชีวิต ลูกชายคนเล็กได้โทรศัพท์มาบอกว่าแม่เห็นพี่ชายผูกคอตายในห้องนอนแล้ว จึงได้รีบกลับมาที่บ้าน ต้องตกใจไม่คิดว่าจะคิดสั้นได้ขนาดนี้ คิดว่าลูกน่าจะเครียดที่เป็นภาระคนในครอบครัว และตัวเองพิการไม่สามารถหางานทำเป็นหลักแหล่งได้ พร้อมทั้งยังถูกตนกับภรรยาตำหนิหลายครั้งจนเครียด


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพ และลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมทั้งประสานญาติให้เดินทางไปติดต่อขอรับศพมาดำเนินการตามประเพณีต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News