'พิธา' เดินยิ้มแย้มเข้าสภาฯ ครั้งใหม่ ติง นโยบาย 'เงินดิจิทัล' กระทบเศรษฐกิจระยะยาว

หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ายังไม่พ้นตำแหน่ง สส.วันนี้ คุณพิธา เดินทางเข้ารัฐสภาเป็นครั้งแรกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยมาในชุดเดิมที่เคยใส่วันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีเจ้าหน้าที่สภาและบรรดาแฟนคลับรอต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น


บรรยากาศช่วงที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงรัฐสภา มีกลุ่มแฟนคลับประมาณ 10 คน มารอด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา ให้กำลังใจ ก่อนที่นายพิธาจะเข้ามาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน


ทั้งนี้นายพิธาได้ใส่เนคไทเส้นเดิมที่ใส่ในวันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และต้องเดินออกจากห้องประชุมสภาเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว คือวันที่ 19 ก.ค.ปีที่แล้ว


นายพิธา กล่าวว่า ที่เลือกใส่เนคไทเส้นเดิม ไม่ใช่กิมมิคอะไร เมื่อเช้ารีบไปรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ตอนเลือกเนคไทจำได้ว่าเส้นนี้เป็นเส้นที่ใส่ตอนที่เราชูกำปั้น เลยนึกสนุกขึ้นมา ส่วนความรู้สึกของก้าวแรกในสภาฯ นายพิธา บอกว่า เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย


จากนั้นนายพิธา ก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องเสียงครหาเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของ สส.และสมาชิกพรรคก้าวไกล ซึ่งนายพิธา ได้บอกว่า ขอแสดงความเสียใจ และขอโทษประชาชน ช่วงที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่นายชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็ไม่อยากเป็นสถาบันที่มีหัวหน้า 2 คน "เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุง โดยที่ไม่แก้ตัว ยอมรับว่าเรายังต้องพัฒนากันอีกเยอะ"


ส่วนเรื่องจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธา ก็ย้ำเหมือนเดิมว่า แล้วแต่สมาชิกพรรค ตนและนายชัยธวัชไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แลก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องเลื่อนประชุมวิสามัญของพรรคเข้ามาจากเดือน เม.ย.


นายพิธา ยังกล่าวถึงความคาดหวังที่ให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถามสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการเปรียบเทียบกับตัวเอง ว่า หากวันใดวันนึงที่พรรคก้าวไกลเข้าเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องกลับเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง จึงหวังว่ามาตรฐานที่วางไว้ให้กับตัวเอง ก็เป็นบรรทัดฐานที่คาดหวังจากคนอื่นได้


ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อควรระวังอะไรให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า ตนยึดประชาชนเป็นที่ตั้งและไม่ได้ค้านทุกเรื่อง ค้านเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือค้านเพื่อจะแนะนำ และยังเชื่อว่ามีวาระเพื่อประชาชนอีกมากมายโดยไม่ต้องคำนึงว่ามาจากพรรคไหน เช่น สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.อากาศสะอาด เราเชื่อว่ายังทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ได้


นายพิธา ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลด้วย ว่า ขณะนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนพอสมควร เศรษฐกิจโตช้าและซบเซาเป็นเวลานาน ซึ่งไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลปัจจุบัน


แต่ก็กังวลว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการใช้งบประมาณระยะยาว จะทำให้ไม่มีพื้นที่การคลังในการแก้ปัญหาระยะยาว จึงอยากจะชวนรัฐบาลให้คิด ว่าจะมีแผนสองหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการแจกเงินแบบบนลงล่าง หากแก้ปัญหาให้ตรงจุด ก็จะทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณและไม่ต้องกู้เงินสร้างภาระเพิ่มขึ้น


ช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าสภาครั้งนี้แล้ว ไม่มีออกใช่หรือไม่ นายพิธา คิดนิดนึงก่อนจะตอบพร้อมยิ้มว่า "ถ้าจะออก ก็ออกไปทำเนียบอย่างเดียว"


ภายหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายพิธา เดินขึ้นไปหน้าห้องประชุมสภา เพื่อรับบัตร สส. จากนั้นได้ไปพบปะข้าราชการที่รอให้กำลังใจในการกลับมาทำหน้าที่ สส. ก่อนจะไปพูดคุยกับน้องนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรม School in Parliament ประจำปี 2567


จากนั้นได้เดินไปยืนรอหน้าห้องประชุม และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมอยู่ ได้อ่านเอกสารศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยให้นายพิธา ไม่พ้นจาก สส. จำนวน สส. เท่าที่มีอยู่ครบถ้วน 500 คน


ซึ่งเมื่อประธานวันนอร์ อ่านหนังสือจบ นายพิธา ก็เดินเข้าสู่ห้องประชุมทันที โดยได้หันไปโบกมือทักทายกับ สส. จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนจะเดินมาทักทายและสวมกอดกับนายกันวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อเป็นธรรม รวมถึงทักทายส.สพรรคก้าวไกล และได้ชนหมัดกับนายชุติพงษ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่ข้างน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dwV4RgRQkak