จีนประชากรลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 สาเหตุอัตราเกิดต่ำ-การเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เผยจำนวนประชากรเมื่อปี 2566 ของจีน ลดลงเหลือ 1.409 พันล้านคน ลดลง 2.08 ล้านคน หรือคิดเป็น 0.15% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประชากรที่ลดลง 850,000 คน ในปี 2565 ที่ผ่านมามากกว่า 2 เท่า

จำนวนประชากรที่ลดลงของจีน มีสาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ต่ำลง และการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น

เมื่อปีก่อน จีนมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 11.1 ล้านคน ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ 7.87 คนต่อประชากร 1,000 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 ซึ่งเป็นช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม


ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนยังเปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว จีนมีจำนวนประชากรเกิดใหม่ลดลง 5.7% เหลือ 9.02 ล้านคน คิดเป็น 6.39 คน ต่อประชากร 1,000 คน เทียบกับ 6.77 คน ในปี 2565 ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ทั้งนี้ อัตราการเกิดในจีนที่ลดลงตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากนโยบายลูกคนเดียวที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2523-2558 แม้รัฐบาลจะยกเลิกนโยบายดังกล่าวไปแล้ว และอนุญาตให้ประชาชนมีลูกได้มากถึง 3 คน แต่ประชาชนกลับไม่ต้องการมีลูก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น และการตกงาน ขณะที่ผู้หญิงชาวจีนหลายคนก็ให้ความสำคัญกับการทำงานเพิ่มมากขึ้น

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เนื่องจากจีนพึ่งพาแรงงานมหาศาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ขณะที่ปีที่แล้ว อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนช้าที่สุดครั้งหนึ่งในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดยจีดีพีขยายตัว 5.2% แตะ 126 ล้านล้านหยวน (ราว 628 ล้านล้านบาท)