สังคม

เตือน กทม.-ปริมณฑล รับมือฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูง 14-17 ม.ค.นี้

โดย passamon_a

14 ม.ค. 2567

87 views

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า พล ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ คพ. ประสาน กทม. เตรียมรับมือและเข้มงวดการจัดการแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน


หลังจาก คพ. ตรวจสอบสถานการณ์พบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 14-17 มกราคม 2567 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ขึ้นสูงในหลายพื้นที่ เนื่องมาจากอัตราการระบายอากาศที่ค่อนข้างต่ำ ลมสงบ ทำให้ฝุ่นสะสมในระดับใกล้ผิวพื้น ประกอบกับแนวลมจะเปลี่ยน จากลมใต้เป็นลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลายเป็นพื้นที่ท้ายลมที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นที่มาจากพื้นที่ใกล้เคียงได้


นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า หลังจาก คพ.ได้แจ้งข้อมูลสถานการณ์ และประสาน กทม. ทราบว่า กทม.ได้ดำเนินการเตรียมรับมือ โดยยกระดับตรวจเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษทุกประเภทในพื้นที่ กทม. จัดทำห้องปลอดฝุ่นในโรงเรียนสังกัด กทม. สำหรับเด็กเล็กและเด็กอนุบาลครบ 100% ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เข้าร่วม เครือข่าย WFH ลดฝุ่น PM 2.5 ให้ WFH หรือทำงานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทาง


รวมทั้งเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแคมเปญ รถคันนี้ลดฝุ่น โดยนำรถมาเข้ารับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/ไส้กรอง ด้วยโปรโมชั่นส่วนลดราคาจากศูนย์บริการถึง 55% และเพื่อลดผลกระทบการสะสมฝุ่นใน กทม. ขอให้จังหวัดในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือใกล้ปริมณฑล ควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรตามที่ คพ. ได้แจ้งไปด้วย


ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 6 (6/2567) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2567)


ในช่วงวันที่ 14-16 ม.ค.67 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมอ่าวไทยตอนบน ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก


ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงมีฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย


ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบดังนี้


วันที่ 14 มกราคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  


วันที่ 15-16 มกราคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย

ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/by-gbxEM1D0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ฝุ่นpm2.5 ,ฝุ่นกทม. ,พยากรณ์อากาศ

คุณอาจสนใจ