ภาคประชาสังคมชายแดนใต้ เรียกร้องรัฐฯยุติการดำเนินคดีปิดปากนักกิจกรรม จชต.

ภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมให้กำลังนักกิจกรรมที่ถูกดีเอสไอดำเนินคดี จากการเปิดเพจชมรมพ่อบ้านใจกล้าระดมทุนช่วยผู้เสียหายจากคดีวิสามัญฆาตกรรม ขณะที่เครือข่ายภาคประชาสังคม ทำหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติกรณีรัฐไทยดำเนินคดีปิดปากนักกิจกรรมกว่า 40 คดี ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยกเลิกการดำเนินคดีปิดปากสวนทางการพูดคุยเพื่อสันติภาพ


นายซาฮารี เจ๊ะหลง นักกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรม และสื่ออิสระ พร้อมด้วยนายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเต๊ะ ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เข้าพบ พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ตามหมายเรียกคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่สำนักงานดีเอสไอ อ.เมือง จ.ปัตตานี จากกรณีนายซาฮารี เปิดเพจชมรมพ่อบ้านใจกล้า ระดมทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการวิสามัญฆาตกรรม ซึ่ง 3 ปีหลังโควิดมีผู้ถูกวิสามัญมากถึง 76 ราย ครอบครัวที่เหลือเป็นผู้หญิงและเด็กที่ต้องกำพร้า เข้าไม่ถึงเงินเยียวยาอยากรัฐ จึงเปิดเพจรับบริจาคเพื่อมนุษยธรรม เป็นการรวมกลุ่มเพื่อนภาคประชาสังคม ที่ตั้งชื่อว่า พ่อบ้านใจกล้า เพราะมองเป็นงานอดิเรกที่จะได้ช่วยผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ช่วงแรกใช้ชื่อบัญชีส่วนตัว เมื่อมีผู้บริจาคมากขึ้นจึงบริหารจัดการเป็นระบบขึ้น โดยผู้ร้องเรียนมองว่านำเงินไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่ามีความโปร่งใส และมีหลักฐานตรวจสอบได้ และไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือก่อการร้ายแต่เป็นเพียงงานด้านมนุษยธรรม


ทนายความเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนให้ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดเกี่ยวข้องกับการทุจริต หลอกลวงให้ข้อมูลที่เป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งนายซาฮารี ให้การปฏิเสธ จะให้การเป็นเอกสารภายใน 30 วัน ซึ่งคดีนี้อาจเป็นเพียงคดีทุจริตธรรมดา แต่การที่ดีเอสไอมาสอบสวนเพื่อให้เป็นคดีพิเศษ ก็จะทำให้เป็นคดีความมั่นคง จึงอยากให้ดีเอสไอชี้แจง


หมายเรียกของนายซาฮารี เป็นหนึ่งในกว่า 40 คดีที่รัฐดำเนินคดปิดปากนักกิจกรรม วันนี้จึงมีนักการเมืองและภาคประชาสังคมมาติดตาม เช่นนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จะรวบรวมการดำเนินคดีปิดปากหารือในชั้นกรรมาธิการทั้งความมั่นคงและสันติภาพ ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางกับการพูดคุยเพื่อสันติ


ขณะที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ก็มองว่ารัฐทำเกิดกว่าเหตุ สวนทางกับความพยายามสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติ


ซึ่งภาคประชาสังคมได้ยื่นจดหมายด่วนถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และคณะมนตรีเพื่อสิทธิมนุษยชนกรณีมีการดำเนินคดีกับนักกิจกรรม รวมถึงกลุ่มที่แต่งชุดมลายู ในเทศกาลฮารีรายอ และจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 มกราคม ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ขอให้ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการ กอ.รมน. /กองทัพภาค 4 ให้ยุติการดำเนินคดีปิดปากนักกิจกรรม และขอให้รัฐมนตรียุติธรรม นำหลักนิติธรรมมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้