อาชญากรรม
2 ผัวเมียแสบ หลอกขายของทางออนไลน์ เสียหายกว่า 10 ล้าน เมียมีหมายจับติดตัวกว่า 7 คดี
โดย paranee_s
24 ธ.ค. 2566
405 views
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม นายภาณุพงษ์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ 288/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” และ น.ส.กุศญา อายุ 36 ปี มีหมายจับจำนวน 7 หมาย
ได้แก่ หมายจับศาลอาญา ที่ 270/2566 ลง 24 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” , ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ286/2566 ลง 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” , ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 124/2565 ลง 10 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 130/2566 ลง 14 มิถุนายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” , ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 604/2564 ลง 24 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และโดยทุจริตนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” , ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงระยอง ที่ 134/2563 ลง 26 มิถุนายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 258/2563 ลง 13 สิงหาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการใช้หรืออ้างเอกสารปลอม, ปลอมเอกสาร ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และฉ้อโกง”
โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 22 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2564 นายภาณุพงษ์ กับ น.ส.กุศญา และพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนผลิตกาแฟเพื่อนำไปจำหน่ายทางออนไลน์และขายส่งให้กับบริษัทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในประเทศ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุน จำนวนกว่า 3 ล้านบาท
ต่อมาพบว่า น.ส.กุศญา ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว เมื่อมีการทวงถามขอเงินคืนก็บ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับเงินคืน ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสืบสวนพบว่า น.ส.กุศญา กับพวก ได้มีการหลอกขายสินค้าทางออนไลน์อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายจำนวน 20 - 30 คน ซึ่งจะหลอกขายหน้ากากอนามัย, เครื่องสำอาง, เครื่องทำความสะอาดหน้า, อุปกรณ์ชงกาแฟ และอีกหลายอย่าง โดยใช้เทคนิคสร้างบัญชีปลอมขายของ เมื่อได้เงินก็จะปิดบัญชีหลบหนีไป
นอกจากนี้พบว่า น.ส.กุศญาฯ มีหมายจับจับติดตัวจำนวน 7 หมาย และนายภาณุพงษ์ฯ จำนวน 1 หมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้หลบหนี มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 22 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงนำกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นนำตัว น.ส.กุศญา ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. และนำตัว นายภาณุพงษ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงลูกหลาน ผู้สูงอายุ ที่คิดจะซื้อของออนไลน์ ให้ใช้สติและตรวจสอบที่มาความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์, ผู้ขายรวมทั้งบัญชีธนาคารที่โอนไปให้แน่ชัด ควรซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกลาง หรือเว็บไซต์ร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ และควรอ่านรีวิวให้เยอะก่อนซื้อ รวมทั้งเช็กข้อมูลจากเว็บไซต์ตรวจสอบการฉ้อโกงออนไลน์ หากบัตรประชาชน, บัญชีธนาคาร, ชื่อเพจ, หรือชื่อไลน์ไม่ตรงกัน อย่าโอนเงิน โดยเฉพาะการลงทุนทางช่องออนไลน์ที่มีมูลค่าการลงทุนสูง ควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะมีการลงทุน ให้แน่ใจว่าเป็นบริษัทที่มีตัวตน ไม่มีเจตนาหลอกลวง ไม่ฝากและไม่โอนเงินลงทุนเข้าบัญชีส่วนตัวของบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะคนที่มาชักชวนลงทุน หรืออ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัท
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
แท็กที่เกี่ยวข้อง