อาชญากรรม

‘ลุงพล-ป้าแต๋น’ ทำพิธีผูกแขนเอิ้นขวัญ แฟนคลับกอดให้กำลังใจ ปัดข่มขู่พยานปากเอก ยังคาใจปมเจอผมในรถ

โดย nattachat_c

22 ธ.ค. 2566

111 views

‘ลุงพล-ป้าแต๋น’ ทำพิธีผูกแขนเอิ้นขวัญ กอดให้กำลังใจ ‘ลุงพล’ โต้ประเด็นพยานปากเอกแม่ชมพู่ ยัน ไม่เคยทำตามที่พยานรายนี้ระบุ ขณะที่ ‘ป้าแต๋น’ บอกไม่ได้อวยผัวแต่ลุงพลยังดีกว่าเจ้าหน้าที่บางคน พร้อมตั้งคำถามเหตุใดป้าแต๋นไม่ถูกดำเนินคดี แต่ลุงพลกลับถูกดำเนินคดีทั้งที่เป็นคดีเดียวกัน


วานนี้ (21 ธ.ค. 66) ช่วงเช้า ที่วังปู่ปาริจิต-นาลุงพลป้าแต๋น ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น นิมนต์พระสงฆ์ 7 รูป เดินทางมายังพื้นที่ เพื่อตักบาตรทำบุญ โดยมีขนม ของว่างอาหารแห้ง บรรจุใส่ถุงเป็นห่อ ๆ เอาไว้ เพื่อใส่บาตร ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้าแววตาที่สดใส


ภายหลังจากใส่บาตรกับพระสงฆ์ทั้ง 7 รูป ด้านลุงพล และป้าแต๋น ร่วมกรวดน้ำ ก่อนจะรับฟังบทสวด ก่อนจะเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า และทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ หรือพิธีเอิ้นขวัญ


จากนั้น แฟนคลับของลุงพลป้าแต๋น รวมถึงชาวบ้านจำปาดง ชาวบ้านใกล้เคียง และชาวบ้านกกกอกที่มาบางส่วน ร่วมกันนำเชือกสีขาวติดเงินมาผูกข้อไม้ข้อมือจนเต็มมือของลุงพล และป้าแต๋น พร้อมนำข้าวเหนียว และไข่ต้มมาให้ลุงพล และป้าแต๋นกำไว้ เพื่อให้พ้นจากสิ่งไม่ดีในชีวิต ซึ่งบางคนถึงกับร้องไห้บอกว่า สงสารลุงพลป้าแต๋น ก่อนอวยพรให้ลุงพลป้าแต๋นพ้นทุกข์พ้นโศก ทุกคนยังเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวของทั้งคู่


ต่อด้วยพิธีกอดให้กำลังใจลุงพล โดยเริ่มจากป้าแต๋นเป็นคนสวมกอดลุงพล ก่อนร้องไห้ออกมาทั้งคู่ หลังจากกลั้นน้ำตาเอาไว้ตั้งแต่ช่วงพิธีบายศรีสู่ขวัญ ตามด้วยกลุ่มแฟนคลับ และเหล่ายูทูบเบอร์ทยอยกันกอดให้กำลังใจป้าแต๋น โดยทุกคนร้องไห้ มีน้ำตา เพราะสงสารลุงพลกับป้าแต๋นเป็นอย่างมาก


จากนั้น ก็มีพิธีการกอดกันให้กำลังใจ โดยมีผู้ใหญ่ใจดีขอให้ทำกิจกรรมนี้ โดยการกอดกันนั้นป้าแต๋นและลุงพล เริ่มจากลุงพลป้าแต๋นกอดกัน แล้วป้าแต๋นก็ตบไหล่ลุงพล ทั้งสองคนก็มองสบตากัน


หลังจากนั้น ยูทูบเบอร์ก็พากันทยอยต่อแถวเข้ากอดให้กำลังใจลุงพลป้าแต๋นโดยลุงพลถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ เช่นเดียวกับป้าแต๋นก็ร้องไห้


โดยบางช่วงในการทำการกอดนั้น มีการเปิดเพลงช่วงท่อนหนึ่งในเนื้อเพลงระบุว่า “ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนผิด” ลุงพลและป้าแต๋นก็น้ำตาไหลตลอดช่วงที่กอดกัน

-------------

หลังจากนั้น ลุงพลและป้าแต๋น ก็ให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า การทำพิธีในวันนี้เป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กลับมา ซึ่งเป็นปกติ ทุกครั้งที่เดินทางไปที่ศาลก็จะกลับมาทำพิธีเช่นนี้ เพราะเอฟซีและกลุ่มคนที่รักลุงพลป้าแต๋นเชื่อว่า เป็นการเรียกขวัญให้กลับไปอยู่ที่บ้านกลับมาอยู่ที่เดิม


ส่วนการกอดกันนั้น ก็เป็นแนวคิดของผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ที่อยากให้กำลังใจลุงพลป้าแต๋นว่าทุกคนยังอยู่เคียงข้างไม่ได้ไปที่ไหน


โดยลุงพล ระบุว่า ความรู้สึกวันนี้มันตื้นตันใจมาก หลังจากเมื่อวาน (20 ธ.ค. 66) ที่กลับมา แฟนคลับก็รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกตนกับป้าแต๋นมาก วันนี้ จึงฝากให้คนที่อยู่ที่นี่กอดตนกับป้าแต๋นเพื่อเป็นกำลังใจ มันก็ทำให้ตนมีกำลังใจในการต่อสู้ในกระบวนการชั้นศาลอุทธรณ์ต่อ จะสังเกตได้ว่าวันนี้ตนร้องไห้น้อยมาก เพราะตอนนี้ ได้กำลังใจจากทุกคนเยอะ ทำให้เราเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น


และการได้ดูข่าวของยายสมควร แม่ของป้าแต๋น ก็เห็นว่ายายสมควรมีรอยยิ้มและดีใจที่ลูกสาวสุดที่รัก ซึ่งเป็นลูกสาวคนแรกของครอบครัว ผ่านวิบากกรรมรอบนี้มาได้ ส่วนตัวของลุงเองเป็นลุงเขยก็ ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ


ลุงพล ยังเล่าถึงช่วงที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี ว่า

วินาทีที่ลงมาจากศาล ตอนแรกไม่เข้าใจว่าตัวเองถูกจำคุก เข้าใจว่าศาลท่านยกทั้งหมด แต่เมื่อทนายมาบอกว่า ตนถูกจำคุกทั้งหมด 20 ปี แต่ศาลท่านเมตตาให้ประกันตัวภายในวันนั้นเลย ตนก็อยากขอบคุณศาลที่เมตตา ที่ทำให้ตนได้ออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม จากนี้ ทนายจะเขียนคำอุทธรณ์ เพื่อต่อสู้คดี และทีมทนายยังทำหน้าที่ต่อไป โดยไม่ทอดทิ้งลูกความ


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในการยื่นศาลอุทธรณ์นั้น มีประเด็น หรือหลักฐานอะไรเพิ่มเติมที่จะยื่นต่อศาล

ลุงพล บอกว่า ที่ศาลพิพากษาว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่า ตนก็จะสู้ในส่วนนี้ ไม่ว่าจะมีพิรุธตรงไหน เราต้องพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ส่วนการทำงานของทีมทนายความ ตนพึงพอใจกับทีมทนายกฎหมายธรรมรังสี ท่านทำงานดีที่สุดแล้ว  และจะใช้ทีมกฎหมายเหมือนเดิม


ลุงพลบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ลุงจะต้องพิสูจน์ตัวเองคือ ช่วงเวลา 9 โมงเศษ กับ 14.00 - 16.00 น. ว่า เราอยู่ตรงไหน


ส่วนที่นายวัชรินทร์หรือ พ่อแบม ที่เป็นพยานปากเอก มีช่วงนึงที่พ่อแบมไปออกรายการหนึ่ง แล้วบอกว่า พบกับลุงพลในช่วงเวลา 9.20 น. หลังจากนั้นก็นั่งอยู่ที่บ้าน และพ่อของน้องชมพู่ ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มาที่บ้านประมาณ 9.40 น. ห่างกัน 20 นาที มาถามหาน้องชมพู่ ซึ่งมันคือข้อพิรุธของพยานปากนี้ ลุงเห็น จึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปบ้านพ่อแบม และบอกพ่อแบมว่า ไปออกข่าวแบบนั้นจะทำให้พ่อชมพู่ลำบาก เพราะว่าลุงมีพยาน เนื่องจากในช่วงที่เจอกับพ่อแบม น้องโอมลูกชายเอาโทรศัพท์ไปให้ที่สวนยาง ซึ่งตอนนั้นลุงกำลังกระตุ้นยางอยู่ ไม่ใช่กรีดยาง ลุงมีพยานเป็นลูกชายอยู่แล้วว่า ช่วงเวลาประมาณ 7 โมงนิด ๆ เรายังคุยกันอยู่


“ยืนยันว่า ไม่ได้ไปข่มขู่ให้เปลี่ยนคำให้การตามที่เขากล่าวอ้าง และไม่มีพฤติกรรมที่จะข่มขู่ทำร้ายร่างกายพ่อแบมเลย ในอดีตพ่อแบมเคยติดคุกคดีตัดไม้ ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ก็มีลุงพลที่คอยช่วยเหลือครอบครัวของพ่อแบมมาตลอด การทึ่ลุงพลจะไปข่มขู่พ่อแบม จะไปข่มขู่เรื่องอะไร มันไม่เกี่ยวกัน” ลุงพลกล่าว


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แบบนี้การให้ข้อมูลของพ่อแบมก็ไม่ใช่ความจริง ใช่หรือไม่

ลุงพลตอบว่า มันเป็นสิทธิ์ของพ่อแบมที่จะพูด แต่มันเป็นสิทธิ์ของลุงเช่นกันที่จะต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้ คนชื่อ ไชยพล วิภา กล้าทำ กล้ารับ ไม่มีการข่มขู่แน่นอน


ส่วน ประเด็นเรื่องเส้นผมของน้องชมพู่ที่เจอในรถของลุงพล ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ขึ้นไปตรวจสอบรถของลุงพล ก่อนจะตรวจก็ใส่ชุด PPE เข้าไปตรวจ

ลุงพล บอกว่า “ตนก็สงสัยว่า เส้นผมมาตกที่รถของตนได้ยังไง แต่ถ้าหากเส้นผมที่ได้ไป เป็นเส้นผมของน้องชมพู่ เราก็พยายามจะพูดกับทีมงานทนายว่า รถของลุงไม่เคยล้างเลย และน้องชมพู่ก็ขึ้นรถของลุงตลอด และยังมีรถของคนอื่นที่น้องชมพู่ขึ้นด้วย ซึ่งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจแต่รถของลุง จึงมองว่า มันไม่ยุติธรรมสำหรับลุงพลหรือไม่ เพราะถ้าหากตรวจทุกคัน เส้นผมของน้องชมพู่ก็อาจจะตกอยู่ในรถทุกคันที่น้องขึ้นก็ได้ เราต่อสู้เรื่องเส้นผมมาตลอด”


อีกทั้ง ช่วงวันที่ตามหาตัวน้องชมพู่ และวันแรกที่พบร่างของน้อง มีชาวบ้านขึ้นภูเหล็กไฟ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ รวมถึงยายตุ่นซึ่งเป็นคนเเห็นรองเท้า น้องชมพู่คนแรก ทำไมจึงไม่มีการตรวจทุกคน ทุกคนที่ขึ้นเขาไปพร้อมกัน


ทางด้านป้าแต๋น ระบุว่า หลังจากที่รู้ว่า ตนเองถูกยกฟ้องถูกดำเนินคดี ก็ยืนยันว่า ไม่ทอดทิ้งลุงพล ป้าแต๋น และลูก จะอยู่เคียงข้าง เมื่อวาน (20 ธ.ค. 66) ก็ได้อธิบายให้ลูกฟังว่า มันคืออะไร เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน หลังจากนี้ ก็จะอยู่เคียงข้างลุงพลในการต่อสู้ ในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป และป้าแต๋นยังพูดว่า ไม่ได้อวยผัวตัวเอง


“แต่อยากบอกกับสังคมว่า ลุงพลยังดีกว่าเจ้าหน้าที่บางคน และยืนยันว่า เป็นคนที่รู้เรื่องทุกอย่างว่า ลุงพลไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงยกฟ้องป้าแต๋น แต่ทำไมลุงพลถึงไม่ยกฟ้อง ทั้งที่คดีเดียวกัน ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ควรยกทั้งคู่ ไม่ใช่ยกแค่ป้าแต๋นคนเดียว”

---------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/s8IV9SKCyF0

คุณอาจสนใจ

Related News