อาชญากรรม

แม่-น้า-สาว ประสานเสียงโค้ชฟุตบอลเป็นคนดี 30 ปี ไม่เคยมีเรื่องให้ความเป็นธรรมบ้าง

โดย kanyapak_w

16 ธ.ค. 2566

581 views

วันนี้ (16 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ตร.ปคม.ร่วมกับปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล จับนายสมพร อายุ 43 ปี หรือ โค้ชเอส เป็นข้าราชการตำแหน่งเกษตรอำเภอแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี (เกษตรอำเภอพิบูลย์รักษ์ ) และผันตัวเองมาเป็นโค้ชสโมสรฟุตบอลเด็กและผู้สนับสนุน และพ.ต.เกียรติศาสตร์ อายุ 64 ปีหรือ ผู้พันกุ๋ย อดีตทหารเกษียน ผู้เป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรฟุตบอล ทำอนาจารเด็ก ข่มขืนและถ่ายคลิปเด็ก 10 ขวบ จนแม่ไปร้องที่มูลนิธิปวีณา ประสานตร.เข้าจับกุมและช่วยเหลือ โดยจับกุมโค้ชเอสที่บ้านพักในบ้านโนนคำมี ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี



นอกจากนี้ ขณะเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบคลิปอนาจาร ที่ทั้งสองคนถ่ายไว้ โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปตรวจสอบว่า มีการนำคลิปไปใข้เพื่อการค้าหรือเปิดกลุ่มลับและส่งคลิปไปหรือไม่ เพราะหากมีการกระทำดังกล่าวจริง จะต้องดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เพิ่มเติมด้วย ซึ่ง หากตรวจพบว่ามีการเปิดกลุ่มลับจริง ผู้ที่อยู่ภายในกลุ่มก็จะต้องถูกดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการทางคดีด้วยเช่นกัน และคาดว่าจะมีเด็กๆ เป็นเหยื่ออีกหลายคน พร้อมกันนี้ตร.ได้แจ้ง 6 ข้อหาบุคคลทั้ง 2 คือ ได้แก่ ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ,ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร ,ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ,ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีเพื่อการอนาจารย์และ ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจาร กับผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา



โดยบ่ายวันนี้ ที่บ้านของโค้ชเอส ที่บ้านหลังหนึ่งในบ้านโนนคำมี หมู่ 2 ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม พ.ต.ต.จงจรัส ฉายเรืองโชต สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปคม. พร้อมด้วยตร.พิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปบ้านโค้ชเอสอีกครั้งเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้านและห้องพัก โดยมีนางสุภา แม่ของโค้ชเอส และนางหนูแดง พี่สาวพาเจ้าหน้าที่ตรวจในห้องพัก เพื่อนำไปประกอบหลักฐานในคดีดังกล่าว



นางสุภาพ อายุ 73 ปี แม่โค้ช เปิดเผยว่า นายสมพรเป็นลูกชายคนที่ 5 ในลูก 6 คน เป็นลูกชายคนเดียว เรื่องนี้ตนเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายจะทำแบบนี้ แต่สำหรับผู้พันเวลามาพักที่บ้านลูกชาย จะเห็นเรียกเด็กๆ เข้าไปนอนในห้องด้วย เพราะมีเด็กมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ 3 คน ส่วนจะทำอนาจารหรือไม่ตนก็ไม่รู้ ย้อนไป 30 ปีที่ลูกชายทำทีมฟุตบอล ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีแบบนี้เลย เพราะตนเองก็อยู่บ้านหลังเดียวกันกับลูกชาย ตอนนี้สงสารลูกชาย อยากจะขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย อยากให้ตร.ทำเรื่องนี้พิสูจน์อย่างกระจ่าง หากเขาทำผิดก็ดำเนินตามกฎหมาย แต่หากลูกชายไม่ผิดก็ขอความเป็นธรรมด้วย เพราะเขายังหนี้เยอะมีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่ และเขาเป็นคนเดียวที่รับราชการ ถ้าจะออกจากราชการไม่รู้จะทำไปอะไร และอนาคตเขากำลังไปได้ไกล สมัยลูกชายไปรับราชการที่อ.วังสามหมอ พ่อแม่ของเด็กๆ ก็รักลูกชายมาก เอาของมาฝากประจำ ไม่เคยเห็นมีเรื่องเลย



นางหนูแดง น้าสาว บอกว่า ดูข่าวแล้วและเห็นตร.มาจับกุมหลานชายเมื่อวาน เศร้าใจและช็อกมาก เห็นแล้วรู้สึกสงสารหลานชาย กว่า 30 ปีที่เขาทำทีมฟุตบอลไม่เคยมีเรื่องมาก่อน และเชื่อเขาเป็นคนดีคนหนึ่งของครอบครัว ครอบครัวอาศัยจากหลานคนนี้ เพราะเขารับราชการคนเดียว เขาช่วยเหลือพี่น้องทุกคนและช่วยเยาวชนที่ติดยาเสพติดมาเล่นฟุตบอล นิสัยส่วนตัวเหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ เรียนก็ได้เกรดเฉลี่ยดีมาก ญาติพี่น้องหุ่มหอมชื่นชมโค้ชเอส ส่วนที่เขารู้จักกับผู้พัน เขารู้จักกันกันทางไลน์และเฟซบุ๊ก มาได้ 3 ปีแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานแบบนี้ อย่างน้าเป็นมะเร็งเต้านม ตอนนี้ช็อกข่าวหลานชายเหมือนสมัยตอนรู้ว่าเป็นมะเร็งเต้านม เมื่อรู้ว่าหลานมีเรื่องแบบนี้ ยืนยันหลานเป็นคนดีคนหนึ่ง เราอยู่ด้วยกันตลอด อยากให้ความเป็นธรรมกับหลานชายคนนี้ด้วย น้าเคยบอกและเตือนหลานว่า หล่าเอ๊ยอย่าทำดีกับคนอื่นดีหลาย หากวันใดโชคไม่เข้าข้างเรา หลานก็บอกว่า คงไม่เป็นไรหรอก เราคนดีผลกรรมดีก็จะตอบสนองเราหรอก ส่วนหลานชายรู้จักกับผู้พันประมาณ 3 ปีแล้ว และผู้พันจะมาบ้านหลานตลอด หากมีการแข่งขันฟุตบอล ยืนยันตั้งแต่หลานชายทำทีมฟุตบอลมาเกือบ 30 ปี ไม่เคยมีมลทินมาก่อนเลย ชาวบ้านก็ยกย่องเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่มาคบกับผู้พันคนนี้มีเรื่องขึ้นมาเลย แต่ไม่ได้ปรักปรำใคร ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้ น้าสาวกล่าวด้วยความเศร้าใจ



นางหนูแดง อายุ 54 ปี พี่สาวโค้ช บอกว่า ขอให้ได้พูดบ้าง เรื่องนี้ตนก็สงสารน้องชาย เพราะจากที่รู้จักกับเขา เขาตั้งทีมฟุตบอลเพื่อดึงเอาเด็ก ๆ มาทำทีม 30 ปีไม่เคยมีเรื่องไม่ดีเลย ก็แปลกใจอยู่ตั้งแต่มารู้จักผู้พันคนนี้ ส่วนที่เขาเป็นคนโสดไม่แต่งงาน เขาก็บอกว่าเคยมีสาวๆ มาติด แต่เห็นสภาพครอบครัวของพี่สาวหลายคนเขาก็เลยไม่อยากมีภรรยา ส่วนเรื่องที่น้องจะทำแบบนี้ ขอให้พูดความในใจว่า เรื่องเอาเด็กมาทำทีมฟุตบอลผู้ปกครองมารับมาส่งตลอด ไม่คลาดสายตา แต่ก็ผิดสังเกตและตนก็ไม่ได้ใส่ร้ายใคร หลังจากผู้พันรู้จักน้องชายก็มีปัญหา ไม่เฉพาะผู้พันสนับสนุน ก็มีอบต.ในท้องที่สนับสนุนเช่นกัน



หลังเกิดเรื่อง ตนเองนอนไม่หลับเลย สงสารน้องชายมาก ส่วนเรื่องส่วนตัวของน้องชายไม่รู้จริงๆ จะจริงหรือไม่จริง ส่วนที่มีข่าวว่าน้องชายไปเอาเด็กจากผู้ปกครอง ไม่ใช่เลย มีญาติของผู้ปกครองมาส่งลูกถึงบ้านเลย น้องชายทำทีมมา 30 ปีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ หรือจะเป็นคราวเคราะห์ของน้องชาย ไม่เคยคิดว่าน้องชายจะมาเสียเพราะเรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมาน้องชายเป็นคนดีมาตลอด ช่วยเหลือคนมาตลอด เห็นเด็กๆ ติดยา น้องก็มารับเลี้ยงและฝึกฟุตบอลหวังให้ห่างไกลยาเสพติด ส่วนเรื่องเด็กๆ ที่มาอยู่กับน้องชาย ก็เห็นบ้างที่เด็กๆ อาบน้ำจะเห็นเขาอาบน้ำร่วมกัน เฉพาะเด็กๆ นะ ส่วนน้องชายเขาก็จะอาบน้ำคนเดียว ตอนนี้ญาติและพี่ๆ สงสารน้องเหลือเกิน พ่อแม่สั่งสอนมาดีไม่ใช่มาให้ทำแบบนี้ จะโทษคนที่มาคบกับน้องชายก็ไม่กล้าว่า หรือว่าจะเป็นเพราะน้องชายทำจริง หากน้องชายทำจริงก็ต้องยอมรับ และอยากให้น้องชายต่อสู้และขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายด้วย พี่สาวโค้ชเอสกล่าวตอนท้าย




คุณอาจสนใจ

Related News