อาชญากรรม

เปิดผลชั่งน้ำหนัก สิบล้อบรรทุกดิน เกิน 12.45 ตัน คนขับโดนแจ้ง 2 ข้อหา

โดย petchpawee_k

10 พ.ย. 2566

109 views

‘สส.โตโต้’ ติดตามการชั่งน้ำหนักรถบรรทุก ถาม จนท.ประวิงเวลารอดินระเหยหรือไม่ ส่วนสติกเกอร์ดาวบีสีเขียว ไม่เเน่ใจเป็นของหน่วยงานไหน ชี้ทุกวันนี้สติ๊กเกอร์ไม่สำคัญในการจ่ายส่วย

วานนี้ (9 พ.ย.) เวลา 16.00 น. ‘โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ’ สส.เขตบางนา-พระโขนง เดินทางไปที่ สน.พระโขนง เผยว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาติดตามการชั่งน้ำหนักของรถบรรทุก เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่ารถบรรทุกคันนี้มีน้ำหนักเกินหรือไม่ และเห็นว่าเลยเวลานัดมาค่อนข้างนานแล้ว อีกทั้งเป็นการหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการถ่ายเทดินไปมาตนเองไม่แน่ใจว่าดินจะยังอยู่ในสภาพและปริมาณเท่าเดิมหรือไม่


นายปิยรัฐ กล่าวว่า ให้วันนี้ที่ตัวเองเดินทางมาหวังว่าเมื่อเดินทางมาถึงนั้นจะมีการชั่งน้ำหนักเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีการชั่งน้ำหนักตนเองเลยอยากจะไปสอบถามทางด้านผู้กำกับว่ารออะไรอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็เป็นที่ตั้งคำถามของสังคม ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังประวิงเวลาอยู่หรือไม่ เพื่อให้น้ำหนักของดินที่อุ้มน้ำอยู่นั้นระเหยออกไป


อย่างไรก็ตามตนเองพยายามให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ เข้าใจว่าการชั่งน้ำหนักจะต้องมีกระบวนการหลายขั้นตอน และให้เป็นไปตามมาตรฐานของการช่างวัดน้ำหนักน้ำหนัก แต่สิ่งที่น่าจับตาต่อไปก็คือจะทำอย่างไรให้น้ำหนักเท่าเดิม โดยมีด้วยกัน 2 ทาง คือ 1.จะต้องทราบว่าดินที่ล้นออกไปมีปริมาณเท่าใด พอจะคำนวณเป็นตัวเลขได้หรือไม่ 2.การคำนวณทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ภาพถ่ายของสื่อมวลชนนำไปคำนวณจากปริมาตรของรถโดยมีสูตรการคำนวณอยู่


นายปิยรัฐ กล่าวว่า ทั้งนี้ยืนยันว่ามีการตักดินกลับขึ้นมาแล้ว ประมาณ 11 บุ้งกี๋ และรวมกันอยู่บนรถบรรทุกคันเกิดเหตุแล้ว ตนเองหวังว่ากระบวนการชั่งน้ำหนักจะมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ


สำหรับประเด็นเรื่องส่วยนั้นตนเองก็ไม่สามารถยืนยันได้ทั้งหมด ตามที่นายวิโรจน์และออกมายืนยัน ลักษณะการติดสติ๊กเกอร์นั้นเป็นใบผ่านทางชนิดหนึ่ง อยู่ที่ว่าจะเป็นในลักษณะใดจะเป็นเรื่องของน้ำหนักหรือใบอนุญาต และจ่ายให้ใครตนเองไม่ทราบ


ส่วนสติกเกอร์ตัวอักษรตัวบีนั้นตนเองไม่แน่ใจว่าของหน่วยงานไหน แต่มีการอ้างว่าเป็นของเจ้าของรถ ดังนั้นจึงต้องไปถามว่าการติดสติกเกอร์นั้นเพื่ออะไร ซึ่งขณะนี้ไม่มีใครให้ข้อมูลตรงกัน ผู้กำกับบอกว่าเป็นชื่อย่อของเจ้าของรถ เจ้าของรถบอกว่าเป็นสติกเกอร์สำหรับใช้ผ่านเข้าออกไซด์งาน หน่วยงานรถบรรทุกบอกว่านี่เป็นสติกเกอร์ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม สน. ต่างๆ เพื่อใช้ในการเบิกทาง

ส่วนเรื่องที่มีคนของรถบรรทุกมาถอดป้ายทะเบียนออกนั้น นั้นตนเองทราบมาว่ามีการอ้างว่ากลัวสลิงที่จะมายกหน้ารถจะทำลายป้ายทะเบียนรถเลยต้องถอดออกก่อน และช่างภาพก็ด้านการบันทึกภาพเอาไว้หมดแล้วตนเองจึง จึงเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการหลบเลี่ยงอะไร ส่วนเส้นทางการขนดินของรถบรรทุกคันนี้ตนเองทราบมาว่าจะนำไปยังปริมณฑล แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นจังหวัดใด

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายปิยรัฐ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า ภายหลังการเจรจาของทุกฝ่าย โดยตนเองได้มีการสอบถามไปยัง น.5 ว่าจะมีการชั่งน้ำหนักในเวลานี้หรือไม่เนื่องจากเลยเวลามานานแล้ว ท่านได้ยืนยันว่ามีความตั้งใจและเต็มที่ที่จะแก้ปัญหานี้โดยพยายามเร่งรัดรถลากที่จะลากตาชั่งมาชั่งรถบรรทุก

-------------------------------------------

ไม่เกินคาด! ช่างซ่อมล้อรถ 10 ล้อ ก่อนชั่งน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 37.450 ตัน บรรทุกเกิน 12.45 ตัน แจ้ง 2 ข้อหา “ขับรถประมาท-บรรทุกเกิน” ยึดรถ เปิดคลิปผู้รับเหมาดูดน้ำมันออก ด้าน รอง ผบก.น.5 เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน

ขณะที่เมื่อเวลา 14.30 น. ช่างซ่อมล้อรถจากร้านรับจ้างแห่งหนึ่งมายัง สน.พระโขนง เพื่อซ่อมล้อของรถบรรทุก ฝั่งซ้าย 2 ล้อหลัง ที่ชำรุด ซึ่งช่างใช้เวลาในการซ่อมทั้ง 2 ล้อ ประมาณ 45 นาที


นายสราวุธ อยันต์ชล ส.ก.เขตพระโขนง กล่าวว่า ผลจากการชั่งน้ำหนักเพลาล้อคู่หน้าได้น้ำหนัก 5,100 กิโลกรัม เพลาล้อคู่กลางได้น้ำหนัก 16,400 กิโลกรัม ล้อคู่หลังได้น้ำหนัก 15,950 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้นได้น้ำหนัก 37,450 กิโลกรัม หรือ 37.450 ตัน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 25 ตัน  แต่น้ำหนักรถบรรทุกคันนี้เกินมา 12.45 ตัน


ทั้งนี้ ทีมข่าวได้รับคลิปวิดีโอ จากทีมงานผู้ว่าฯ กทม. ปรากฏภาพเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีชายรายหนึ่งของทีมผู้รับเหมา นำแกลลอนขนาดใหญ่ แอบมาถ่ายเทน้ำมันออกจากรถบรรทุกขนดิน ที่ตกกลางถนนสุขุมวิท คาดว่าเพื่อถ่ายเทน้ำหนักรถ ซึ่งในคลิปจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่กลับปล่อยให้ชายคนดังกล่าว ถ่ายเทน้ำมันโดยไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ทั้งนี้ต้องตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครและใครเป็นคนส่งมา


จากการคาดการณ์คาดว่ารถบรรทุกคันนี้น่าจะน้ำหนักมากกว่านี้อาจสูงมากถึง 60 ตัน เพราะมีบางส่วนที่ร่วงลงไปในท่อหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และยังมีปรากฏคลิปจากทีมงานผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งพบว่าทีมผู้รับเหมายังได้มาแอบดูดน้ำมันออกไป ซึ่งอาจทำให้นำหนักส่วนนั้นหายไป แต่ถึงอย่างไรก็เกินกว่ากฎหมายกำหนดอยู่ดี


18.30 น. ภายหลังการประชุมหารือกันร่วมประมาณ 1 ชั่วโมง นางสายทิพย์ สุคนธ์มณี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพระโขนง เผยว่า ในส่วนของสำนักงานเขตพระโขนงได้อาศัยประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่นที่เรื่องการห้ามใช้รถบรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่ได้กำหนดหรือโดยที่ยานพาหนะนั้น หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหาย


ซึ่งทางหลวงท้องถิ่นนี้นั้นเป็นเขตรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นส่วนที่ 1 ของ ยานพาหนะชนิดรถเดี่ยว ข้อ10 ซึ่งได้มีข้อกำหนดไว้ว่า “ยานพาหนะที่มี 3 เพลา 6 ล้อ 10 เส้น ชนิดเพลาท้ายใส่ยางคู่ จะต้องมีน้ำหนักลงเพลาคู่ท้ายไม่เกิน 20 ตัน หรือร่วมน้ำหนักยานพาหนะไม่เกิน 25 ตัน “ ซึ่งทางกรมทางหลวงได้เเจ้งแล้วว่าเกิดกว่าที่กำหนดไว้ 12.45 ตัน  


ดังนั้นจึงมีโทษตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 73/2 ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงตาม ตามมาตรา 61 วรรค1 ต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับซึ่งการนำเดินการตามกฎหมายนี้เป็นหน้าที่ของทาง สน.พระโขนง ต่อไป


ขณะที่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รรท.ผบก.น.5 เปิดเผยว่า คดีนี้ ทาง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้สั่งการให้ บก.น.5 ดำเนินการอย่างเคร่งครัด โดยมีการดำเนินการใน 2 ส่วน มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้โดยเฉพาะ และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น


ที่ตรวจสอบพบเบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา 2 คดี คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย และขับรถบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นแจ้งข้อหากับผู้ขับรถบรรทุกทั้ง 2 ข้อหา โดยพยานหลักๆ จะเป็นของกรมทางหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสนอให้ตรวจยึดรถของกลาง ที่ใช้ในการกระทำความผิด แต่อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล


ส่วนกรณีที่มีการถ่ายเทน้ำมัน และดินออกนั้น ตนเชื่อว่าไม่มีผลต่อการดำเนินคดีเนื่องจากสิ่งที่ต้องการอยู่ที่น้ำหนักเกินหรือไม่ อย่างไรก็ตามรถสิบล้อคันดังกล่าวหลังเกิดเหตุได้มีการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ซึ่งการที่จะทำอะไรต้องมาขออนุญาตพนักงานสอบสวนก่อน ทั้งนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป


พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นอักษรตัว B หรือ ชื่อเล่นนายบิ๊กนั้น เป็นเจ้าของรถ จากการสอบถามนายบิ๊กแจ้งว่าเป็นสติ๊กเกอร์ทำไว้ใช้ไซต์งาน เพื่อขนดินออกจากไซต์งานจะต้องมีสติ๊กเกอร์นี้เท่านั้น แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจะมีการตรวจสอบว่ามีเสริมสติ๊กเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่า ผู้ใดมีส่วนร่วม นั้นถือว่าเป็นตัวการร่วม และจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HSPQBZGdhEQ

คุณอาจสนใจ

Related News