เครดิตบูโร จับตาหนี้รถยนต์-หนี้บ้าน ค้างชำระพุ่งสูง หวั่นกลายเป็นหนี้เสียเพิ่ม

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อัปเดตข้อมูลหนี้ครัวเรือนไทย จากฐานข้อมูลในเครดิตบูโร ณ ไตรมาส 3 สิ้นเดือนกันยายน โดยระบุว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมดล่าสุดอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท มีการเก็บข้อมูลที่เครดิตบูโร 13.55 ล้านล้านบาท เติบโต 3.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 สะท้อนว่ามูลหนี้มีการวิ่งช้าลง แต่เป็นผลจากสินเชื่อที่ผ่านการอนุมัติมีน้อย , อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูง เพราะมีการประเมินรายได้อย่างเข้มงวด

ขณะที่ตัวเลขหนี้เสีย หรือหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ หนี้ NPLs สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากไตรมาส 3 ที่ 1.7% และลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 1.09 ล้านล้านบาท ถือว่าทรงตัว

แต่ที่น่าสนใจและต้องจับตา คือหนี้กำลังจะเสีย เลียงงวดกันไปๆ มาๆ แต่ยังไม่เลยธง 90 วัน จึงยังไม่ใช่ NPLs มีจำนวน 4.9 แสนล้านบาท เติบโตถึง 21.4% และโตจากไตรมาสสาม 3.7% และเมื่อเจาะลงไปเนื้อใน พบว่า 1.37 แสนล้านบาท เป็นหนี้บ้าน โตขึ้นถึง 37% จากปีก่อน ท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งไม่น่าจะสบายใจนัก ส่วนหนี้รถยนต์อยู่ที่ 2.13 แสนล้านบาท โตขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเทียบกับไตรมาส 3 โตขึ้น 4% ซึ่งก็น่ากังวลเช่นกัน

มีเพียงสินเชื่อเกษตรเท่านั้น ที่ปรับตัวลดลง จากอานิสงค์การปรับโครงสร้างหนี้ในมาตรการพักชำระหนี้ของรัฐบาล

ส่วนกรณีที่ อดีต สส.กทม. ออกมาระบุว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร ไม่ต้องติดในระบบแบล็กลิสต์ 3 ปี เสร็จแล้ว และเตรียมยื่นต่อประธานสภาฯ และเตรียมขอรายชื่อประชาชน 10,000 รายชื่อ เพื่อรับรองร่างฯ กฎหมายดังกล่าวนั้น นายสุรพล กล่าวว่า จะเห็นด้วยหรือไม่กับร่างกฎหมายดังกล่าว ขอดูในรายละเอียดก่อนว่า มี “ข้อดี ข้อเสีย” หรือมีอะไรที่ “ทำได้หรือไม่ได้” หรือไม่ ซึ่งระยะเวลา 3 ปี เป็นระยะมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไทยจะยึดแนวทางไหน เนื่องจากเรื่องนี้จะมีผลต่อวินัยทางการเงินของประชาชนด้วย เบื้องต้นคาดว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว จะเสนอเข้าสภาฯ ได้ในการเปิดสมัยประชุมสภา ราวเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เป็นอย่างเร็ว