อาชญากรรม

'หนุ่ม กรรชัย' ร่วม ตร. บุกจับคนแอบอ้างเป็นเลขา หลอกเรียกเงินออกรายการโหนกระแส

โดย passamon_a

5 พ.ย. 2566

388 views

พันตำรวจเอกปัถย์ภวิศ วงษ์พินิจ ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. ระบุถึงการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นเลขา หนุ่ม กรรชัย เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการได้ออกรายการโหนกระแส


โดยกรณีนี้ตนเองได้รับการประสานจากทางผู้เสียหาย ผ่านทางพิธีกรชื่อดัง หนุ่ม กรรชัย ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้มีการโอนเงินเพื่อแลกกับการออกรายการโหนกระแส ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ได้มีการโอนเงินไปจำนวน 35,000 บาท ก่อนจะมารู้ตัวภายหลังว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์


โดยภายหลังรับเรื่องร้องทุกข์ได้มีการสืบสวนจนพบกระแสถึงเจ้าของบัญชีที่มีการรับโอนเงินจากทางผู้เสียหายไป จึงได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ และเฝ้าติดตามสังเกตการณ์ จนเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของตัว นางสาวสุวรรณณา อายุ 38 ปี เจ้าของบัญชีรับโอนเงินคนนี้ ว่าน่าจะมีการหลบหนี จึงดำเนินการเข้าจับกุมภายในย่านซอยลาดพร้าว 87 ก่อนจะมีการขยายผลเข้าจับกุม นางสาวพัชญ์ธนัน อายุ 32 ปี บุคคลที่อ้างตัวว่า ชื่อฟ้า เป็นเลขาของพิธีกรชื่อดังได้ จากย่านสุขุมวิท 101


จากการสอบปากคำทั้งสองยังคงให้การภาคเสธ โดยสำหรับตัวนางสาวสุวรรณณา รับเพียงว่า ได้มีการให้บัญชีส่วนตัวกับ นางสาวพัชญ์ธนัน ไปใช้โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ยินยอมให้นางสาวพัชญ์ธนัน นำบัญชีไปใช้ เพราะนางสาวพัชญ์ธนัน อ้างว่าประกอบอาชีพธุรกิจเสริมความงามและต้องการหลบเลี่ยงภาษี จึงมีการนำบัญชีของตนเองไปใช้รับโอนเงินเท่านั้น


ส่วนตัวนางสาวพัชญ์ธนัน ยังคงให้การภาคเสธ แบ่งรับแบ่งสู้ว่าเป็นคนทำหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับทั้งสองราย ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน


สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ จะใช้วิธีการไปโพสต์ข้อความตามเว็บบอร์ดโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เมื่อมีคนมาตั้งกระทู้สอบถามว่าต้องการออกรายการโหนกระแส สามารถติดต่อใครได้บ้าง นางสาวพัชญ์ธนันก็จะไปโพสต์ข้อความทิ้งช่องทางติดต่อเอาไว้ ลักษณะคล้ายตกเบ็ด และเมื่อมีผู้เสียหายหลงมาติดเบ็ด ก็จะมีการเรียกรับเงินในจำนวนต่าง ๆ ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน แล้วแต่เรื่องราวของผู้เสียหาย


จากการตรวจสอบประวัติของนางสาวพัชญ์ธนัน ตำรวจยังพบว่าก่อนหน้านี้เคยถูกออกหมายจับจำนวน 15 หมาย ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับฉ้อโกง แต่ปัจจุบันเหลือหมายจับที่ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่เพียงสองหมาย ที่ผู้ต้องหาได้มีการเคลียร์เงินกับทางผู้เสียหายจนทำให้ไม่ถูกจับดำเนินคดี ในส่วนของคดีนี้เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้ให้การว่าเพิ่งกระทำการดังกล่าวมาเพียงหนึ่งเดือน แต่จากข้อมูลของท่านตำรวจ เชื่อว่าจะมีผู้ต้องหาที่มีการหลงโอนเงินให้กับทางผู้ต้องหาไปแล้วหลายคน


ขณะที่เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ นางสาวสุวรรณณา ผู้ต้องหาที่ 2 พบเงินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด จำนวน 353,273 บาท


การจับกุมในครั้งนี้ตำรวจสามารถยึดของกลางมาได้ จำนวนห้ารายการแบ่งเป็น โทรศัพท์มือถือที่ใช้แอบอ้าง ติดต่อกับผู้เสียหายและทำธุรกรรมการเงิน 4 เครื่อง, บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต 13 ใบ, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 18 เล่ม, สำเนาสมุดบัญชี 1 เล่ม และ SIM โทรศัพท์ 1 อัน


โดยตำรวจชุดจับกุมได้คุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/d6KjhuirDlM

คุณอาจสนใจ