ชาวบ้านร้องสอบ ชายห่มเหลืองคล้ายพระ นอนไม่ได้สติ มีกลิ่นเหล้าติดตัว ซ้ำไม่ให้ดูใบสุทธิ

ที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ว่า พบพระสงฆ์รูปหนึ่ง ไม่ทราบว่าอยู่สังกัดวัดแห่งไหน มาจอดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างนอนหลับ อยู่ที่บริเวณริมถนนหน้าตลาดเกษตรชัย คล้ายเหมือนมีอาการเมาสุรา เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับพระสงฆ์รูปดังกล่าวแล้ว มีกลิ่นเหล้าโชย จึงอยากให้มาตรวจว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่


จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า พระรูปที่ได้รับแจ้งให้ตรวจสอบ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปจอดอยู่ที่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ของ “ช่างฟ้า” ที่อยู่ใกล้กับตลาดเกษตรชัย เพื่อให้ทางอู่ ช่วยซ่อมรถจักรยานต์พ่วงข้างให้ เนื่องจากสตาร์ตรถไม่ติด จึงได้เข้าไปสอบถามพระ


ซึ่งก็ได้รับคำกล่าวอ้างชื่อ คือ พระวิเชียร อายุ 57 ปี เป็นชาวอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และเพิ่งจะมาบวชพระอยู่ ที่วัดในอำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ แต่เนื่องจากเมื่อ 3 วันก่อน ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเดินทางไปที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะเดินทางกลับ แล้วขี่มาถึงเขต อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์จนมืดค่ำ จึงได้จอดรถนอนอยู่ที่บริเวณหน้าตลาดเกษตรชัย จนถึงเช้า เพื่อจะเดินทางเข้าพื้นที่ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ต่อ


เมื่อผู้สื่อข่าวขอตรวจสอบ ขวดน้ำพลาสติก ที่พระวิเชียร ถือไว้ติดตัว พระวิเชียรจึงได้หยิบยื่นให้ พร้อมกับให้ไปดมตรวจสอบ จึงได้นำขวดน้ำดังกล่าว ยื่นให้กับชาวบ้านได้ดมพิสูจน์ ปรากฏว่า ชาวบ้านหลายคนต่างได้กลิ่นสุราในขวด ลักษณะกลิ่นเจือจาง แต่ในขวดน้ำเป็นน้ำเปล่า และในระหว่างที่ชาวบ้านกำลังพิสูจน์กลิ่น และวิเคราะห์กันอยู่นั้น ก็เหลือบหันไปเห็นพระวิเชียรกำลังรีบสตาร์ตรถจักรยานยนต์พ่วงของตนเอง คล้ายเหมือนจะขี่หนีอะไรบางอย่าง จึงทำให้ผู้สื่อข่าวและชาวบ้าน ได้ขอดูเอกสารใบการบวช แต่พระวิเชียร กลับยื่นให้ตรวจสอบแต่บัตรประชาชน พร้อมบอกให้ไปตรวจสอบรายชื่อกับคณะสงฆ์จังหวัด ยืนยันว่า ตนเองเป็นพระจริง มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนพระ


โดยพระรูปดังกล่าว ระบุว่า สามารถเอาชื่อนี้ไปเช็กกับสำนักสงฆ์ดูได้ จากนั้นพระวิเชียรก็ได้รีบขี่รถออกไปทันที โดยมุ่งหน้าไปทางถนนหมายเลข 1145 สายตากฟ้า-ท่าตะโก และไม่ทราบว่าจุดหมายที่แท้จริงไปที่ไหน


ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากฟ้า ประจำตู้หน้าตลาดเกษตรชัย ซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยจากตำรวจนายหนึ่ง ระบุยืนยันว่า เมื่อค่ำวานนี้ ได้รับการแจ้งร้องเรียนจากชาวบ้านในตลาดว่า มีพระรูปหนึ่ง มาเดินเรี่ยไรอยู่ในตลาด ทางตำรวจจึงได้รีบไปตรวจสอบ ซึ่งตำรวจไม่ได้นำตัวไปดำเนินคดีอะไร เพราะว่าไม่มีข้าวของอะไรของชาวบ้านเสียหาย จึงแค่เชิญตัวให้พระรีบออกจากนอกพื้นที่เขต อำเภอตากฟ้า


ด้านช่างฟ้า ที่รับซ่อมรถจักรยานยนต์พ่วงข้างให้ช่างวิเชียร์ ระบุว่า พระวิเชียรมาขอให้ดูอาการรถให้หน่อย เนื่องจากเครื่องสตาร์ตไม่ติด แต่พอติดมันก็เร่งเครื่องไม่ไป จึงได้ตรวจดู ก็พบว่ามีปัญหาที่หัวเทียน จึงได้เปลี่ยนให้ แล้วก็ไม่ได้คิดค่าซ่อมแต่อย่างใด เพราะราคาเปลี่ยนหัวเทียนแค่ไม่ถึง 100 บาท ตนเลยไม่คิด ส่วนที่เรื่องที่ว่า พระองค์นี้เมาสุราหรือไม่นั้น ตนไม่เห็นออกอาการ มันเป็นเพราะเขาสร่างไปก่อนแล้วหรือเปล่า แต่กับภรรยาตน ยืนยันเลยว่า ได้กลิ่นเหล้ามาจากพระองค์นี้


ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดในอำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ที่ทางพระวิเชียร อ้างว่ามาบวชและจำพรรษาอยู่ที่นี่ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากพระอุดม เลขาเจ้าอาวาสวัด แบบยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีพระรูปนี้ อยู่ในสังกัดวัด และไม่เคยเห็นว่ามีรถจักรยานพ่วงข้างในลักษณะแบบนี้อยู่ภายในวัดด้วย ส่วนที่ว่าเขาจะใช่พระจริงหรือไม่ ไม่ทราบ แต่การออกจากวัดไปประพฤติตนแบบนี้ ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ และการมาอ้างชื่อสังกัดวัด ก็ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงมาก


ขณะที่นางอรทัย อายุ 63 ปี คณะกรรมการวัด กล่าวยืนยันอีกเสียงหนึ่งด้วยว่า ไม่เคยเห็น หรือมีพระองค์นี้สังกัดอยู่ที่วัดอย่างแน่นอน ซึ่งการที่มีพระของวัดออกไปทำพฤติกรรมเช่นนี้ ทางวัดไม่เอาไว้เด็ดขาด ต้องจับสึกสถานเดียว และหากยังมีการเอาชื่อวัดไปแอบอ้างแบบนี้อีก ทางคณะกรรมการวัด เห็นทีต้องเอาเรื่อง แจ้งความดำเนินคดี เพราะการกระทำแบบนี้ เขาทำให้ทั้งพระ วัดเสื่อมเสีย แถมยังทำให้พระพุทธศาสนามัวหมองไปด้วย จึงเอาพระในลักษณะแบบนี้ไว้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด