ข่าวโซเชียล

เดือด! #แบนเที่ยวเกาหลี พุ่งติดเทรนด์ หลังสาวถูก ตม.เกาหลี ส่งตัวกลับไทย พร้อมคำถามเจ็บจี๊ด "มา 4 ครั้ง ยังเที่ยวไม่พอใจอีกเหรอ"

โดย weerawit_c

28 ต.ค. 2566

1.1K views

กลายเป็นประเด็นดรามาร้อนแรง ที่โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ออกมาแชร์ประสบการณ์ไปเกาหลี ครั้งที่ 5 กลับติด ตม. เกาหลี (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) พร้อมเจอคำถามสุดอึ้ง ว่า “ยังเที่ยวเกาหลียังไม่พอใจอีกเหรอ”


โดยสาวคนดังกว่าทวีตข้อความ ระบุ “ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเองเพราะประวัติดีมาก ไปเกาหลีรอบนี้ก็รอบที่ 5แล้ว 4รอบก่อน เข้าออก แบบไม่เคยมีปัญหา  รอบนี้ติด พอทำใจได้ ก็อยากมาแบ่งปันข้อมูล ในบางมุม ณ ตอนที่อยู่ในห้องสำนักงานรอส่งกลับ ว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้มีการดำเนินเรื่องอย่างเร็วที่สุด   #รีวิวเกาหลี #ติดตม #ตมเกาหลี”


พร้อมเล่าเรื่องราวว่า “หลังจากที่ทำใจได้แล้ว มีประสบการณ์ การติดตม. มาแบ่งปันให้ฟัง เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย จะเน้นสถานการณ์ในห้องมากกว่านะคะ


เพราะก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ได้ออกไป เพราะเรา ก็ไม่ได้ออกไป555 แต่คิดว่าข้อมูลเยอะมากพอแล้ว สำหรับการเตรียมตัวผ่าน ตม. ที่เหลือ ก็คือดวง + อารมณ์ของ ตม. คนนั้น ๆ ณ ตอนนั้นเลย


อยากจะมาบอกวิธีอยู่ในนั้น กับรีบกลับประเทศของเราอย่างไรให้เร็วที่สุด สำหรับคนที่ติด ตม.แล้วโดนส่งมาในห้องออฟฟิศ รอสัมภาษณ์เบื้องต้น ห้องที่ผลักประตูเข้ามาก็เจอโต๊ะสำนักงานเลย


อันนั้น คือ ด่านแรก ที่เค้าว่ากันว่า มีอะไรควรโชว์ให้หมด อะไร ที่โชว์ได้ แม้ว่าเค้าจะไม่ถาม ไม่ขอดูก็ตาม ยื่นแสดง พูด (ใบรับรองการทำงาน เงินเดือน ตั๋วกลับ ใบจองที่พัก บลาๆ) และคำตอบว่ามาทำอะไรที่เกาหลี ตอบให้มาก ให้เยอะ ตอบแพลนรายวันได้ยิ่งดี (บางคนบอก เขาไม่ถามก็ไม่ต้องตอบ เขาไม่ขอก็ไม่ต้องให้ดู) ซึ่งเราคือ 1 ในนั้น ที่ จนท. ขอแค่ ที่จองโรงแรม และตั๋วกลับ หรือเสนออะไรให้ดูอย่างอื่นออกไป


(ส่วนตัวกลับมาคิดว่า ถ้าได้พูด ได้โชว์จะได้ผ่านออกไปไหมนะ) ถ้าตรงนี้ไม่เคลียร์ให้ผ่านออกไปให้ได้จะถูกส่งไปอีกห้อง (ที่ความหวังริบหรี่ในการผ่านออกไปมาก ๆ) พร้อมได้เอกสารมา 3 ใบ เข้าไป ห้องชั้นใน รอสัมภาษณ์อีกรอบ ในเอกสาร จะ มีให้กรอกรายละเอียด ประวัติส่วนตัว พักที่ไหนใบเซ็นยินยอมให้สัมภาษณ์เป็นภาษาไทยโดยการคุยผ่านล่าม


จากประสบการณ์ที่โดนในวันที่เราไป คนที่มาถึงด่านนี้ เอกสารแน่นแค่ไหน ก็ไม่ฟังข้าราชการก็ติด คนเคยไปยุโรป เมกา ก็ติด เราได้สัมคนหลังๆ เก็บข้อมูล ตอนที่ฟังคนอื่นโดนสัมภาษณ์ คนอื่น ตายตรงแพลนเที่ยวหมด


ส่วนเราที่ตอบแพลนเที่ยวได้หมด ไปโรงแรมยังไงจากโรงแรมไปที่ไหนยังไง ร้านอาหารอะไรมีชื่อเสียง อิ้งได้ ทำ keta.เอง มีบัตร ที่ตัดจ่ายจอง ด้วยชื่อตัวเอง แล้วไปมาทั้งหมด 5 ครั้งแล้ว กลับมาถามว่า ยังเที่ยวเกาหลีไม่พอใจอีกจนได้


เขาถามเราพกเงินมา เท่าไหร่ เราบอกว่า 1,000,000 วอน สำหรับ 10 วัน เขาก็ถามต่อว่า เงินเดือน ซึ่งของเราโดนเพ่งเล็งข้อเงินเดือน ที่น้อยเกินไป ไม่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว ทั้งที่เราอธิบายแล้วว่า นี่เป็นเงินเก็บ และเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศในรอบ 5 ปีของฉัน


แต่เขาก็หาข้อมาแย้ง มาปัดตก เหมือนเขาถูกเทรนด์กันมาให้คิดแบบ negative thinking มาถึงด่านนี้ น่าจะโดนส่งกลับแน่ๆ (เท่าที่เห็น คนผ่านด่านนี้ คือคนมีใบเชิญ มีคนเกาหลีการันดี) ที่เหลือเอกสารแน่นแค่ไหนก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง แล้วแต่เจ้าหน้าที่ จนท. ในห้องนี้ พฤติกรรมแย่ทุกคนทรีทเราเหมือนคนคุก เหมือนอาชญากรไปแล้ว พูดห้วนๆ น้ำเสียง+หน้าตาแบบคนโกรธ พูดไทยง่ายๆ ได้กันเยอะจริง เช่น รอ ไป เร็วๆ คนไทย เป็นต้น


พวกเราจะเดินไปถามอะไรไม่ได้ไม่ตอบ ไม่สบตา ไม่ยิ้ม น่าจะฝึกมาให้ไร้จิตใจไร้ความรู้สึกเหมือนกันหมด หนทางต่อไป คือรอแอร์โฮสเตสสายการบินที่ใหม่ โดนปฏิเสธเข้าประเทศ ห้ามทรานซิท ต้อง บินตรงกลับประเทศตัวเองเพื่อไปบันทึกประวัติเท่านั้น ส่วนคนที่กลับคนละสายการบิน แต่บินตรง ไม่แน่ใจเลยเรื่องตั๋ว ว่าต้องจ่ายใหม่ไหม


หลังจากอยู่ในห้องออฟฟิศ ข้าง immigration อยู่ครึ่งวัน เจ้าหน้าที่ ก็พาเราไปยังอีกที่ เป็นเหมือนห้องชั้นใต้ดิน ใต้เกท ที่จะขึ้นเครื่องออก


นอกประเทศเกาหลี (ห้องที่บิว youtuber นอน) ในห้องนี้จะให้น้ำผลไม้ ขนมปัง เซ็นเอกสาร กฎการรอในห้องนี้ เจ้าหน้าที่ยังพอใจดี และยังพอมีจิตสาธารณะกว่าห้องเมื่อกี้มาก มีแค่เจ้าหน้าที่ ตรงจุดขอยื่นอุทธรณ์ ที่พฤติกรรมแย่มาก เราพยายามขอเอกสารมาเขียนอุทธรณ์จนท. ไม่อยากให้ แล้วบอกว่าเสียเวลา ทำไปก็ไร้ประโยชน์


ผลอุทธรณ์ออกวันถัดไป คุณจะต้องนอนรอ 1 คืน ถ้าจะอุทธรณ์ (จนท. พิมพ์เป็นเกาหลี แล้วทรานสเลทเป็นไทย ยื่นให้อ่านทางมือถือ) เราซึ่งไม่ยอมแพ้ ก็ขอใบอุทธรณ์ มาเขียนจนได้ จนท. ดูจำใจให้ โดยโยนกระดาษใส่หน้าเรา พร้อมแสยะยิ้มแบบยิ้มเยาะ”


เรียกว่า ทำเอาชาวเน็ตอึ้งกันเป็นแถบ ก่อนที่เธอเล่าให้ฟังต่อในรายละเอียด คำถาม และการถูกปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่อีกว่า


“ถ้าให้เล่าคำถามจากด่านที่ยกหูสัมภาษณ์เป็นไทย ผ่านล่ามแบบละเอียด ๆ จะมีอีกหลายคำถามที่ทุกคนต้องอิหยังวะอีกมาก ที่ไม่เล่าแต่แรกเพราะไม่ใช่เจตนา เพราะเรามองว่าไม่จำเป็นต้องเตรียม ติวไปอะไรขนาดนั้นเลย มันคือแค่หาข้อพลาดของเราเท่านั้นเอง เพราะมันเลือกแล้วว่า “คุณไม่ผ่าน” ตั้งแต่ก่อนสัม


เราโดนบอกให้เล่าแพลนเที่ยวอย่างละเอียดรายวัน จากที่พักไปยังไง พอวันที่ 4 เราบอกว่า เราจะไปซอรักซาน เพราะในเน็ต บอกมาว่า ซอรักซานใบไม้เปลี่ยนสีจะพีคช่วงนั้น โดยจะไปแบบ one day trip พูดประโยคนี้เป็นอิ้งนะ แล้วนางก็ถามว่า จองที่พักที่ซอรักซานหรือยัง คือ แปล one day trip บ่ออกติ?


เราก็เลยบอกกับล่ามว่าจะไปแบบเช้าเย็นกลับค่ะ ล่ามก็แปลให้ แล้วนางก็ถามว่าไปยังไง เราบอกว่าจะไปขึ้นรถบัสที่ express bus terminal นางก็ถามว่า ซื้อตั๋วรถบัสหรือยัง เราก็บอกว่ายัง ก็จะไปซื้อที่นั่นไง ชาวต่างชาติซื้อล่วงหน้าไม่ได้ ต้องใช้ บัตร เบอร์เกาหลีนี่นา ล่ามก็แปล ๆ


แล้ว ตม. ก็พูด ว่า จะไปแต่ถามก็ไม่มีอะไรสักอย่างที่พักก็ไม่จอง ตั๋วรถบัสก็ยังไม่ซื้อ เราบอกว่า ก็บอกว่ามันซื้อไม่ได้ จะไปซื้อที่นู่น แล้วก็บอกแล้วว่าไปแบบ one day trip one day trip ตอนนี้เราก็เริ่มขึ้นเสียงละ แล้วนางก็ถามเราว่าซอรัคซานอยู่เมืองอะไร เราก็ตอบทันทีเลยว่า ซกโซ


แล้วนางก็บอกว่าให้อธิบายวิธีการเดินทางไปเกาะนามิหน่อย แต่อันนี้ล่ามแอบงง คือนางแปลผิด พูดชื่อสถานีผิด เราก็ต้องพูดใหม่ เพราะเราบอกจะไปเกาะนามิ กับไปปั่นจักรยานที่ gangchon railbike ระหว่างสัม เราไม่ไถโทรศัพท์ หรือเปิดแพลนดูข้อมูลเลยสักนิด ตอบแบบโช้ะๆ เลย เล่นเรื่องแพลนไม่ได้


นางย้ายมาเล่นเรื่องอื่นต่อ โดยถามว่าพกเงินมาเท่าไหร่ เราบอกว่าแลกเงินสดมาล้านวอน แล้วก็มีเงินในบัตรอีก นางบอกว่าแต่เงินเดือนคุณแค่นี้เองนะ ทำไมเอาเงินมาเยอะจัง มากกว่า2เท่าของเงินเดือนคุณอีกนะ แล้วนางก็ถามมาเกาหลีกี่ครั้งแล้ว เคยไปประเทศอื่นไหม เราบอกว่า 4 ครั้ง ไม่เคยไปประเทศอื่น


นางก็ถามทำไมไม่ไปประเทศอื่นบ้างล่ะ มาเที่ยวแต่เกาหลี 4 ครั้งแล้ว แถมรอบล่าสุด อยู่นานด้วย ยังไม่หนำใจ/ไม่เต็มที่/ไม่พอใจอีกเหรอ ตอนนี้คือขึ้นปรี๊ดดดเลย เราก็สาธยายไปว่าชอบอย่างไรบ้าง แล้วมันถามว่ามีอะไรอยากพูดไหม เราบอกว่า ขอยื่นใบเสร็จ


เอกสารอื่น ๆ ที่เหลือให้ดูได้ไหม นางก็ส่ายหัว แล้วเราก็บอกนางว่า ฉันมาเที่ยวจริงๆ มีหลักฐาน นางก็บอกให้เราพอ แล้วพูดว่าถึงคิวของคนต่อไปแล้ว เราก็ยังพูดแย้งนางอยู่ จนนาง ลุก เดินหนีเราไปเอง


เราก็ได้ไปแชร์เรื่องราวในกลุ่มท่องเที่ยวเกาหลี ก็มีคนมาเม้นบอกเล่าประสบการณ์ว่า มีญาติที่โดนคำถามแบบเดียวกับเรา คือ ยังเที่ยวเกาหลีไม่พออีกหรือ? พี่คิดว่ามันสมควรถามไหมคะ?”


ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ‘บิว วราภรณ์’ ยูทูบเบอร์สายบิวตี้ ที่มีคนติดตามเกือบ 1 ล้านคน เจ้าของแบรนด์ Bondi Jelly ก็ติด ตม.เกาหลี และถูกส่งกลับประเทศเช่นกัน โดย บิว ถือว่าเป็นบุคคลที่มีหลักฐานยืนยันตัวตนชัดเจนว่าไม่ได้จะเข้าไปทำอะไรผิดกฎหมายในเกาหลีชัดๆ ทั้งแพลนที่บินไปเพื่อลองชุดแต่งงาน, Statements การเงินที่แข็งแรง, หรือประวัติการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีหลายครั้ง

https://youtu.be/Af2aCCX3GPs

คุณอาจสนใจ

Related News