สังคม

สุดเศร้า! ร่างแรงงานไทยกลับถึงบ้านเกิด ลูกสาววัย 4 ขวบไม่รู้พ่อเสียชีวิต ร่ำไห้ร้องอยากเจอพ่อ

โดย paranee_s

26 ต.ค. 2566

272 views

วันที่ 26 ต.ค. ที่บ้านโคกสูง ม.6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นายลำเพย อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นพ่อของ นายพงษ์เทพ อายุ 26 ปี และนายอภิชาต อายุ 29 ปี ลูกชายคนกลาง และลูกชายคนเล็ก ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สงครามที่ประเทศอิสราเอล พร้อมด้วย นางสาวขวัญชนก อายุ 29 ปี ชาว อ.งาว จ.ลำปาง และน้องเมจิ อายุ 4 ขวบ ภรรยาและลูกสาว มารอรับศพนายอภิชาต ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ศพแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายส่งศพกลับบ้านเกิดในวันนี้โดยรถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน 3932 นนทบุรี 


โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทันทีที่รถตู้เดินทางมาถึง พ่อและภรรยาของนายอภิชาต พร้อมด้วยญาติๆ และเพื่อนบ้าน ออกมารับศพและตะโกนเรียกชื่อผู้เสียชีวิตว่ากลับบ้านเราแล้ว ก่อนที่จะทำการตรวจสอบตามขั้นตอนเพื่อส่งมอบศพให้กับนายลำเพย ซึ่งเป็นบิดาของผู้เสียชีวิต ได้ทำการรับศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลภายในบ้าน โดยมีญาติพี่น้องช่วยกันยกหีบศพและเคลื่อนศพบรรจุโลงเย็น


ซึ่งในขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายศพนายอภิชาตใส่โลงเย็นนั้น น้องเมจิ ลูกสาววัย 4 ขวบของผู้เสียชีวิต ร้องไห้ขอดูพ่อ ทันทีที่รู้ว่าพ่อมา แต่ในช่วงนั้นยังไม่ทราบว่าเสียชีวิต โดยญาติ ๆ และเพื่อนบ้านต้องเข้ามาช่วยกันปลอบบอกให้รอก่อน ก่อนที่น้องเมจิจะเข้าไปภายในบ้าน กระทั่งญาติพี่น้องและครอบครัวตัดสินใจบอกน้องเมจิว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ทำให้น้องเมจิต้องเข้าไปกอดแม่แล้วร้องไห้ และนิ่งไป ทำให้คนที่พบเห็นต่างกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ด้วยความสงสารที่น้องเมจิวัย 4 ขวบต้องมาเสียคุณพ่อไป


และในคืนนี้จะมีการตั้งศพสวดมาติกาบังสุกุลคืนแรก โดยมีนายพันธ์เทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีสวด โดยกำหนดการจะสวด 2 คืน และจะทำการฌาปนกิจบนเมรุภายในวัดหัวหินประเสริฐธรรม บ้านโคกสูง ในวันเสาร์ที่ 28 ต.ค.2566 ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่ทำพิธีฌาปนกิจนายพงษ์เทพ น้องชายที่เสียีวิตในเหตุการณ์เดียวกันเมื่อวันที่ 23 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา และจะเก็บกระดูกกลับมาทำบุญพร้อมกับน้องชาย และแม่ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อปี 65


ขณะที่ นายทวีป แก้วสุพรรณ์ นักวิชาการประกันสังคม 4 สำนักงานประกันสังคม จ.ขอนแก่น สาขาบ้านไผ่ พร้อมเจ้าหน้าที่มอบเงินบำเน็จชราภาพ จากกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 33 ให้กับผู้ได้รับผลประโยชน์ภายหลังจาก นาย อภิชาต อายุ 29 ปี และนาย พงษ์เทพ อายุ 26 ปี ลูกชายคนกลางและลูกชายคนเล็กของนายลำเพย อายุ 62 ปี เสียชีวิตจากเหตุสงครามในประเทศอิสราเอล ภายหลังเดินทางไปทำงานเป็นแรงงานอยู่ใกล้กับฉนวนกาซา ก่อนจะถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้ามายิงเสียชีวิตพร้อมกันทั้งคู่


โดยในส่วนของนายพงษ์เทพนั้น มอบให้กับบิดา จำนวน 16,200 บาท และในส่วนของนายอภิชาต มอบให้กับ บิดา ภรรยา และลูกสาววัย 4 ขวบ รวมจำนวน 28,354 บาท โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกองทุนสำนักงานประกันสังคม ในกรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ