เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 19 ก.ย.66 นายกฯ บินสหรัฐฯประชุม UN-ไทยชนะคดีโฮปเวลล์-ลดค่าไฟอีกรอบเหลือ 3.99 บาท

1.ผบ.ตร. สั่งโอนคดีกำนันนก มั่นใจศักยภาพทำได้ดี

ผบ.ตร.สั่งเองโอนคดีกำนันนก ให้กองปราบปราม เหตุมีอำนาจ ศักยภาพการปฏิบัติงานทั่วประเทศ และคดียังเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ทั้งยังมั่นใจสุวัฒน์ แสงนุ่ม จะทำคดีออกมาได้ดี ส่วนฮั้วประมูลจะมีดีเอสไอเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจ ด้านบิ๊กโจ๊กลั่นไม่น้อยใจ โอนคดีกำนันนกให้กองปราบฯ ชี้สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ไม่ให้มีการวิ่งเต้นคดี ยันเดินหน้าขยายผลประเด็นร่ำรวยผิดปกติ ให้ความจริงปรากฏ

2.DSI เรียกสอบผู้รับเหมา ฮั้วประมูลกำนันนก

DSI เรียกสอบ 20 บริษัทที่ซื้อซองประมูลงานโครงการก่อสร้างถนนสาย 375 และ 364 ที่จังหวัดนครปฐม มาสอบปากคำ หลังพบความผิดปกติว่า ซื้อซองรายละเอียดโครงการ แต่เมื่อถึงวันประมูลกลับไม่ยื่นเสนอราคา ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการ ปัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำนันนก และไม่เคยถูกข่มขู่ ส่วนที่ซื้อซองประมูลแต่ไม่ได้ยื่นประกวดราคา ได้ตอบคำถามกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว

3.ทักษิณยังไม่ยื่นขอพักโทษ เหตุจำคุกไม่ครบเกณฑ์

โฆษกราชทัณฑ์ ยันชัดทักษิณ ยังไม่ยื่นขอพักโทษ เหตุจำคุกไม่ครบเกณฑ์ ชี้ โทษจำคุกหลังอภัยลดโทษจะสุดที่ห้วงเดือน ก.พ. 67 แย้มใกล้รักษาตัวครบ 30 วัน แพทย์ รพ.ตำรวจ ต้องส่งรายงานสุขภาพ เพื่ออธิบดีพิจารณานอนต่อหรือส่งกลับเรือนจำฯ ขณะที่ ปอท. เตรียมแจ้งข้อหา ม.112 ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้พาดพิงสถาบันฯ รออัยการสูงสุด ประสานมาเพื่อดำเนินการ

4.ไทยชนะคดี ปิดประตูมหากาพย์โฮปเวลล์

ไทยชนะคดี โฮปเวลล์ ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 2.4 หมื่นล้าน ปิดฉากมหากาพย์ 34 ปี หลังศาลปกครองกลาง พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ พิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟ ชดใช้ค่าเสียหายโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ชี้การใช้สิทธิเรียกร้องของบริษัทขาดอายุความตามกฎหมาย

5.มติ ครม. ลดค่าไฟอีกครั้ง เหลือ 3.99 บาท

คณะรัฐมนตรีมีมติ ลดค่าไฟงวดใหม่เดือน กันยายน - ธันวาคม 2566 จาก 4.10 บาท เหลือ 3.99 บาท ต่อหน่วย เริ่มทันทีรอบบิล กันยายน นี้ ด้าน กกพ.เด้งรับมติ ครม.พร้อมทำตาม หลังอนุมัติเห็นชอบล่าสุด ระบุยังไม่เห็นรายละเอียดคำสั่งว่าจะให้ทำอย่างไร ชี้เมื่อมีความชัดเจนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กกพ. ทันที ด้านพีระพันธุ์ เร่งคุยกรมธุรกิจพลังงาน กรมศุลกากร หวังลดราคาน้ำมันเบนซิน ให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2567

6.พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช งานปัง-รักรุ่ง!

พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช เปิดใจแย้มถึงพระเอกรุ่นพี่ ตุ้ย ธีรภัทร์ บอกความรักตอนนี้กำลังดี ได้พลังมวลความรักเยอะ ทำให้สดใส ไม่ขอพูดเยอะ! ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจดีๆ ขอเดินหน้ากับอาชีพใหม่ เป็นแม่ค้าออนไลน์หารายได้เสริมเลี้ยงชีพ



เรื่องเล่าการเมือง

1.นายกฯ บินสหรัฐฯประชุม UN โฆษก ยันนายกฯใช้งบสมเหตุสมผล

เรื่องเล่าการเมือง เริ่มต้นด้วย ภารกิจของนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ท่านนายกฯเดินทาง ไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมการประชุม สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 78 ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายนนี้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG Summit และจะกล่าวถ้อยแถลงของไทยในการอภิปรายทั่วไป ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะมีการหารือทวิภาคีกับผู้นำระดับสูงของประเทศต่างๆ มีการหารือกับเลขาธิการสหประชาชาติ และการหารือกับบริษัทเอกชนของสหรัฐฯตลอดจนการพบปะชุมชชนไทยในสหรัฐฯ

ส่วนเรื่องดรามาการเช่าเครื่องบินเหมาลำของการบินไทย ที่ตังราคากลางสูงถึง 30 ล้านบาท ในการเดินทางครั้งนี้ จนมีการออกมาตั้งข้อสังเกต ของอดีต กกต.สมชัย ว่าทำไม นายกฯไม่ใช้เครื่องบินประจำตำแหน่งที่มีอยู่แล้ว เรื่องนี้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล ตอบโต้ อ.สมชัย ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นนักธุรกิจ มีการเน้นย้ำว่า การใช้งบประมาณของประเทศต้องสมเหตุสมผล

"การที่ อ.สมชัย ออกมาแสดงความเห็นเป็นทัศนคติส่วนตัว แต่รัฐบาลก็มีวิธีคิดของตัวเอง อาจจะไม่เหมือนกับอาจารย์สมชัย สุดแท้แต่อาจารย์จะว่าอย่างไรก็เชิญ เพราะอาจารย์ไม่ได้มีวิสัยทัศน์ด้านธุรกิจมาก่อน ไม่มีประสบการณ์ แต่คนที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจมุมมองคงไม่เหมือนอาจารย์



-ชื่นมื่น! เศรษฐา ชนหมัดชัชชาติ ผุดตั้งคณะทำงานหนุน กทม.

พูดถึงเมื่อวานนี้ ก่อนท่านนายกฯ จะบินไปประชุมที่สหรัฐฯ ได้นัดพูดคุยกับ ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็มีบรรยากาศชนหมัดพร้อมทำงานกับแบบพี่น้อง โดยจะตั้งคณะทำงาน มาช่วยสนับสนุนการทำงานของกทม.

เมื่อวานนี้ ช่วงบ่ายหลังประชุมครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แน่นอนภาพไฮไลท์ มีบรรยากาศของการชนหมัด ซึ่งเป็นท่าประจำตัวของผู้ว่าฯชัชชาติ แล้วได้นั่งพูดคุยกันแบบสบายๆ เป็นกันเอง

โดย ท่านนายกฯเศรษฐา พูดถึงการตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากทม. ชุดเล็กขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนกทม. ก็บอกหน้าที่ตน คือ การสนับสนุนน้องชาย หมายถึงผู้ว่าฯชัชชาติ โดยเฉพาะส่วนใด ที่ผู้ว่าฯไม่มีอำนาจสั่งการได้โดยตรง พร้อมได้เล่าย้อนความหลัง ว่า รู้จักกับผู้ว่าฯชัชชาติ มานาน ก่อนหน้านี้ที่เจอกัน เคยบอก ว่า “ท่านน่าจะสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปลงผู้ว่าหรอก แต่นายชัชชาติ บอกว่าอยากเป็นผู้ว่าฯดีกว่า” ก็บอกไม่คาดฝัน ว่าจะมีวันนี้มานั่งคุยแบบพี่ๆน้องๆได้

และเมื่อตนเข้ารับตำแหน่ง 1 ในคนที่คิดถึง คือ ผู้ว่าฯชัชชาติ และภารกิจแรกๆ อยากพูดคุยสนับสนุน ผู้ว่าฯชัชชาติให้ทำงานลุล่วง ไปด้วยดี

ด้าน ผู้ว่าฯชัชชาติ พูดถึงการทำงานของกทม. ยอมรับว่า มีข้อจำกัดในการใช้อำนาจ ดังนั้น หากมีการประสานงานที่เข้มข้น มีทิศทางชัดเจน เชื่อว่าปัญหาหลายอย่างจะบรรเทาลงไปได้ ก็บอกว่า คณะทำงานดังกล่าว ไม่เน้นเมกะโปรเจคในการลงทุน แต่เน้นเรื่องการผลักดันสิ่งที่เป็นข้อติดขัด



3.ระอุ! ไชยาเตรียมคุยธรรมนัส เคลียร์ปมแบ่งงาน ก.เกษตรฯ

ส่วนประเด็นการเมือง หลังมีกระแสข่าวว่า 2 รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ ไม่พอใจเรื่องการแบ่งงาน เมื่อวานนี้ นายไชยา พรหมมา 1 ในรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ แม้จะยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง แต่ยอมรับว่าต้องมีการพูดคุย ก็ย้ำหลักการทำงานด้วยกัน ต้องให้เกียรติและไว้ใจกัน

เมื่อวานนี้ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. กรณีกระแสข่าวว่าไม่พอใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการแบ่งงาน ก็บอกว่า ไม่ใช่ไม่พอใจ เพียงแต่ได้ท้วงติงว่าการแบ่งงาน ไม่สามารถตอบสนองนโยบายได้ ทั้งที่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งการแบ่งงาน โดยรัฐมนตรีว่าการได้ไป 11 หน่วยงาน ส่วนรัฐมนตรีช่วย 2 คน ได้คนละ 4 หน่วยงาน ก็บอก “กลัวว่า รัฐมนตรีว่าการจะงานหนักเกินไป จึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระ”

นายไชยา บอกว่าเร็วๆ นี้ จะได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าไม่เป็นจุดรอยร้าวในรัฐบาล และไม่ได้มีความขัดแย้ง แต่หลักการทำงานร่วมกัน คือต้องให้เกียรติและไว้ใจกัน รวมถึงต้องมีธรรมาภิบาล ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯแล้ว ก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากตน

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงปัญหาความไม่ลงตัวภายในกระทรวงเกษตรฯ ว่า ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน ก็จะมีข่าวในลักษณะนี้ออกมา แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา และสุดท้ายจะสามารถพูดคุยตกลงกันได้

-วันนอร์ เผยเป็นคนอนุมัติหมออ๋อง ทัวร์ดูงานสิงคโปร์ เชื่อเป็นประโยชน์

ส่วนเรื่องดรามา หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ขอเบิกงบ1.3 ล้านบาท ไปศึกษาดูงานที่สิงคโปร์ 21-25 ก.ย.นี้ เรื่องนี้ ประธาน วันนอร์ ยืนยันว่าเป็นผู้อนุมัติเอง

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอนุมัติงบ ให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่1 ไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ว่าเรื่องดังกล่าว สามารถดำเนินการได้ ตามอำนาจหน้าที่

อีกทั้งเห็นว่าไม่ใช่การไปเที่ยว และไปเพียงประเทศสิงคโปร์ 2 วันเท่านั้น จึงคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่องานกิจการสภาฯ เพราะประเทศสิงคโปร์น่าจะมีอะไรที่สามารถนำมาใช้กับไทยได้ ส่วนที่สังคมวิจารณ์ว่า มีพักโรงแรมหรูและนั่งเครื่อง ชั้นBusiness class นั้น ประธานสภา กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายของแต่ละคนที่จะเบิกได้ตามอำนาจหน้าที่ และตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้

ขณะที่ นายปดิพัทธ์ ชี้แจงในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา พร้อมให้มีการตรวจสอบ ยอมรับว่าตนเองติดต่อขอเดินทางไปศึกษาดูงานจริง แต่เป็นการไปเรียนรู้ เรื่อง Smart Parliament กับการแก้ปัญหาหมอกควัน ที่สิงคโปร์เผชิญหนักกว่าไทย ยืนยันว่าตนเองต้องการเดินทางอย่างประหยัด ใช้สายการบินแบบโลว์คอสต์ แต่มีระเบียบของกระทรวงการคลัง ล็อกเอาไว้ ว่าต้องใช้สายการบินประจำชาติ / ส่วนงบประมาณ 1.3 ล้าน นั้น เป็นการตั้งเบิกแบบ Maximum



-มติวุฒิสภา อุ้ม สว.กิตติศักดิ์ ไม่ผิดจริยธรรม ปมวัดบางคลาน

ประเด็นการสอบจริยธรรม สว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กรณีถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล ในความขัดแย้งที่วัดบางคลาน จ.พิจิตร เมื่อวานนี้ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่ลงโทษ สว.กิตติศักดิ์

สืบเนื่องจาก มีบุคคลยื่นขอให้วุฒิสภา ดำเนินการไต่สวน และวินิจฉัยพฤติกรรมของ สว.กิตติศักดิ์ ว่าทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ไม่ยอมให้เจ้าอาวาสวัดบางคลานที่ถูกแต่งตั้งอย่างถูกต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ ซึ่งต่อมา คณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบมีการพิจารณาเรื่องดังนี้ทั้งสิ้น 13 ครั้ง

จนได้ข้อสรุป ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมให้ลงโทษ สว.กิตติศักดิ์ ด้วยการว่ากล่าวตักเตือน เพราะการปฏิบัติหน้าที่ที่ทำให้บุคคลเคลือบแคลงในการทำหน้าที่ มีการใส่ร้าย เสียดสีบุคคลอื่น และนำข้อความอันเป็นเท็จอภิปรายต่อที่ประชุม ขัดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภา

แต่ในการลงมติลับ ในที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวานนี้ มี สว. ลงมติเห็นชอบกับรายงานลงโทษ เพียง 93 เสียง ไม่เห็นชอบ 33 เสียง และไม่ออกเสียง 37 คน ซึ่ง เสียงเห็นชอบไม่ถึงครึ่ง จึงถือว่า สว.กิตติศักดิ์ ไม่ได้ทำผิดตามประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภา

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ip3p8P0oU38