‘ก้าวไกล’ เคาะ 23 ก.ย.เลือก หน.พรรคใหม่ 'ปดิพัทธ์' รอคุย กก.บห.ชุดใหม่ ลั่นยังไม่ลาออก รองปธ.สภาฯ

'ชัยธวัช' เผย 23 ก.ย. ประชุมวิสามัญพรรคก้าวไกล เลือก กก.บห.ชุดใหม่ ลั่น ชอบเป็นเลขาพรรคมากกว่า ชี้ ตำแหน่ง 'หมออ๋อง' ต้องรอหารือ  ย้ำหากผลศาล รธน. 'พิธา' กลับมาเป็น สส.ได้ ก็เปิดทางมานั่งตำแหน่ง 'ผู้นำฝ่ายค้าน'  ด้าน 'ปดิพัทธ์' ลั่นยังไม่ลาออก 'รองประธานสภาฯ' รอคุย 'กก.บห.ชุดใหม่' เท่านั้น

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) เวลา 13.10 น.ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ซึ่งหลังจากนี้จะพิจารณาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคอย่างไรนั้น

นายชัยธวัช เปิดเผยว่า วันที่ 23 ก.ย. จะมีการประชุมวิสามัญของพรรค โดยวาระสำคัญจะเป็นการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็คงต้องรอผลสรุปในที่ประชุมวิสามัญ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าสำหรับสถานะของนายปดิพัทธ์สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งพรรคก้าวไกลชัดเจนแล้วว่าจะเอาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านด้วย ซึ่งทางนายปดิพัทธ์ จะถูกขับออกจากพรรคหรือไม่หรือจะให้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา นายชัยธวัช กล่าวว่า ความชัดเจนเรื่องนี้ต้องรอคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เมื่อมีกรรมการบริหารชุดใหม่คงจะมีการหารือกับนายปดิพัทธ์อีกรอบ

ซึ่งชัดเจนว่าตอนนี้พรรคก้าวไกล คิดว่าเพื่อให้การทำงานให้มีประสิทธิภาพ เราควรมีสถานะพรรคฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ และควรมีผู้นำฝ่ายค้านที่มาจากพรรคฝ่ายขาหลัก เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้านมีบทบาทสำคัญ เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ในการกำหนดทิศทางการทำงานของฝ่ายค้าน

 ส่วนจะควบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานอันดับ 1 นั้น นายชัยธวัชชัย ชี้ว่า ขึ้นอยู่กับการพูดคุยระหว่างกรรมการบริหารชุดใหม่กับนายปดิพัทธ์อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น หลังจากที่มีการประชุมวิสามัญ วันที่ 23 ก.ย. ไม่ได้กรรมการบริหารชุดใหม่ก็จะมีความชัดเจนขึ้น

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทิศทางของนายพิธาหลังจากนี้ จะไปอยู่ในตำแหน่งไหนและมีหน้าที่อะไร นายชัยธวัช ระบุว่า ต้องรอหลังจากมีกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งจะมีการจัดวางว่านายพิธาจะอยู่ตำแหน่งใด ทั้งนี้ทั้งนั้น นายพิธาก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นผู้นำกองทัพอยู่แล้วแม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค

เมื่อถามต่อว่า หากอนาคตศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่านายพิธาไม่มีความผิดและคืนสถานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)ให้ แปลว่านายพิธาจะไม่ได้ตำดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน แต่จะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนใช่หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ตนคิดว่า ผู้นำชุดใหม่ของพรรคก็พร้อมเมื่อนายพิธากลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ก็พร้อมเปิดทางให้นายพิธากลับมาเป็นผู้นำพรรค ส่วนความชัดเจนต้องรอกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ส่วนสเปคหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ต้องรอในที่ประชุมวิสามัญเป็นผู้พิจารณา ส่วนการวางตัวว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังขึ้นอยู่กับที่ประชุมวิสามัญ ซึ่งมีความคิดเห็นที่หลากหลาย

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากในที่ประชุมให้ นายชัยธวัช ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ท่านพร้อมทำหน้าที่อยู่หรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ค่อยว่ากัน ส่วนตัวยังชอบเป็นเลขาธิการพรรคอยู่ ส่วนว่าใครเหมาะกับกรรมการบริหารพรรคไว้หรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชุมวิสามัญ

ทั้งนี้ หากศาลตัดสินว่านายพิธาไม่ผิดแล้ว ทุกองค์ขาพยศในพรรค ยอมรับในความเป็นผู้นำของนายพิธาอยู่แล้ว นายชัยธวัช เผยว่า ก่อนหน้านี้นายพิธาระบุว่า พรรคก้าวไกลควรจะทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านให้ได้สมบูรณ์ และผู้นำฝ่ายค้านควรจะมาจากพพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งเป็นความชัดเจน และเป็นเหตุผลที่นายพิธาตัดสินใจสละตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนรองประธานสภาตนยืนยันว่าต้องรอกรรมการบริหารชุดใหม่พูดคุยกัน

 นายชัยธวัช เผยอีกว่า ทั้งนี้เราก็เสียใจ แต่เป็นการตัดสินใจของนายพิธาเอง และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดก็พรรคก้าวไกลในขณะนี้ ในส่วนตัวของตน นับถือการตัดสินใจของนายพิธา ซึ่งนายพิธาก็ยืนยันด้วยตนเองว่าไม่ได้หายไปไหน และยังทำหน้าที่เป็นผู้นำคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตามตอนเชื่อว่าหุ้น itv ไม่มีปัญหาอะไรเพียงแต่รอระยะเวลาที่นายพิธาจะกลับมาทำหน้าที่ส.สได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ส่วนกรณีที่นายพิธาโพสต์ประกาศลาออกได้หารือกับทางพรรคหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า มีการหารือกันแล้ว

ทั้งนี้ นายชัยธวัช ย้ำว่า หากศาลตัดสินหุ้น itv ของนายพิธาว่าไม่ผิด ก็เป็นไปได้ที่นายพิธาจะกลับมาเป็นผู้นำของพรรคฝ่ายค้าน

--------------------------

ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความชัดเจนถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนเองจะพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลชุดใหม่ ที่จะมีการเลือกในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายนนี้ เพราะเมื่อนายพิธา ลาออกจากหัวหน้าพรรคฯ แล้ว ก็ส่งผลให้ผลกรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพไปด้วย

 นายปดิพัทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หากพรรคก้าวไกลจะมีมติขับตนเองออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกลให้ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้ และให้พรรคก้าวไกล สามารถมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่า

ปัญหาดังกล่าวเป็นเพราะข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีประเทศใดใช้เทคนิคกฎหมายแบบนี้ และตนเองได้รับการเลือกตั้ง สส. ได้รับมติจากสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ควรโดนข้อจำกัดต่าง ๆ มาบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ตรงไปตรงไปมา แต่หากพรรคเห็นสมควรอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องของพรรค แต่ตนเองก็พร้อมทำหน้าที่ของตนเองเต็มที่

 ส่วนหากพรรคก้าวไกลมีมติอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตามหรือไม่นั้น นายปดิพัทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่า ตนเองยังไม่ทราบมติพรรคจึงขอรอมติพรรคก่อน และตนเองก็จะต้องพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เท่านั้นว่า แนวทางต่างๆ จะเป็นอย่างไร พร้อมมั่นใจว่า การตัดสินใจของพรรคก้าวไกล จะเป็นประโยชน์ที่ไม่ใช่กับพรรคเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ และการได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8PgyjY9w2t8