สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กู้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุยิงสารวัตรแบงค์ได้แล้ว 13 ตัว

สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กู้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุยิงตำรวจทางหลวงได้แล้ว 13 ตัว ส่วนนาทีสำคัญ ยังอยู่ระหว่างการกู้ คาดใช้เวลาอีกไม่นาน



มีรายงานจากห้องแล็บ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ว่า ขณะนี้ สามารถกู้ 1 ใน 2 เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต และบริเวณบ้านพักของนายประวีณ หรือ กำนันนก ได้แล้ว ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว เป็นตัวที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ที่มีการเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด 15 ตัว ผ่านระบบสายแลน ที่ติดตั้งรอบบริเวณที่จัดงานเลี้ยงของกำนันนก และสามารถสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ โดยเจ้าหน้าที่ สามารถกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้แล้ว 13 ตัว ส่วนอีก 2 ตัว คาดว่า จะใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 5 – 6 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ที่เห็นภาพบริเวณโต๊ะประธาน



สำหรับภาพบางส่วนที่กู้ได้แล้ว เบื้องต้น เป็นภาพเหตุการณ์หลังจากได้ยินเสียงปืน จากนั้น กลุ่มตำรวจและพลเรือนในงานต่างแยกย้ายกันวิ่งหนี แต่ยังสามารถบันทึกเหตุการณ์ที่มีนายตำรวจบางนาย เข้าไปช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 หรือ สารวัตรแบงค์ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 ที่ถูกยิง ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

ส่วนภาพนาทีสำคัญ ยังอยู่ระหว่างการกู้ นอกจากนี้ จากภาพยังระบุเวลาที่กำนันนก ออกจากที่เกิดเหตุในเวลา 21.26 น. ก่อนถึงบ้านพักในเวลา 21.36 น. ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงเวลา 10 นาทีนี้ กำนันนก อาจใช้โทรศัพท์มือถือ ปิดการทำงานของกล้องวงจรปิดบางตัวในจุดเกิดเหตุ ประกอบกับ ตำรวจไม่ได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของกำนันนก จึงยังไม่สามารถตรวจสอบได้



ส่วนเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดที่บ้านกำนันนก พบว่า มีความเสียหายอย่างมาก จนไม่สามารถกู้ภาพได้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จำเป็นต้องส่งไปยังบริษัทผลิตกล้องวงจรปิด เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพ แต่จากการประสานบริษัท ซีเกตฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้อง ที่อยู่สหรัฐอเมริกา ได้รับแจ้งว่า ให้เจ้าหน้าที่ ส่งกล้องไปที่สำนักใหญ่ในประเทศไทย ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้ช่างที่อยู่ในประเทศไทย เป็นผู้กู้ภาพ ภายใต้คำแนะนำผ่านวีดีคอลจากช่างซ่อมของบริษัทแม่ โดยเชื่อมั่นว่า จะสามารถกู้ภาพได้ แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเซิร์ฟเวอร์ใหม่ 2 ตัว มาแบ็กอัปข้อมูล เพื่อเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้เป็นหลักฐาน และส่งมอบให้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว 1 ตัว