สังคม

ตำรวจไซเบอร์แถลงจับกุม 3 บัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงิน “ตาล ประวีณมัย”

โดย paranee_s

7 ก.ย. 2566

259 views

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ (สอท.) ร่วมกับ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการ สอท. และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการ สอท.1 แถลงผลความคืบหน้าการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นกรมที่ดิน หลอกคุณตาล ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้ติดตั้งแอปดูดเงินสูญเงินกว่าล้านบาท โดยการแถลงข่าวครั้งนี้ คุณตาล ประวีณมัย บ่ายคล้อย ได้เดินทางมาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย


โดยทางพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ระบุว่า ความคืบหน้าล่าสุดของคดีนี้ พบผู้กระทำความผิดจำนวน 5 ราย มีพฤติการณ์ร่วมกันเปิดบัญชีม้าและมีส่วนร่วมในการเข้าถึงระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ เพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหาย ไปดำเนินการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 รายเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา


ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ได้แก่ นายศิริเทพ อายุ 22 ปี จับได้ที่ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ,นางหน่อย อายุ 46 ปีจับได้ที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว และ นางยุวรัตน์ อายุ 34 ปี จับได้ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ และร่วมกันเข้าใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ


โดยทั้ง 3 ที่จับกุมได้ เป็นบัญชีม้าแถวที่สามและให้การซัดทอดไปถึงนายหน้าชาวไทย ที่ทำหน้าที่พาบัญชีม้าเหล่านี้ข้ามชายแดนเพื่อไปเปิดบัญชีและสแกนใบหน้า จึงถือว่าผู้ต้องหาเหล่านี้ไม่ใช่บัญชีม้าธรรมดา แต่เป็นบัญชีม้าที่มีเจตนาร่วมกันกระทำความผิดมาตั้งแต่ต้น


ซึ่งรายละเอียดข้อมูลการสอบสวนและให้ปากคำยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อรูปคดี แต่ยืนยันว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 รายที่อยู่ในระหว่างการไล่ล่าตัวนั้น เป็นตัวการรายใหญ่และเป็นบัญชีม้าแถวที่ 1 คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้


ส่วนการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเบื้องต้น ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้และไม่พบว่าข้อมูลหลุดจากระบบของกรมที่ดิน แต่กำลังตรวจสอบอยู่ว่าข้อมูลหลุดจากที่ไหน ซึ่งคาดว่าน่าจะหลุดจากระบบข้อมูลทั่วไปแต่ยังไม่เปิดเผย


ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ระบุว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายที่ต้องมาสูญเงินและตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ รวมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย โดยเฉพาะ สอท.1 ที่ติดตามสืบสวนสอบสวนคดีจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ พร้อมทั้งเตือนประชาชนว่า ถือเป็นอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่มิจฉาชีพใช้แอพพลิเคชั่น ปลอมเป็นระบบของราชการซึ่งเนียนใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด รวมทั้งมีวิธีการหาข้อมูลของผู้เสียหายมาใช้หลอกลวง จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อได้ ดังนั้นประชาชนจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก


นอกจากนี้ยังพบว่า บัญชีม้ากลุ่มขบวนการนี้นั้น ไม่ใช่บัญชีม้าในคดีอื่น ๆ ที่ถูกหลอกไปเปิดบัญชี แต่ขบวนการนี้ บรรดาบัญชีม้าสมัครใจเปิดเอง โดยพบว่า จะมีตัวการพาข้ามชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสแกนใบหน้า เก็บเอาไว้สำหรับเปิดบัญชี นอกจากจะส่งมอบรหัสจะทำธุรกรรมให้กับตัวการใหญ่แล้ว ซึ่งวิธีการนี้นั้น ถือว่าผู้ต้องหากลุ่มบัญชีม้าเป็นตัวการร่วมกระทำความผิด จึงจะมีโทษมากกว่าเปิดบัญชีม้าทั่วไป ก็ขอเตือนว่า อย่าหลงเชื่อไปรับจ้างเปิดบัญชีม้าแม้จะได้ผลตอบแทนสูง เพราะมีอัตราโทษทางกฎหมายที่สูงมาก


ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง Application ติดต่อกับทางราชการ ซึ่งหลายขบวนการได้ทำหน้าตาของแอปพลิเคชันหรือลิงก์เว็บไซต์เหมือนจริงอย่างมาก เพื่อตบตาประชาชน จึงขอเตือนประชาชนว่า การติดต่อราชการไทยในปัจจุบันนั้น ยังไม่มีวิธีการในลักษณะเชิญชวนให้กดลิงค์หรือติดตั้งแอพพลิเคชั่น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและตรวจสอบกับทางหน่วยงานราชการต้นสังกัดที่ถูกอ้างหรือติดต่อมายังสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441


ด้านคุณตาล ประวีณมัย เผยว่า ขอกราบขอบพระคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ที่พยายามติดตามจับกุมบัญชีม้าได้ จึงขอเตือนประชาชนทุกคนว่า กลุ่มมิจฉาชีพใช้วิธีการหลอกลวงแบบแยบยล หากถูกหลอกในลักษณะแบบนี้ก็ให้เอ๊ะ สงสัยไว้ก่อน อย่าเพิ่งเชื่อง่าย ๆ ตรวจสอบให้รู้ก่อนว่าเป็นหน่วยงานราชการที่ยืนยันได้จริง ๆ ไม่โอนเงินไปง่าย ๆ ไม่กดลิงค์ง่าย ๆ และที่สำคัญคือไม่ประมาท จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนที่เข้ามาพูดคุยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และส่วนตัวก็ไม่กล้าที่จะกดลิงค์แปลกปลอมหรือหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ อีกต่อไปแล้ว จึงถือเป็นเรื่องที่ต้องเตือนใจเป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ