สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 4 ก.ย.66 สุทินพบผู้นำเหล่าทัพ-ครูมะกันสอนภาษาพรากผู้เยาว์-ชาร์จรถไฟฟ้าควันท่วม

โดย thichaphat_d

4 ก.ย. 2566

53 views

1.ดส.รวบครูมะกันสอนภาษา พรากผู้เยาว์

ตำรวจ สวัสดิภาพเด็กและสตรี นำกำลังรวบฝรั่งอเมริกัน ครูสอนภาษา ก่อเหตุอนาจารเยาวชน ก่อนอึ้งซ้ำเป็นดาวติ๊กต๊อกชื่อดัง แฟนติดตามกว่า 1.3 ล้านคน ขณะที่แม่เหยื่อเผย ลูกรู้จักกับผู้ก่อเหตุมา 5 เดือน ก่อนถูกทำอนาจารและถ่ายคลิปเก็บไว้ ด้านผู้ก่อเหตุยอมรับทุกข้อหา พร้อมถูกนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

2.นร.หญิง ส่อตาบอด หลังเคเบิลเกี่ยวตา ไร้หน่วยงานรับผิดชอบ

ป้านักเรียน หญิง 13 ปี ร้องเพจสายไหมฯ หลังถูกสายเคเบิ้ล เขตราษฎร์บูรณะเกี่ยวตา ระหว่างซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ขณะที่แพทย์ระบุโอกาสตาบอด 70% ด้านทีโอทีออกตัวพร้อมชดใช้หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นสายของบริษัท ส่วนตำรวจยังไม่รับแจ้งความ ให้แค่ลงบันทึกประจำวัน ปัดหน้าที่หาพยานหลักฐาน ก่อนจี้ชัชชาติ จัดระเบียบสายเคเบิลตาม ชี้มีคนเจ็บไปแล้วนับสิบราย

3.รถตู้จอดขวางกลางสี่แยก โบกให้ขบวนรถตู้ฝ่าไฟแดง


โซเชียลรุมจวกยับ แก๊งรถตู้จอดขวางกลางสี่แยกมุ่งหน้าบุรีรัมย์ – ลำปลายมาศ โบกให้ขบวนรถตู้ร่วงแก๊งกว่า30คัน ฝ่าไฟแดง สุดท้ายโดนชนพังยับ ด้านผู้กำกับ ซัด การให้สัญญาณตามกฎหมาย ต้องเป็นเจ้าพนักงานเท่านั้น ประชาชนทั่วไปไม่สามารถทำได้ ผิดตาม พ.ร.บ.จราจร จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2 พันบาท

4.ชาร์จรถไฟฟ้า ช็อกชาร์จไม่นาน ควันเต็มฝากระโปรงรถ

สุดระทึกกลางเมืองอุดร หนุ่มขับรถจอดชาร์จรถไฟฟ้าหน้าห้างดัง ก่อนเกิดควันเต็มฝากระโปรงรถ ขณะที่เจ้าของเผย พึ่งถอยรถป้ายแดงออกไม่ถึงสัปดาห์ ชี้ก่อนเกิดเหตุแบตเตอรี่เหลือ 10 % จึงแวะจอดชาร์จทิ้งไว้ก่อนเข้าไปซื้อของในห้าง ผ่านไปไม่นานเห็นควันลอยจากฝากระโปรงจึงรีบแจ้งดับเพลิง ล่าสุดมีรายงานจากบริษัทรถ ว่าได้ส่งวิศวกรชาวจีนเดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

5.วอลเลย์บอลหญิงไทย ไล่ทุบเกาหลีใต้ 3-0 ทะลุงรอบรอง

วอลเลย์บอลหญิงไทย เก๋าเกมกว่าไล่ทุบ "เกาหลีใต้" 3-0 เซ็ต ซิวชัยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 ทะลุรอบรอบ / ขณะที่วันนี้ ทีมสาวไทย ลงสนามพบ เวียดนาม / ด้าน “โค้ชด่วน” ยัน “อัจฉราพร-พิมพิชยา-หัตถยา” ที่ไม่ได้ลงเล่นเกมกับ“เกาหลีใต้” ไม่มีอาการเจ็บรบกวน ชี้อยากให้ลูกทีมได้ประสานงานกันมากขึ้น / หวังดับซ่าเวียดนาม ซิวแชมป์กลุ่ม (ปล่อยเสียงโค๊ช ดนัย)

6.ใหม่ ดาวิกา เผยแล้วสาเหตุที่ผอมมากจนเห็นกระดูก

ใหม่ ดาวิกา เผยแล้วสาเหตุที่ผอมมากจนเห็นกระดูก ลั่น! ไม่ได้เป็นคนคลั่งผอมอย่างที่หลายคนพูด แต่เป็นเพราะรับบทตัวละครที่ชื่อว่า ตุ้ม ในเรื่อง “ตลก69เดอะซีรีส์” พร้อมประกาศลั่นไม่คิดจะกลับมาผอมเบอร์นี้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะงาน ฝากทุกคนบอกต่อกับคนที่ยังเข้าใจผิดด้วย


เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ควงสุทิน พบผู้นำเหล่าทัพ ปีหน้าเริ่มเปลี่ยนเกณฑ์ทหาร


ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลชุดใหม่ เมื่อวานนายกฯเศรษฐา ควงนายสุทิน รัฐมนตรีกลาโหม ร่วมรับประทานมื้อเที่ยงกับผู้นำเหล่าทัพชุดใหม่ มีการพูดคุยถึงนโยบายของรัฐบาล หนึ่งในนั้น คือ การเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นแบบสมัครใจมากขึ้นจนไม่ต้องเกณฑ์

สำหรับผู้ร่วมวงรับประทานอาหารมื้อกลางวันเมื่อวาน ประกอบด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง / นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ / นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม / พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด / พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก / พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 ตุลาคม ขาดเพียง พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ

ใช้เวลารับประทานอาหารและพูดคุยกัน ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ โดยไม่อนุญาตให้สื่อไปทำข่าว

นายสุทิน เปิดเผยถึงการพบกันดังกล่าวว่า เป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์ของประเทศ สอบถามปัญหาและแลกเปลี่ยนความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายการเมืองได้ระบุว่าอยากผลักดันนโยบายต่างๆ ขณะที่ทางกองทัพก็ไม่ขัดข้องอะไรและยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล

อาทิ การเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ ซึ่งจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในการเกณฑ์ทหารเดือนเมษายน ปีหน้า (2567) และการเกณฑ์ทหารจะค่อยๆหมดไป รวมถึงการปรับลดขนาดกองทัพ

นายสุทิน ยังกล่าวถึงเรื่องการทำงานกับกองทัพว่าไม่อยากให้ใช้คำว่า มาคุมกองทัพ เพราะไม่ใช่การมาคุม แต่ยอมรับว่าช่วงแรกหนักใจ แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นมาก เพราะการทำงานกับคนมีวินัย พูดง่าย และเท่าที่ได้พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดใหม่ๆ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่น

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า หลังจากพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพแล้ว จากนี้จะไปพบกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯและอดีตรัฐมนตรีกลาโหม และ พล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต และ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และจะพบนักวิชาการด้านความมั่นคง เพื่อรับฟังความคิดเห็นด้วย

ขณะที่ พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เชิญไปพูดคุย และขอให้มาช่วยงานเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยได้มอบหมายงานในบางส่วนซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว อาทิ การปรับวิธีการคัดเลือกทหารกองเกิน ,การปรับโครงสร้างกองทัพ



- นิด้าโพล ชี้ ปชช. อยากได้นโยบาย พักหนี้เกษตรกร มากที่สุด

เมื่อวานนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจ "นโยบายพรรคเพื่อไทย ทำได้หรือไม่?" พบว่านโยบายที่ประชาชนอยากได้มากที่สุด และเชื่อว่ารัฐบาลจะทำได้มากที่สุด คือ นโยบายพักหนี้เกษตร 3 ปี

ในการสำรวจความเห็น นิด้าโพลสอบถามความเห็นประชาชนใน 2 หัวข้อ คือ นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนอยากได้ และ นโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่จะสามารถทำได้สำเร็จ พบว่า

-นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนอยากได้มากที่สุด คือ พักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งต้น ทั้งดอกทันที คิดเป็นร้อยละ 87.25 และก็เป็นนโยบายที่ประชาชนมากที่สุด คือ ร้อยละ 68.32 เชื่อว่าจะสามารถทำได้

-นโยบายที่ประชาชนอยากได้รองมา คือ ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน มีประชาชนอยากได้ คือ ร้อยละ 86.18 แต่มีประชาชนเพียงร้อยละ 40.31 ที่เห็นว่ารัฐบาลจะทำได้สำเร็จ

-สำหรับนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจนโยบายหลักของรัฐบาล คือ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เป็นนโยบายที่ประชาชนรอยากได้เป็น อันดับ 3 ร้อยละ 83.36 และมีประชาชนเกินครึ่ง คือ ร้อยละ 53.82 เชื่อว่ารัฐบาลจะทำได้

-นโยบายที่ประชาชนอยากได้เป็นอับดับ 4 คือ เงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี 2570 และ อันดับ 5 คือ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ส่วนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ประชาชนอยากได้เป็นอันดับ 7, นโยบายรถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย มาเป็นอันดับ 9 และนโยบายแก้ไขกฎหมาย เพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นอันดับ 10



- วงเสวนา ฝากการบ้าน ครม.เศรษฐา1 ติงแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น

เมื่อวานสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดการเสวนา "การบ้าน ครม.เศรษฐา 1 แก้วิกฤตประเทศไทย" มีผู้ร่วมเวทีทั้งนักวิชาการ ผู้ประกอบการ และภาคประชาชน

ท่านแรก ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า สิ่งที่อยากเห็นในรัฐบาลเศรษฐา1 คือผลักดันให้ประชาชนมีส่วนร่วมและได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่การเติบโตกระจุกตัว เกิดทุนผูกขาด และไม่อยากเห็นการแจกเงินที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ไร้ความจำเป็น เป็นภาระทางการคลัง

และเตือนรัฐบาลใหม่ว่า ต้องถ่วงดุลระหว่างการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับความจำเป็น เช่น นโยบายเงินดิจิตอล 10,000 บาท ที่ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องดำเนินการในตอนนี้หรือไม่ มันอาจจะเหมาะสมในตอนหาเสียง แต่ไม่เหมาะสมในตอนนี้

ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ระบุว่า เศรษฐกิจไทย ได้รับความบอบช้ำต่อเนื่องหลายปี ดังนั้นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม นายธนิต แสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ยังมีความไม่ชัดเจนในหลายประเด็น เช่น บ้างเข้าใจว่ารัฐบาลจะให้ปีละ 1 หมื่นบาท และกังวลเรื่องการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 600 บาท และ เงินเดือนปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 25,000 บาท และยังพูดถึงเรื่องราคาน้ำมันดีเซลด้วยว่า ไม่ต้องลด แต่ขอให้ตรึงราคาไว้

ขณะที่นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย we fair เปรียบเทียบงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท รวม 5.6 แสนล้านบาท ว่าหากนำไปใช้ในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐจะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง ทั้งนี้งบประมาณสำหรับการจัดการสวัสดิการของประชาชนจำนวน 4.5 แสนล้านบาทไม่ควรถูกลดลงไป

และเสนอให้ปฏิรูประบบภาษี ที่สำคัญคือเก็บภาษีเจ้าสัว แต่ไม่ควรขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขณะที่ เพจพรรคเพื่อไทย โพสต์ชี้แจงประเด็นโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยระบุว่า กระแสข่าวแบ่งจ่ายเงินในนโยบาย Digital Wallet เป็นหลายงวด เป็นความเห็นส่วนตัวในเชิงวิชาการ พรรคเพื่อไทยยืนยัน 10,000 บาท "งวดเดียว" เพื่อสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นทั้งการบริโภค และการลงทุนทั่วประเทศ



- ก้าวไกล - ปชป.ลงพื้นที่หาเสียงโค้งสุดท้าย เลือกซ่อม สส.ระยอง

ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 3 จังหวัดระยอง แต่ละพรรค ยังคงลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างเข้มข้น ในสัปดาห์สุดท้าย ก่อนเลือกตั้งวันที่ 10 ก.ย.นี้

สำหรับพรรคก้าวไกลเจ้าของพื้นที่เดิม เมื่อวานนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยนายพิธาพร้อมด้วย โย-พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดชุมชนริมน้ำ วัดกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

พร้อมลงเรือไปตามคลองกระแสบน เพื่อดูระบบนิเวศน์ของตัวลั้ง สัตว์เลื้อยคลานกิ้งก่าสีเขียว ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อที่จะส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่กับการอนุรักษ์ เนื่องจากว่า ตัวลั้งถูกแรงงานต่าวด้าวจับกินเป็นอาหาร เกรงว่าจะสูญพันธุ์

ซึ่งช่วงที่นายพิธาเดินทางไปที่ตลาดชุมชนริมน้ำวัดกระแสบน ซึ่งก็มีประชาชน เดินทางมารอรับ และให้กำลังใจ ขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก โดยนายพิธาได้เดินทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง

และในเวลาบ่าย 3 โมงที่ผ่านมา นายพิธาพร้อมทีมงาน และผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ได้ขึ้นรถเปิดเวทีปราศรัย ที่บริเวณตลาดตึกขาว ตำบลกระแสบนม อำเภอแกลง

ส่วนทางพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคนำทีม ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณหมู่บ้านชาวประมง ท่าเรืออ่าวมะขามป้อม ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัครของพรรค

จากนั้น ได้มีการพบปะแกนนำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน อสม. บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชลล์ริมถนนสุขุมวิท ตำบลทางเกวียน อำเภอแกลง พร้อมกับการปราศัยย่อยซึ่งนายนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ได้กล่าวย้ำถึงผลงานที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำไว้ในช่วงที่เป็นรัฐบาล


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3kPbYRsu6Ls


คุณอาจสนใจ

Related News