คืนสู่อ้อมกอดครอบครัว 5 ชีวิตน้าหลาน เปิดใจ ไปกับ 'แบงค์' เพราะถูกล่อด้วยเงินสินสอด 5 ล้าน

กลับคืนสู่อ้อมกอดครอบครัวแล้ว 5 ชีวิตน้าหลานหายตัวนาน 2 เดือน เปิดใจที่ไปกับนายแบงค์ เพราะถูกล่อด้วยเงินสินสอด 5 ล้าน ตกกระไดพลอยโจร นายแบงค์พาเดินทางทั่วประเทศไร้จุดหมาย แถมเสียทรัพย์ไปหลายแสน เคยขอร้องให้ส่งกลับบ้าน แต่ถูกข่มขู่ อ้างรู้จักบิ๊กตำรวจระดับนายพล

หลังจากตำรวจชุดคลี่คลายคดี สามารถช่วยเหลือทั้ง 5 คนไว้ได้บริเวณวัดช่องลม จังหวัดนนทบุรี หลังจากนั้นก็ส่งทั้ง 5 ชีวิต เดินทางไปที่ สภ.ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้มีการแยกสอบปากคำ คือ 1.นางสาวอุษา 2.นางสาวบีม (ลูกสาวอุษา)และ 3.นางสาวรุ้ง เพื่อนสนิทของบีม

ส่วนเยาวชน 2 คน คือ ฟ้าใส และฟอร์ด ตำรวจแยกไปสอบปากคำร่วมกับ สหวิชาชีพ หลังสอบปากคำทั้ง 5 คน ทางญาติได้ข้อสรุปร่วมกันว่า จะไม่มีการถอนแจ้งความเกี่ยวกับหมายจับของนายแบงค์ เนื่องจาก ตามข้อมูลการสอบปากคำทั้ง 5 คน ให้การตรงกันว่าระหว่างที่เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่กับนายแบงค์ ทุกคนถูกนายแบงค์ ข่มขู่

แต่ในวันที่ตำรวจไปพบทั้ง 5 คน ที่ท่าน้ำวัดช่องลม จึงให้การกับบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ต่อหน้าสื่อไปว่า ไม่ได้ถูกอุ้ม แต่เป็นการพาครอบครัวไปเที่ยว เพราะยังกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวที่นครศรีธรรมราช แต่พอได้กลับมาเจอหน้าครอบครัวอย่างปลอดภัยตอนนี้ทุกคนกล้าพูดความจริงแล้ว

นางอุษา ชี้แจงว่า เหตุผลที่ยังกลับไม่ได้ เป็นเพราะว่า นายแบงค์ รับปากจะคืนเงินให้ทั้งหมด และจะให้เงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัว แต่ให้รอก่อน จึงเดินทางไปกับนายแบงค์ เรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมาย พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีกับ นายแบงค์ ให้ถึงที่สุด

ส่วน นางสาวบีม ลูกสาวของนางอุษา เปิดเผยว่า ส่วนตัวยอมรับว่ารู้จักกับนายแบงก์ ในสถานบันเทิง ซึ่งวันแรกที่เจอกัน นายแบงค์ เข้ามาในรูปแบบลูกค้าที่แสดงตัวเป็นป๋า ใช้เงินแจกทริปเด็ก ๆ ในร้าน และพยายามจะขอเลี้ยงดู ให้เงินเป็นรายเดือน พร้อมทั้งออกอุบาย ยื่นข้อเสนอว่าจะใช้หนี้กองทุน กยศ.ให้ กระทั่งตนเองตัดสินใจแลกเบอร์โทรกันเอาไว้

หลังจากติดต่อกันมากขึ้น นายแบงค์ ก็เริ่มขอเข้ามาคุยกับทางครอบครัวของตน และมีการไปมาหาสู่กันในลักษณะคบหากันเป็นแฟน กระทั่งนายแบงค์ เริ่มขอให้แม่ คือนางอุษา หาเงินมาร่วมลงทุนเปิดปั๊มน้ำมัน จากนั้นในวันที่ 22 เมษายน ก็ได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน แต่ไม่เคยรู้จุดหมายว่านายแบงค์ จะพาไปที่ไหนบ้าง ที่สำคัญตั้งแต่ออกจากบ้าน นายแบงค์ ไม่ให้ใครพกเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว

ซึ่งวันแรกที่ออกจากบ้าน จำได้ว่านายแบงค์ พามุ่งหน้าไปที่จังหวัดชลบุรี พอกลับจากชลบุรี ก็ได้พาเข้าไปในกรุงเทพฯ ไป ๆ มา ๆ กรุงเทพ - ชลบุรี ประมาณ 1 เดือนเต็ม โดยอ้างว่าพาไปพบกับคนทำธุรกิจร่วมกัน กระทั่งนายแบงค์ ก็เริ่มออกอุบาย ขอยืมโทรศัพท์ของแต่ละคน เพื่อนำไปขาย

ซึ่งยืนยันว่า ไม่เคยได้เที่ยวตามที่เป็นข่าว เนื่องจากนายแบงค์ ไม่ให้ใครลงจากรถ กระทั่งตนเองก็เริ่มเอะใจ จึงถามว่าจุดหมายปลายทางคือที่ไหน พาทุกคนมาทำอะไรกันแน่ แต่ปรากฎว่า ยิ่งพูดยิ่งถาม นายแบงค์ ก็ยิ่งโกรธ ด่าเสีย ๆ หาย ๆ ด้วยคำพูดหยาบคาย

นอกจากนี้ นายแบงค์ ยังเคยจิกหัวลากตนเข้าไปในห้องน้ำ ขู่เอาน้ำร้อนราด ถ้าหากไม่หยุดพูด แล้วก็สั่งให้อยู่เงียบ ๆ ไม่ต้องพูดไม่ต้องออกความเห็นอะไรทั้งนั้น เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ มีเพื่อนเป็นระดับเสธ. ระดับนายตำรวจยศใหญ่ ทุกตารางนิ้วในกรุงเทพฯ ตำรวจทุกโรงพักต้องฟังเขา จึงไม่มีใครกล้าที่จะหนี เพราะคิดว่ายังไงก็หนีไม่รอด

ส่วนเรื่องลุงนวพล คนขับรถ เชฟโรเลตสีดำ ยอมรับว่าตนเองเป็นคนโทรไปจ้างให้มารับที่ภาคเหนือ เนื่องจาก นายแบงค์ มีปัญหากับนายนพดล คนขับรถตู้

ซึ่งลุงนวพล เป็นคนที่นำข่าวมาให้ทุกคนดู หลังจากนายแบงค์ ขอลงจากรถ กระทั่งทุกคนถึงรู้ว่าถูกนายแบงค์หลอก และเหตุผลสำคัญ ที่ไม่ยอมให้ลุงนวพล พาไปส่งโรงพัก เป็นเพราะว่าทุกคนคิดว่านายแบงค์ รู้จักตำรวจในกรุงเทพฯ จึงให้ไปส่งที่ท่าน้ำวัดช่องลม ส่วนนางบรรจง มาในรูปแบบแสดงตัวเป็นญาติกับนายแบงค์ และทำหน้าที่เป็นคนเปิดห้องพักให้ในกรุงเทพฯเท่านั้น

บีม บอกว่า เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเป็นต้นเรื่องที่ทำให้ครอบครัวลำบากและทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องวุ่นวาย

ด้าน นางสาวรุ้ง เพื่อนบีม ยอมรับว่า เต็มใจไปกับเพื่อนเพราะเพื่อนชวนไปเที่ยว ส่วนเรื่องที่เคยทักไปยืมเงิน 30 บาทและโทรไปขอยืมเงิน 200 บาท เพื่อเอาไปเติมน้ำมัน นายแบงค์ เป็นคนสั่งให้ทำ โดยอ้างว่า ถ้าหาเงินไม่ได้ทุกคนจะไม่ได้กลับบ้าน

ยืนยันที่ไม่ได้ติดต่อกลับทางบ้าน เป็นเพราะว่าถูกนายแบงค์ บังคับไม่ให้บอกพิกัดกับใคร ซึ่งวันที่โทรศัพท์ไปหาป้า และบอกว่าวันที่ 10 จะกลับบ้านนั้น ได้ใช้โทรศัพท์ ที่แบงค์ ลืมเอาไว้ในห้อง และที่ไม่กล้าบอกกับป้าว่าอยู่ลำบาก เป็นเพราะว่านายแบงค์ เคยพูดเอาไว้ว่ามีเครื่องดักฟังสัญญาณโทรศัพท์

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/B2-9OMyutgI