ต่างประเทศ

ฝรั่งเศสส่งตำรวจ 4.5 หมื่นนาย คุมเหตุประท้วงเผาเมือง แต่ความรุนแรงยังเกิดขึ้นประปราย

โดย nattachat_c

3 ก.ค. 2566

275 views

สถานการณ์การจลาจลทั่วประเทศฝรั่งเศสได้เบาบางลง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น หรือวันอาทิตย์ ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสได้ส่งตำรวจมากถึง 45,000 นาย ไปควบคุมสถานการณ์ในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ


นอกจากนั้น ยังส่งหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ รถหุ้มเกราะ และเฮลิคอปเตอร์ เป็นกำลังเสริมใน 3 เมืองใหญ่ที่สุดคือ กรุงปารีส ลียง และมาร์กเซย์ หลังจากที่ เกิดการประท้วงรุนแรง 4 คืนติดกัน เนื่องจากเกิดความโกรธแค้นไม่พอใจ ที่เด็กวัยรุ่น 17 ปี เชื้อสายโมร็อกโค และอัลจีเรีย ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตคาด่านตรวจ ขณะที่เขาพยายามขับรถหนี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


ที่กรุงปารีส ตำรวจได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยบนถนน 'ฌองส์-เอลีเซ่' หลังจากมีการชักชวนผ่านทางโซเชียลมีเดีย ให้ประชาชนไปชุมนุม โดยตำรวจได้ตั้งจุดตรวจ ขณะที่ร้านค้าต้องหาไม้อัดมาตอกปิดกระจกหน้าร้าน เพื่อป้องกันความเสียหาย หรือการปล้น


ซึ่งสถานการณ์ถือว่าสงบกว่าเมื่อ 4 คืน ก่อนหน้า แม้มีความตึงเครียดบางจุดกลางกรุงปารีส และมีการปะทะประปรายในเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้แก่ มาร์กเซย์ นีซ และสตาร์สบูร์ก ทางตะวันออก โดยมีการจับกุม 427 ครั้ง ในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา


ที่ เมืองมาร์เซย์ ยังคงเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างตำรวจและผู้ก่อการจลาจลตลอดช่วงคืนวันเสาร์ เข้าสู่วันอาทิตย์ โดยตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม รวมถึงการปะทะกันที่เกิดขึ้นบนถนน ลา คาเนบิแยร์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักใจกลางเมืองมาร์กเซย์ สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ก่อการจลาจล และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นานกว่าหนึ่งชั่วโมง


ในกรุงปารีส ตำรวจจำนวนมากประจำการตามจุดต่างๆ บนถนน 'ฌองส์-เอลีเซ่' หลังจากมีการเรียกร้องทางสื่อสังคมออนไลน์ ให้ผู้ประท้วงออกไปรวมตัวกัน แต่ดูเหมือนว่าตำรวจจะกันผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ออกไปได้ และจับกุมผู้ประท้วงได้ 126 ราย ทางการกรุงปารีสสั่งหยุดการเดินรถประจำทางและรถรางทั้งหมด หลังเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นคืนที่สอง

ส่วนที่เมืองลีล ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส กองกำลังพิเศษของตำรวจ ได้ออกตรวจตราตามท้องถนน และมีการเผยแพร่ภาพของนักผจญเพลิงกำลังดับไฟในรถคันหนึ่ง ที่ถูกผู้ก่อการจลาจลจุดไฟเผา


ขณะที่เมืองลียง มีผู้ถูกจับกุม 21 คน และมีรายงานการปะทะกันประปรายที่เมืองนีซ ทางตอนใต้ และที่เมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับชายแดนเยอรมนี


สถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ประกาศเลื่อนการเดินทางเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ที่มีกำหนดเริ่มต้นในวันอาทิตย์  เพื่อจัดการกับวิกฤติเลวร้ายที่สุด


พิธีศพของ นาเฮล ซึ่งเขามีเชื้อสายโมร็อกโค และอัลจีเรีย วัย 17 ปี จัดขึ้นที่เมืองนองแตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากการประกอบพิธีที่มัสยิดในย่านชานเมืองกรุงปารีส ร่างของเขา ถูกนำไปยังสุสานในท้องถิ่น โดยผู้สนับสนุนครอบครัวของเหยื่อ บอกกับผู้สื่อข่าวให้งดการบันทึกภาพทั้งหมด


ทั้งนี้ นาเฮลถูกยิงในระยะเผาขน หลังจากไม่ยอมหยุดรถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และเสียชีวิตหลังจากหน่วยฉุกเฉินเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจากคลิปวิดีโอจะเห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย พยายามหยุดรถ และตำรวจนายหนึ่งจ่ออาวุธปืนไปที่คนขับ ด้านเจ้าหน้าที่ที่ได้ยิงปืน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยสมัครใจ และขอโทษต่อครอบครัว ด้านทนายความของเขาบอกว่าเขาเสียใจมาก


การเสียชีวิตของนาเฮล ได้จุดกระแสการถกเถียงเกี่ยวกับสถานะของตำรวจฝรั่งเศส ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติของตำรวจ


ด้าน สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบ ถือเป็นโอกาสสำหรับฝรั่งเศส ที่จะจัดการกับปัญหาเชิงลึกของการเหยียดเชื้อชาติ ในการบังคับใช้กฎหมาย


ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวประณามความรุนแรงอย่างหนักแน่น และกล่าวว่าการเสียชีวิตของนาเฮล ถูกใช้เพื่อสร้างความชอบธรรมต่อความรุนแรง โดยเรียกว่าเป็น "การแสวงประโยชน์จากการเสียชีวิตของเด็กหนุ่มที่ไม่อาจยอมรับได้"

-------------



คุณอาจสนใจ

Related News