เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 26 มิ.ย.66 พระราชทานเพลิงหลวงปู่แสง-กรณ์ลาออกชาติพัฒนากล้า-หมอมีน แพทย์จบใหม่รถชนดับ

-วงการแพทย์สูญเสีย เพื่อนฝูงทำใจไม่ทันหลัง "หมอมีน" แพทย์จบใหม่ 2566 เพิ่งเริ่มงานได้ 23 วัน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังออกเวร ด้านหมออินทพร พบจุดเกิดเหตุ มีอุบัติเหตุประจำขอท้องถิ่นเร่งแก้ก่อนแนะ แพทยสภาออกเป็นกม. จำกัดเวลาทำงาน ไม่เกินสัปดาห์ละ 40 ชม. ส่วนพ่อหมอมีน ยันไม่รู้ลูกเข้าเวรสี่กะ วอนจัดตารางเวรของแพทย์ให้เหมาะสม

ขณะที่ผู้กำกับ สภ.หนองปรือ เผย “หมอมีน” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เกิดจากความประมาท ขับรถลงเนินเสียหลักกินเลนเข้ามาทางขวา ทำให้เกิดเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งสวนทาง

-ผจก.ฟิล์มกรองแสง ขับรถตรงดิ่ง ระบายความในใจใส่กล้องวงจรปิด ก่อนชักปืนจ่อยิงหัวตัวเองเสียชีวิตหน้าร้าน ย่านบางขุนเทียน หลังร่วมทำงานกันมาหลายปี แต่กลับถูกนายจ้างกล่าวหาฉกเงินบริษัท มีนับล้านบาทกลายเป็นคดีความลักทรัพย์ ด้านแฟนสาวผู้ตาย โร่มาที่เกิดเหตุ ร่ำไห้วอนเข้าไปดูร่างแฟนหนุ่ม แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ขณะที่เจ้าของร้านติดต่อเข้าให้ปากคำแล้ว

-ตร.แสมดำ จับหนุ่มวัย 21 แจ้งความเท็จ อ้างถูกคนร้าย 6 คน ปล้นทรัพย์ ฉกมือถือพร้อมเงิน 4,500 โซซัดโซเซพบ อพปร.ให้ช่วยแจ้งตำรวจ สุดท้ายท่าทางมีพิรุธ ก่อนยอมรับ ไปกินร้านอาหารกับเพื่อน ไม่มีเงินจ่าย เอามือถือวางเป็นประกันกับร้าน ก่อนเดินมาตามถนนพบ อพปร.แต่งเรื่องถูกปล้น อ้างเมา-อยากให้ตำรวจพาส่งห้องพัก

-สุดสลด หลานชายวัย 14 ทาสยาเสพติด คลั่งกัญชาใช้มีดฟันปู่ไม่เลี้ยง ถูกบริเวณใบหน้า ศีรษะ สาหัสจมกองเลือด ก่อนหนีไปหลังบ้านผูกคอตายหนีความผิดคาต้นลำไย ด้านยายของผู้ก่อเหตุ ชี้หลานชายเป็นคนที่ดื้อ บอกอะไรไม่ค่อยเชื่อฟัง พบชอบมั่วสุมยาเสพติดที่โรงเรียนประจำหมู่บ้านมาหลายปี ก่อนคาดขอเงินปู่ไปซื้อยาเสพแต่ไม่ได้ จึงลงมือก่อเหตุสยอง

-ศิษยานุศิษย์นับหมื่นเดินทางมาที่วัดป่าดงสว่างธรรม จ.ยโสธร วางดอกไม้จันทน์ กราบสรีระสังขารหลวงปู่แสงครั้งสุดท้าย ขณะที่เหนือจิตกาธานเกิดอัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลด ก่อนพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร 5 นาที เกิดลมพัดแรงสร้างความร่มเย็นให้กับญาติธรรมนับหมื่นที่รอร่วมพิธี บรรเทาอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาทั้งวัน


เรื่องเล่าการเมือง

-ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจเมื่อวาน มีการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยครั้งแรก นายอนุทิน บอกตอนนี้พรรคท่อง 3 บทสวด คือ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" และพูดถึงการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่าถ้าเกิดจริง ก็ไม่รอด รอวันตาย

เมื่อวานเป็นการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค แถลงภายหลังการประชุม ว่า ครั้งนี้พรรคมี ส.ส.เขตใหม่ถึง 27 คน จึงต้องมาประชุมเพื่อละลายพฤติกรรม พูดคุยทำความเข้าใจถึงแนวการทำงานของพรรค เพื่อความเป็นเอกภาพ และเตรียมความพร้อมเข้าไปทำงานฐานะ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา โดยในวันนี้ั (วันจันทร์ 26 มิถุนายน) เวลา 10 โมง ได้นัดไปรายงานตัวที่สภาพร้อมกัน

สำหรับการขับเคลื่อนงานทางการเมืองของพรรคหลังจากนี้ นายอนุทิน ระบุว่า ได้ขอฉันทานุมัติจากที่ประชุมให้หัวหน้าและเลขาธิการพรรค ตัดสินใจในการดำเนินการใด ๆ

โดยนายอนุทิน ได้ยืนยันจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่า จะไม่ทำอะไรที่จะเป็นการบล็อค การดำเนินไปของการเมืองในช่วงเปลี่ยนรัฐบาล หรือ การขับเคลื่อนประเทศ

ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ นายอนุทิน ระบุว่า ขอรอดูแคนดิเดตก่อน และแม้การโหวตจะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ทางพรรคก็จะต้องหารือกันก่อน จะไม่ปล่อยให้ฟรีโหวตโดยไม่ได้พูดคุยกัน

ส่วนกระแสข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคภูมิใจไทย / พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ยืนยันว่าเป็นสูตรของผู้สื่อข่าวไม่ใช่สูตรของพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้พรรคท่อง 3 บทสวด คือ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" ซึ่งไม่ใช่รอส้มหล่น แต่อาจหมายถึงรอเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

ทั้งนี้นายอนุทิน ยังได้ย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องมาตรา 112 ตามที่เคยออกแถลงการณ์ด้วย

นอกจากนี้นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.พร้อมสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลเดิม ที่มีเสียงรวมกัน 188 เสียง ซึ่งหมายถึงการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ว่า การจะเป็นรัฐบาลต้องเข้มแข็ง ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ไม่รอด รอวันตาย เมื่อถามถึง "งูเห่า" นายอนุทิน บอก หมดแล้ว ไม่มีแล้ว ถ้าทำการเมืองแบบเก่า คงลำบาก



-ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภา ทางเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยัน ไม่มีเล่นนอกเกม มั่นใจการหารือกับพรรคก้าวไกล ในวันพุธนี้ (28 มิถุนายน) นี้จะได้ข้อยุติ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีเล่นนอกเกมอย่างแน่นอน หลังมีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างชัดเจนตรงไปตรงมา

โดยวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพื่อไทยจะหารือเป็นการภายในเพื่อให้ได้ข้อสรุป แล้วนำไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งนายประเสริฐ มั่นใจว่า จะได้ข้อยุติ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จากนั้นวันที่ 29 มิถุนายน จะมีการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง และความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงจะรับทราบความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการชุดเปลี่ยนผ่านทั้ง 14 คณะด้วย



-ส่วนบรรยากาศการเข้ารายงานตัวของ ส.ส.เมื่อวาน มีมารายงานเพิ่มเพียงคนเดียว คือนายธนพัฒน์ ศรีชนะ ส.ส.ยโสธร เขต 3 พรรคภูมิใจไทย วันนี้มาคนเดียว ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยนัดเข้ารายงานตัวในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ 26 มิถุนายน)

ซึ่งจนถึงล่าสุดมี ส.ส.มารายงานตัวแล้วทั้งหมด 271 คน เหลืออีก 229 คน ที่ยังไม่มารายงานตัว ซึ่งกลุ่มใหญ่นอกจากพรรคภูมิใจไทยที่จะมารายงานตัววันนี้ คือ กลุ่ม ส.ส.พรรคก้าวไกล 151 คน ที่จะรายงานตัววันพรุ่งนี้ (อังคาร 27 มิ.ย.)


-ส่วนนายกรัฐมนตรี เมื่อวานมีภารกิจเข้าเฝ้าเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช หลังเสร็จภารกิจผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ประเด็นการเมือง แต่ท่านไม่ได้ตอบ

เมื่อวาน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานเนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

ภายหลังเสร็จพิธีเวลา 18.00 น. ได้มีแฟนคลับ 3 คน พร้อมเด็กอีกคน มารอถ่ายรูปกับพลเอกประยุทธ์ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็ถ่ายภาพด้วย ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามพลเอกประยุทธ์ ว่า ใกล้เปิดสภาเข้ามาแล้ว ยังเป็นห่วงอะไรหรือไม่ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้หันมามองหน้าผู้สื่อข่าว แต่ไม่ตอบคำถาม และขึ้นรถเดินทางกลับทันที โดยผู้สื่อข่าวสังเกตสีหน้าของนายกรัฐมนตรี พบว่าท่านมีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึม


-นายกรณ์ จาติกวณิช ถึงจุดเปลี่ยนทางการเมืองอีกครั้ง โดยเมื่อวานได้แจ้งว่าลาออกจากหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าแล้ว

นายกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้าพบ และยื่นจดหมายถึงนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อขอบคุณในความไว้วางใจ พร้อมกับแจ้งลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุนแนวคิดทางการเมืองของพวกเรา ตนจะสนับสนุนนโยบายทั้งหมดที่เราได้นำเสนอในสถานะประชาชนคนหนึ่งต่อไป

ตลอดช่วง 18 ปีที่ผ่านมา ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชนและประเทศที่รัก ในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งที่มาจากการเลือกตั้ง ขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยตนทำภารกิจนี้มาตั้งแต่ปี 48

นายกรณ์ ยังระบุว่า บ้านเมืองเรายังมีปัญหาอีกมากมายรอการแก้ไข ตนขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนนักการเมืองจากทุกพรรค และขอให้กำลังใจเป็นพิเศษแก่นักการเมืองที่กำลังจะเริ่มทำงานในสภาเป็นครั้งแรก อย่าให้ความต้องการเอาชนะครอบงำจิตใจ และการแสดงออกของท่านจนเกินไป ทำงานด้วยการสร้างพลังบวกร่วมกันในสังคมให้ได้ ตนจะคอยเป็นกำลังใจ

ทั้งนี้ การลาออกของนายกรณ์ เป็นเพียงการลาออกจากหัวหน้าพรรคเท่านั้น ตอนนี้ยังคงเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้าอยู่

แหล่งข่าวจากในพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุว่า เหตุผลการลาออกของนายกรณ์ มาจากผลการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่หวังว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง แต่ได้มาเพียง 2 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าพลาดเป้าไปมาก การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายกรณ์ จึงว่าเป็นการแสดงสปิริต

และคาดว่าสัปดาห์หน้าทางพรรค จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ รวมถึงอาจพิจารณาเปลี่ยนชื่อพรรคกลับมาเป็น พรรคชาติพัฒนาเหมือนเดิม

ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่า หากมีการเปลี่ยนชื่อพรรคกลับไปเป็นพรรคชาติพัฒนา ก็น่าจะหมายถึงนายกรณ์ แยกตัว ลาออกจากพรรค

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CYknuBxGQa4