อาชญากรรม
‘ชูวิทย์’ เป่านกหวีดถือใบแดงไล่ ผบช.น. ซัดหลักฐานชัด ฟอกเงินผับจินหลิงโยงตู้ห่าว แต่ไม่ดำเนินคดี
โดย petchpawee_k
23 ธ.ค. 2565
265 views
ชูวิทย์ เป่านกหวีด ชูใบแดงไล่บิ๊กจ้าว ออกจากตำแหน่ง ผบช.น. แฉมีพฤติกรรมช่วยเหลือคดีตู้ห่าว จี้ ผบ.ตร. เปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพราะคดีไร้ความคืบหน้า แถมไม่ยอมแจ้งข้อหาฟอกเงิน หลังมีพนักงานสอบสวนคดีผับจินหลิง ส่งหลักฐานเด็ด มัดตัวบิ๊กตำรวจอำพรางคดี พร้อมท้า ผบช.น. เข้าเครื่องจับเท็จ ถ้าไม่ยอมให้ลาออกไป
วานนี้ (วันที่ 22 ธ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมเดวิส เกี่ยวกับการทำคดีตู้ห่าวของ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยระบุว่า จะต้องเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะการทำงานในคดีผับจินหลิง มีพิรุธ จึงต้องไล่ออกเท่านั้น
โดยนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ตอนสามทุ่มเมื่อคืนนี้ ได้มีคณะพนักงานสอบสวนคดีผับจินหลิงคนหนึ่ง ส่งข้อมูลสำคัญให้กับตน ซึ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพยายามจะอำพรางคดีนี้ ในการไม่แจ้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ทั้งที่มีหลักฐานที่ชัดเจนชิ้นนี้
นายชูวิทย์ ได้เปิดคลิปที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่มีช่วงหนึ่ง พันตำรวจเอกสมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. (ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนสามกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล) ได้นำม้วนกระดาษม้วนหนึ่งที่เป็นหลักฐานในคดีมามอบให้ ซึ่งนายชูวิทย์ได้บอกว่า ม้วนกระดาษดังกล่าว คือ เส้นทางการเงินของผับจินหลิง พร้อมเปิดเผยให้สื่อมวลชนดู
โดยจากเอกสาร ชี้ให้เห็นว่า บัญชีคิวอาร์โค้ดของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบุคคล 2 คน คือ นายฟูจิ และนายหยางเฉิน ซึ่งทั้ง 2 คน มีการโอนเงินจากการค้ายาเสพติดกันไปมา และโอนเข้าออกบัญชีคิวอาร์โค้ดผับจินหลิง / จากนั้น นายหยางเฉิน ได้มีการโอนเงินต่อให้ นายเซนดิ / แล้วนายเซนดิ ได้โอนต่อให้บัญชีม้า ที่ชื่อนายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง / และเงินจากบัญชีม้านี้ ก็ได้โอนต่อไปยังบริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีชื่อนายตู้ห่าวถือหุ้นอยู่ 51%
ทั้งนี้ ปัจจุบันนายฟูจิ และนายเซนดิ ถูกจับกุมอยู่ที่ ตม. แต่นายหยางเฉิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ ได้หลบหนีไปได้ ทำให้เห็นชัดเจนว่า เส้นทางการเงินของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบริษัทของนายตู้ห่าวที่เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย เป็นการทำเงินจากยาเสพติดให้กลายเป็นเงินขาวสะอาด เข้าข่ายการฟอกเงินอย
และเอกสารนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ได้ให้พันตำรวจเอกสมบูรณ์ทำมาตั้งแต่แรกที่มีการเข้าตรวจค้นผับจินหลิง แล้วเหตุใดจึงไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งที่หลักฐานชิ้นนี้ก็เพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอ ปปง. พร้อมตั้งคำถามว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้มีการนำตัวนายสิทธิพงษ์ ซึ่งเป็นบัญชีม้ามาสอบปากคำแล้วหรือไม่
นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า การที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน ก็เป็นเพราะมีหลักฐานชิ้นนี้ซึ่งสามารถเอาผิดนายตู้ผ่าวได้อย่างแน่นอน จึงไปดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดแทน เพราะพยานหลักฐานอ่อน เนื่องจากมีการทำลายพยานหลักฐานไปหมดแล้ว และยังบอกด้วยว่า การทำงานของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นการทำงานแบบ one man show for ตู้ห่าว ไม่ใช่ for ประเทศชาติ เพราะเก็บข้อมูลเด็ดไว้กับตัวเองเพื่อช่วยเหลือนายตู้ห่าว
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้ท้าให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าเครื่องจับเท็จ หากไม่ยอม ก็ต้องออกไป และเปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวน และยังท้าให้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไปจุดธูป 3 ดอก สาบานที่สนามหลวงพร้อมตนว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง
โดยช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ยังได้เป่านกหวีด และถือใบแดง พร้อมพูดว่า ไอ้จ้าวออกไป
ส่วนในวันนี้ (23 ธ.ค.) ตนจะนำหลักฐานทั้งหมดที่มีไปให้ถ้อยคำกับอัยการที่สำนักงานอัยการตลิ่งชัน เนื่องจากคณะทำงานของอัยการสูงสุด ได้เรียกตนเข้าไปข้อมูลด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7ywz480qoZU