ต่างประเทศ

อุทาหรณ์! สาวมะกัน จัดกระดูกคอ เกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง กลายเป็นอัมพาต

โดย nattachat_c

19 ส.ค. 2565

826 views

เรื่องอาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดบ่าไหล่ หรืออะไรอื่นๆ สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน ที่มักจะเป็น ‘ออฟฟิศซินโดรม’ กัน จนต้องไปหาหมอ ซื้อยามากิน มาทา บ้างก็ไปทางแพทย์แผนจีน ฝังเข็ม ครอบแก้ว บ้างก็ชอบนวดไทย

และที่ล่าสุด เป็นกระแสยอดฮิต นั่นคือ ‘การจัดกระดูก’ หรือ ไคโรแพรกติก (Chiropractic) ที่เรามักจะเห็นยูทูบเบอร์ทำคอนเทนต์ ไปจัดกระดูก เสียงดังลั่นกร๊อบแกร๊บๆ

แต่…ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เมื่อมันมีข้อดี มันก็มีข้อเสีย ครั้งนี้เราเลยจะเล่าเรื่องของสาวอเมริกันคนหนึ่ง ที่เธอไปจัดกระดูก ให้อ่านกัน



ในเช้าวันพฤหัสบดีอันแสนวุ่นวายในเดือนมิถุนายน คุณแม่ ‘ดาร์ลีน’ (Darlene Jensen) กำลังส่งข้อความหาลูกสาว ‘เคทลีน’ (Caitlin) วัย 28 ปี บัณฑิตวิทยาลัยคนล่าสุด ที่กำลังมุ่งหน้าไปจัดกระดูกคอ ตามทื่นักจัดกระดูกนัดหมาย (ซึ่งเธอเกือบจะยกเลิกไปแล้ว)


เคทลีน อ่านข้อความสุดท้ายของแม่ตอน 9.00 น. ซึ่งใน 21 นาทีต่อมา ดาร์ลีนได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ลูกสาวของเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการรักษา

ซึ่งทำให้ เคทลีน ไม่สามารถตอบสนองต่อข้อความของแม่ได้ตั้งแต่นั้นมา รวมถึงเดิน พูดคุย กิน หรือหายใจด้วยตัวเองอย่างเหมาะสม

เรื่องน่าเศร้านี้มันเกิดยากมากๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริงมากๆ เช่นกัน การจัดกระดูกคอของ เคทลีน ส่งผลให้หลอดเลือดแดงตรงกระดูกสันหลังฉีก เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังสมองไม่ได้ ร่างกายเธอทรุดลงอย่างรวดเร็ว และต้องเผชิญกับการฟื้นตัวที่แสนยาวนานและสุดลำบาก



ดาร์ลีน วัย 49 ปี ผู้จัดการหน้าร้านของอู่ซ่อมรถ นอกเมืองสะวันนาห์ รัฐจอร์เจีย บอกกับ The Independent ว่า “ฉันแค่คิดว่า เคทลีนอาจจะมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน หรืออะไรบางอย่าง ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะเป็นปัญหาร้ายแรง ฉันก็เลยบอกกับคนอื่นๆ ว่า ฉันจะรีบวิ่งไปดูเธอ ฉันจะกลับมาในอีกสักครู่”

เมื่อ ดาร์ลีน มาถึงสถานพยาบาลจัดกระดูก เธอก็ตกใจ เมื่อรู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด เพราะลูกสาวของเธออยู่ในรถพยาบาลแล้ว

ดาร์ลีน บอกว่า “เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ เคทลีนพูดไม่เป็นคำ เหงื่อออกเยอะมาก มีอาการคลื่นไส้ และกำลังอาเจียน ซึ่งตอนนั้นฉันไม่รู้ว่า เธอเป็นโรคหลอดเลือดสมอง เพราะฉันไม่เคยเห็นใครเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ฉันไม่ทราบอาการแสดงออกของโรคหลอดเลือดสมอง และฉันไม่เคยคาดคิดว่าหญิงสาวอายุ 28 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์จะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง”

เคทลีน ถูกพาตัวออกไป และในที่สุดก็ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เธอถูกย้ายไปที่หน่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่สมองในแอตแลนตา ซึ่งตอนนั้น ดาร์ลีนก็กำลังนอนหลับเฝ้าเคทลีน โดยหน่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่สมองนั้นอยู่ห่างจากบ้านของเธอมากกว่าสี่ชั่วโมง



สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันแตกต่างจากสิ่งที่ ดาร์ลีน คิดอย่างมาก เพราะเมื่อ เคทลีน ไปหานักจัดกระดูกเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เคทลีนเพิ่งจบการศึกษาจากจอร์เจีย เซาเทิร์น จบปริญญาด้านชีววิทยาและเคมี และกำลังสมัครงานในการวิจัยไมโครพลาสติกในน้ำเสียและสิ่งแวดล้อม

ดาร์ลีน บอกว่า “การศึกษาในระดับนั้น ทำให้ เคทลีน เริ่มคิดจะจัดกระดูก เพราะเธอนั่งเรียนอยู่ที่โต๊ะทำงานทุกวัน เธอเครียดมาก เพราะมันยากจริงๆ กรามของเธออัดกันแน่น และเราคิดว่า ... บางทีการไปหานักจัดกระดูกจะช่วยคลายทุกอย่างได้”

“เคทลีน เคยไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ครั้ง และการนัดหมายในเดือนมิถุนายน ถูกกำหนดโดยสถานพยาบาล หลังจากการไปจัดกระดูกครั้งก่อน การนัดหมายคือวันที่ 16 มิถุนายน และภายในหนึ่งชั่วโมง เคทลีนก็อยู่ในโรงพยาบาล  สองเดือนต่อมา การรักษาคืบหน้าไปบ้าง สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้ และสติปัญญาก็ปกติ”

ส่วนรูปแบบการสื่อสารหลักของเราในตอนนี้คือ การสื่อสารผ่านตัวอักษร เคทลีนสามารถพยักหน้าและยกนิ้วให้ สามารถพูดได้บ้าง ซึ่งบางครั้งฉันก็เข้าใจ บางครั้งก็ไม่เข้าใจ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะสื่อสารผ่านตัวอักษร

การปรากฏตัวของสุนัขช่วยเหลือทำให้ เคทลีนผู้รักสัตว์ตลอดชีวิต มีชีวิตที่สดใสอีกครั้ง

“แม้การที่สมองเสียหาย จะไม่ได้ทำบุคลิกภาพหรือนิสัยของเคทลีน แต่ในช่วงหลังๆ เคทลีน ค่อนข้างมีอารมณ์และอารมณ์เสีย ความเป็นจริงของทุกสิ่งกำลังกระทบเธออยู่ในขณะนี้ ดังนั้นเธอจึงมีสัปดาห์ที่ยากลำบาก และเต็มไปด้วยอารมณ์” ดาร์ลีนกล่าว

“การรักษาให้เป็นปกติแบบเต็มร้อย เป็นเรื่องยากอย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าการสนับสนุนจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม GoFundMe ได้ระดมเงินเกือบ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่น่ากังวลของเคทลีน และข้อความสนับสนุนก็เข้ามาในขณะที่เธอต่อสู้เพื่อกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม การ์ดและความปรารถนาดีที่เธอได้รับในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาได้ช่วยจิตวิญญาณของเธอแล้ว”




ดาร์ลีน บอกว่า “เครื่องช่วยหายใจถูกถอดออกแล้ว เคทลีนหายใจด้วยตัวเธอเอง แต่ยังคงหายใจทางท่อ แต่มันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ ที่เคทลีนสามารถหายใจแบบนั้นได้”

ดาร์ลีน พักอยู่บนเตียงพับในห้องของเคทลีน โดยเธอบอกว่า “ฉันทิ้งเคทลีนไปไม่ได้ เพราะเคทลีนยังมีสารคัดหลั่งจำนวนมาก และยังคงต้องดูดน้ำลายของตัวเองอยู่ เพราะกล้ามเนื้อต่างๆ ที่ทำหน้าที่เหล่านั้น ทำงานไม่ถูกต้อง”

“เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่งหรือน้ำลายอุดตันในท่อ ซึ่งสามารถปิดกั้นทางเดินหายใจของเคทลีนได้ ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นแล้ว 2 ครั้ง เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก และเรื่องนี้มันคือบลูโค้ด ที่จะส่งเสียงเตือน เมื่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือระบบทางเดินหายใจไม่ทำงานโดยไม่คาดคิด ซึ่งจำเป็นต้องช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

ดาร์ลีน บอกว่า “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย ว่าการจัดกระดูกคอจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ และนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันคิดว่าคนทั่วไปควรต้องรู้และระวัง ผู้คนจำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดกระดูกคอ”

ทั้งนี้ อ้างอิงจากบทความที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วใน Stroke: Vascular and Interventional Neurology การฉีกขาดหลอดเลือดแดงกระดูกสันหลัง “อาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บของความรุนแรงที่แตกต่างกัน - ตั้งแต่การเล่นกีฬา อุบัติเหตุทางรถยนต์ และการปรับคอของหมอนวดไปจนถึงการไอรุนแรง/จาม

“คาดว่า 1 ใน 20,000 การจัดการกระดูกสันหลังจะส่งผลให้เกิดโป่งพอง/ฉีกขาดของหลอดเลือดแดงกระดูกสันหลัง ในสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังหลายอย่างกำลังรายงานว่ามีการใช้ยาเสริมหรือยาทางเลือกมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดกระดูกด้วย” รายงานระบุ

“ฉันคิดว่าผู้คนควรหลีกเลี่ยงการจัดกระดูกคอ แต่หากพวกเขายืนกรานจริงๆ และคิดว่าพวกเขาต้องการจัดกระดูกคอ นักจัดกระดูกที่ดีก็ควรจะทำการเอ็กซ์เรย์ ควรทำ MRI ให้เสร็จ ควรมีการทดสอบอย่างละเอียด ก่อนที่พวกเขาจะแตะคอของใครด็ตาม”

ในตอนนี้ ดาร์ลีน กับ เคทลีน ยังคงต่อสู้กับโรคอัมพาต โดย ดาร์ลีน ได้บอกกับ เคทลีน ว่า “ลูกสามารถอารมณ์เสียได้ โกรธได้ กลัวได้ อยากเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องพยายามต่อไป และแม่เชื่อว่าเราจะสามารถทำมันได้สำเร็จ”

------------

จากบทความทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลเวชธานี

การนวดหรือจัดกระดูกต้นคอทำให้เกิดอัมพาตได้อย่างไร

โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากการที่เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดการอุดตัน ตีบ หรือแตก ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหต เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง แต่สำหรับการนวด หรือดัดกระดูกบริเวณคอนั้น มีโอกาสทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองบาดเจ็บ หรือฉีกขาดได้


เส้นเลือดที่มาเลี้ยงสมองของเรา จะแบ่งเป็น คู่หน้า และคู่หลัง ซึ่งคู่หน้าจะวิ่งผ่านด้านหน้าของกระดูกต้นคอ ส่วนคู่หลังจะวิ่งติดกับกระดูกต้นคอขึ้นไปทางด้านหลัง ดังนั้น เส้นเลือดคู่หลังนี้จึงมีการขยับไปด้วยเวลาหมุนคอ การนวดจัดกระดูกต้นคอที่ผิดท่า หรือการบิดเอียง สะบัดคอที่รุนแรง หรือแม้แต่การกดนวด บีบเค้น ก็ทำให้หลอดเลือดไปกระแทกกับกระดูก ทำให้หลอดเลือดสมองบาดเจ็บ หรือฉีกขาดได้ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ลดลง เกิดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมา


สาเหตุอื่น ๆ ที่คล้ายกับการบิด นวดต้นคอ ที่ทำให้หลอดเลือดได้รับบาดเจ็บได้เช่นกัน เช่นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีการแทกของกระดูกต้นคอ การเอียงคอในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ หรือการเหวี่ยงศีรษะอยากรุนแรง การเล่นเครื่องเล่นบางชนิด เช่น roller coaster




แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ