สังคม

สุดสลด! พ่อสะพายเป้พาลูกวัย 11 เดือน ขี่จยย. ถูกรถพุ่งชนดับ

โดย nutda_t

16 พ.ค. 2565

3.6K views

เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.ท.กรรณธวุฒิ แสนสุด พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุประจำ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณโค้งหน้าหมู่บ้านสุขเจริญ 2 ถนนคู่สร้าง-ประชาอุทิศ หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง



ที่เกิดบริเวณโค้งหน้าหมู่บ้านสุขเจริญ 2 เป็นถนน 2 เลนรถวิ่งสวนทางกัน กลางถนนพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าน รุ่น PCX สีน้ำเงิน ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บจำนวน 2 รายเป็นชาย 1 และเด็กชายวัย 11 เดือน แต่เด็กหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลและช่วยกันปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมี นายปฏิวัติ อายุ 27 ปี นั่งร่ำไห้กอดร่างเด็กชายวัย 11 เดือน



ห่างไปประมาณ 10 เมตร ใกล้ทางเท้า พบรถจักรยานยนต์คู่กรณี เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น CBR 150 CC. สีน้ำเงิน-ดำ ล้มคว่ำเกยกับขอบฟุตบาท โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทราบชื่อภายหลัง นายบุญถม อายุ 41 ปี



จากการสอบถาม นายปฏิวัติ ทราบว่าตนเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ก่อนเกิดเหตุตนได้นำลูกชายสะพายด้วยเป้สะพายไว้บริเวณหน้าอก พร้อมขี่รถจักรยานยนต์มาส่งน้องเพื่อเข้าศูนย์เนอสเซอรรี โดยอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ตนได้จอดรถกลางถนนเพื่อรอเลี้ยวเข้าซอย



จังหวะนั้นรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีวิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนที่จะแซงรถกระบะที่วิ่งนำหน้าแต่แซงไม่พ้น จึงชนเข้ากับหน้ารถตนเองอย่างจังจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง แล้วศีรษะน้องกระแทกกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างรีบวิ่งมาช่วยเหลือ พร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยแต่น้องทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา



ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนผู้บาดเจ็บที่เป็นคู่กรณีโรงพยาบาลและเชิญนายปฏิวัติ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถานบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ