'แพกซ์โลวิด' มาแล้ว! ล็อตแรก 1.5 ล้านเม็ด เน้นรักษาผู้ป่วยโควิด อาการเล็กน้อยถึงปานกลาง

เมื่อวานนี้ (11 เม.ย. 65) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีส่งมอบยาต้านไวรัสชนิด โควิด-19 แพกซ์โลวิด จำนวน 50,000 คอร์ส หรือประมาณ 1.5 ล้านเม็ด

ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขโดย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นางสาวเด็บบราห์ ไซเฟิร์ท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยองค์การเภสัชกรรมและคณะ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วม

นายอนุทิน ระบุว่า การรับยาวันนี้เป็นการเตรียมการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าทางกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหายารักษาโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ โดยเป็นไปตามที่นักวิชาการให้คำแนะนำและรัฐบาลก็ให้เงินสนับสนุนในการจัดซื้อในช่วงภาวะฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนกรณีความกังวลประชาชน ว่าการสั่งซื้อยาแพกซ์โลวิดน้อย อนุทิน ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ รักษาผู้ป่วยมากกว่า 2,000,000 คน แล้วอาการก็แตกต่างกันไป โดยมีอาการป่วยไม่รุนแรงส่วนใหญ่ ดังนั้น ในการรักษาจึงใช้ยาที่แตกต่างกันไปตามอาการ ไม่ต้องกังวลว่ายาจะมีน้อยเพราะการรักษาคนไข้แต่ละรายแพทย์จะพิจารณาให้ยาแตกต่างกันทั้งฟาวิพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด โมโนลนูพิราเวียร์ และเรมเดซิเวียร์

ซึ่งยาแพกซ์โลวิด จะไม่ได้สั่งซื้อในครั้งเดียวเพราะมีแผนในการจัดหาเพิ่ม หากมีความจำเป็นต้องใช้ยา อย่างไรก็ตามในช่วงสงกรานต์ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

นพ.เกียรติภูมิ ระบุว่า ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในผูป่วย 1,379 คน พบว่า ยาแพกซ์โลวิดช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ โดยกลุ่มที่ให้ยาแพกซ์โลวิด มีการนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกลุ่มที่ได้รับยาหลอก มีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 6.31 และมีผู้เสียชีวิต 13 คน

ถือว่ามีประสิทธิผลสูง ซึ่งยาแพกซ์โลวิด 50,000 คอร์สที่ส่งมอบครั้งนี้ จะนำไปใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล

นพ.สมศักด์ ระบุถึงการกระจายาแพกซ์โลวิด ขณะนี้ยาอยู่ในคลังขององค์การเภสัชกรรม โดยมีแผนกกระจายยาจะจัดส่งไปตามเขตสุขภาพทั้ง 13 เขต และให้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพ เป็นผู้ดูแลการกระจายยาตามที่สถานพยาบาลมีการร้องขอ โดยยากลุ่มนี้จะใช้รักษาผู้ป่วย กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้น หรือ มีโรคร่วม 1 โรคและเริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อย - ปานกลาง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

ทั้งนี้ ยาแพกซ์โลวิดเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (protease) ทำให้เชื้อไวรัสโควิดไม่สามารถสร้างโปรตีนที่จำเป็นต้องใช้ในการเพิ่มจำนวนได้ ยานี้ประกอบด้วย ยา Nirmatrelvir (150 มก.) จำนวน 2 เม็ด และยา Ritonavir (100 มก.) จำนวน 1 เม็ด รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน (ใช้ Nirmatrelvir 20 เม็ด และ Ritonavir 10 เม็ด/คน กลุ่มที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง คือ สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ผู้ที่การทำงานของตับหรือไตบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่

ด้าน แพทย์หญิงเปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์ปอด สถาบันโรคทรวงอก ระบุถึงเกณฑ์การให้ยาแพกซ์โลวิดว่า ตามข้อบ่งชี้การใช้ สามารถใช้ยาในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น ที่มีโรคร่วม และไม่ได้รับวัคซีน หรือ ได้รับวัคซีนแค่ 1 เข็ม เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับยาภายใน 3-5วัน ที่เริ่มมีอาการ

สำหรับข้อห้ามการใช้ยาแพกซ์โลวิด ห้ามใช้ร่สมกับยากลุ่มแอนตี้ไวรัส เพราะมีผลข้างเคียงเช่น ทำให้เกิดตับอับเสบได้

อย่างไรก็ตาม การเลือกให้ยาต้านไวรัส 4 ตัว ฟาวิพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด โมโนลนูพิราเวียร์ และเรมเดซิเวียร์ ต้องดูข้อบ่งชี้การใช้ในผู้ป่วยแต่ละราย จะได้รับยาต้านไวรัส 1ชนิด โดยเป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7PAGELnBqDI