สังคม

'ลุงนิด' งง 'ส.ส.เต้' แถไปเรื่อย ปมบอกไม่ใช่คนในคลิป เดินหน้าแจ้งความหมิ่นประมาท

โดย pattraporn_a

23 มี.ค. 2565

302 views

ตร.เชิญลุงนิด คนหาปลาเข้าให้ปากคำ ซึ่งลุงนิตฟ้องกลับคนกล่าวหา ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์แล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาท และจังหวะที่ลุงนิตเผชิญหน้ากับ ส.ส.เต้ ปฏิเสธไม่ใช่คนนี้


นายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิต คนพายเรือหาปลา ที่ปรากฎอยู่ในภาพกล้องวงจรปิด หลังนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำมาเปิดแถลงข่าวเมื่อวานนี้ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ในฐานะพยานแวดล้อมแล้ว นายมานิต ยืนยันว่าเจอแต่ขอนไม้ ไม่ได้เจอคน


หลังจากการให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเสร็จ ลุงนิต ก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว โดยเปิดเผยว่า ได้แจ้งความดำเนินคดี กับ ส.ส.คนดัง ในข้อหา หมิ่นประมาทแล้ว เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับตนเอง และครอบครัว โดนคนรอบข้างมองไม่ดี และบอกว่าเป็นคนใจดำ ส่วนคนในครอบครัวก็รู้สึกเครียด และไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้


ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวอยู่นั้น ส.ส.เต้ ที่เพิ่งเสร็จจากให้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ก็เดินออกจากห้อง มาเผชิญหน้ากับ ลุงนิดพอดีทีมข่าวเลยถามลุงนิดว่ามีอะไรอยากสอบถาม ส.ส.เต้หรือไม่ และ ส.ส.เต้ จะคุยกับลุงนิดหรือไม่ ส.ส.เต้ ตอบว่า เดี๋ยวพี่รีบไปดูชุดประดาน้ำ ก่อนจะหันมาคุยกับผู้สื่อข่าวและทีมงานว่า "คนนี้ไม่ใช่ไม่ใช่หรอ คนที่เห็นคือคนตกปลา ไม่ใช่คนพายเรือ ต้องไปดูคลิปดีๆ


จากนั้น ส.ส.เต้ได้ลงไปแถลงกับสื่อมวลชน หลังเข้าให้ข้อมูลนานกว่า 3 ชั่วโมง เปิดเผยว่า ได้ให้ปากคำไปทั้งหมด 21-22 ประเด็น รวมทั้งได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวนว่า ยังต้องการข้อมูลในประเด็นไหนเพิ่มเติม ซึ่งตนเองจะช่วยหา ส่วนประเด็นเรื่องเรือลำที่2 และกระโปรงสีขาว ตนก็จะช่วยหาให้


ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้พบลุงคนพายเรือหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ เผยว่าได้พบแล้ว แต่รู้สึกว่า ไม่น่าจะใช่คนเดียวกันกับคนที่อยู่ในคลิป โดยดูจากอัตลักษณ์ภายนอก ตนมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน


ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาให้กับลุงนิต และดำเนินคดีกับ ส.ส.เต้ ซึ่งได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับลุงนิต และได้รับการประสานให้มาช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะสังคมลงความเห็นว่าลุงนิตเป็นคนไม่ดี และจะมีการรวบรวมหลักฐานร่างหนังสือ เพื่อยื่นฟ้อง ป.ป.ช. เพื่อให้สอบจริยธรรมต่อในสัปดาห์หน้า


ส่วนที่ นายนายมงคลกิตติ์ ระบุว่าไม่ขอเจอตนนั้น วันนี้ตนจะมาแจ้งความอยู่แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของนายมงคลกิตติ์ มีการนำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ และหากสอบสวนแล้วพบว่าผิดก็ให้ดำเนินคดี เพราะทำประชาชนสับสน ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ดังนั้นการจะพูดอะไรต้อง หลักฐานควรได้รับการพิสูจน์ก่อน


ซึ่งการกระทำของนายมงคลกิตติ์นั้น ต้องดูว่าผลประโยชน์ต่อใคร ตำรวจ หรือแตงโม หรือนายมงคลกิตติ์ เพราะการแถลงข่าวแต่ละครั้งก็ใส่เสื้อพรรค และตอนนี้ใกล้ยุบสภาฯ มองว่าเป็นผลทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้นประโยชน์อาจจะตกอยู่ที่นายมงคลกิตติ์


ขณะที่ก่อนหน้านี้ ส.ส.เต้ บอกให้ นายสิระ ว่าก่อนจะแจ้งความ ให้ไปจ่ายเงินที่ค้างชำระหลังจากพ้นสภาพการเป็น ส.ส. ก่อน นายสิระ ตอบกลับโดยระบุว่า หนังสือยังไม่ถึงตน ทและตนมีเงิน 5-6 ร้อยล้าน


ขณะที่ 5 คนบนเรือก็ใช้ชีวิตไม่ได้ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตรกร ทั้งที่ยังไม่ได้สรุปสำนวน ถ้าต้องการที่จะเป็นพลเมืองดี เมื่อมีหลักฐานก็ควรให้พนักงานสอบสวน แค่สิ่งที่ทำวันนี้สร้างความเสียหายให้หลายคน ดังนั้นตนจึงต้องดำเนินการแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบทุกคำพูดของนายมงคลกิตติ์ หากเรื่องไหนเท็จต้องดำเนินคดี เพื่อหลังจากนี้จะต้องมีการระมัดระวังในการพูด รวมถึงการเสนอพยานหลักฐาน เพื่อความเป็นธรรมของบุคคลที่ถูกกล่าวหา


ขณะที่เมื่อประมาณบ่าย 2 โมงครึ่งที่ผ่านมา ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ส.ส.เต้ ได้จุดธูปอธิษฐานขอเจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยเปิดทางในการค้นหาผ้าสีขาวของแตงโม หลังได้นัดหมายขออาสาสมัครกู้ภัยทางน้ำมาช่วยกันงม โดยให้เหตุผลว่า เพราะเป็นพยานหลักฐานที่อยู่ใกล้กับบาดแผลที่ขามากที่สุด หากหาพบจะนำส่งมอบให้พนักงานสอบสวนทันที เพราะตำรวจบอกว่าต้องการพยานหลักฐานชิ้นนี้เหมือนกันแต่ยังหาไม่พบ


ซึ่งขอบเขตการค้นหาจะอ้างอิงตามคลิปวงจรปิดที่ได้แถลงข่าวไปวานนี้ คือ ตั้งแต่แนวฝั่งขวามือของท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ข้ามไปจนถึงประตูกั้นน้ำฝั่งบางกรวย โดยยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการดำน้ำของนักประดาน้ำ และหากไม่พบในจุดนี้ อาจจะไปค้นหาที่สะพานพระราม 5 ด้วย ตามที่มีผู้ตั้งสมมติฐานไว้


โดยทีมงานที่ลงประดาน้ำวันนี้ คือ หน่วยงานอาสาสมัครทีมมังกร ชลบุรี 5 คน ที่ดำน้ำลึกได้ 40 เมตร ที่คุณบุ๋ม ปนัดดา ช่วยจัดหามาให้ และอาสาสมัครร่วมกตัญญู ซึ่ง นายชัยณัฐ วันเชียง ครูสอนดำน้ำทีมกู้ภัยมังกร ชลบุรี บอกว่า อุปสรรคของการดำค้นหาในแม่น้ำคือทัศนวิสัย ต้องใช้การคลำหาเพียงอย่างเดียว ต่างจากทะเลที่ยังมองเห็นและสามารถหลบสิ่งกีดขวางใต้น้ำได้ ส่วนการงมดำค้นหาในวันนี้ ทีมนักประดาน้ำจะดำลงไปได้ลึกที่สุดในระยะไม่เกิน 40 เมตร แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที และขยับจุดไปเรื่อยๆ


ขณะที่ ส.ส.เต้ยังบอกด้วยว่า นี่ไม่ใช่การแทรกแซงการทำงานของตำรวจ แต่มาช่วยหาหลักฐานในฐานะพลเมืองดี และวันนี้ได้ให้การในฐานะพยานของคดีนี้ไปแล้ว 21 ประเด็น คือ เรื่องคลิปวงจรปิดที่แถลงข่าวเมื่อวานนี้ ซึ่งเมื่อเช้านี้ยังได้ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณที่บริเวณท่าน้ำนี้ ให้ช่วยเปิดทางให้ค้นหาผ้ากระโปรงเจอด้วย


ส่วนกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ไปแจ้งความเอาผิด ส.ส.เต้ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี มองว่า ไม่สามารถแจ้งได้ เพราะนายสิระไม่ใช่ผู้เสียหาย และหลักฐานที่นำมาก็เป็นหลักฐานจริง จึงขอฝากบอกด้วยว่า ใครที่ไปแจ้งความให้ระวังว่าอาจจะโดนสวน อย่าหาเรื่องใส่ตัว มายุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง


และการลงไปงมค้นหาวันนี้ นาย ฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่ปรึกษากฎหมายของ ส.ส.เต้ และอดีตทนายความของคุณแม่ภนิดา ได้ร่วมลงเรือหางยาวสำรวจด้วย


แต่เมื่อประมาณ 4 โมงที่ผ่านมา ภารกิจนี้ก็ต้องยกเลิกกะทันหัน เนื่องจากมีฝนตก และกระแสน้ำแรง ทำให้ทีมประดาน้ำไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ ส.ส.เต้บอกว่า จะนัดหมายทีมประดาน้ำมาปฏิบัติภารกิจใหม่อีกครั้ง คาดว่าจะนัดหมายภายในสัปดาห์นี้ โดยต้องเลือกช่วงเวลาที่กระแสน้ำนิ่ง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเช้าหรือช่วงดึก หากเป็นช่วงสายถึงช่วงเย็นตอนนี้รู้แล้วว่าไม่สามารถทำงานได้เพราะกระแสน้ำแรง


นักประดาน้ำ บอกว่า ดำครั้งแรกที่บริเวณประตูกั้นน้ำฝั่งบางกรวย โดยลงไปที่ความลึก 14.5 เมตร แต่กระแสน้ำข้างใต้ค่อนข้างแรง เมื่อดำลงไปถึงพื้นแล้วจึงไม่สามารถทำงานได้ พอขยับไปดำอีกจุดหนึ่ง ที่ความลึก 14.5 เมตรเท่ากัน แต่ก็ประสบปัญหากระแสน้ำแรงเช่นเดิม และยังมีเศษไม้ ทำให้อันตรายต่อนักประดาน้ำเพราะอาจถูกทิ่มได้ จึงต้องยกเลิกภารกิจ



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/kOKdG4HN4WA 

คุณอาจสนใจ

Related News