เร่งล่า ‘กุมารดำ-กุมารขาว’ ทีมถล่มยิงรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ ถ้าสู้มีจับตาย

ตำรวจเร่งติดตามตัว 2 ผู้ต้องหายิงถล่มรถนายก อบต.บางสมบูรณ์ ฉายา กุมารดำ-กุมารขาว พบหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว

ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก เป็นเหตุให้ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นคนขับรถ และรองนายก อบต.บางสมบูรณ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน ส่วนนายก อบต.บางสมบูรณ์ และผู้ติดตาม ได้รับบาดเจ็บรอดตาย

โดยภาพจากกล้องขณะเกิดเหตุ ปรากฎภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้รถยนต์มิตซูบิชิ สีบรอน์เงิน-เทา ไม่ทราบทะเบียน ขับประกบรถของนายก อบต. ก่อนที่จะยิง

หลังเกิดเหตุทางครอบครัวของนายญาณกร ได้ไปร้องกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้เยียวยาผู้เสียชีวิต และขอความคุ้มครองพยาน เพราะหวั่นเกรงความปลอดภัย

ส่วนทางคดี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ประชุมเร่งติดตามคดี และสั่งเร่งล่ามือกราดยิง พร้อมกับเปิดเผยว่าชุดสืบสวนพบรถเก๋งต้องสงสัยกับอาวุธปืนแล้ว

และเมื่อวานนี้ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน, บูรพา 491 และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังหลายร้อยนายลงพื้นที่ปูพรมสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุและรวบรวมพยานหลักฐาน จนขออนุมัติศาลจังหวัดนครนายก ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือบิ๊ก ฉายา กุมารขาว อายุ 35 ปี, นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรืออ็อด ฉายา กุมารดำ และนายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ วัช อายุ 48 ปี

ก่อนที่ชุดปฏิบัติการหนุมาน และบูรพา 491 จะเปิดปฏิบัติการปูพรมลงพื้นที่ ตรวจค้นแหล่งกบดานและซุกซ่อนอาวุธ 3 แห่ง จุดแรกเป็นบ้านของนายบิ๊ก กุมารขาว พบเพียงภรรยาซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตรวจพบกล่องใส่ปืนพกแต่ไม่พบอาวุธปืน และตรวจยึดรถยนต์ฮอนด้า HRV ซึ่งเป็นรถที่ผู้ต้องหาขับไปเปลี่ยนก่อนไปก่อเหตุ

จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านอีกหลัง ที่ ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ ไม่พบตัวนายภริวัฒ หรือกุมารดำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากบุคคลในละแวกดังกล่าวพบว่าได้หลบหนีออกจากบ้านไปแล้ว

และจุดที่ 3 บ้านหลังหนึ่งใน ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก พบนายธวัชชัย จึงได้จับกุมตัว ก่อนนำตรวจค้นภายในบ้านพบ อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกซอง 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Colt ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จำนวน 4 นัด กระสุนปืนพกขนาด .38 จำนวน 20 นัด จีพีเอส ใช้สะกดรอยติดตามรถยนต์ 1 เครื่อง แผ่นป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 1 แผ่น อ้างว่าเก็บได้

โดยนายธวัชชัย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการสอบสวนให้การว่า วันเกิดเหตุตนเองกินหมูกระทะกับนายบิ๊ก กุมารขาว และเมื่อรู้ว่าข่าวนายก อบต.บางสมบูรณ์ ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ก็ได้ออกไปดูที่เกิดเหตุ และยอมรับว่าตนเองมีความสนิทสนมกับนายประสพโชค นายบิ๊ก และนายอ็อด และตนเองเป็นผู้สมัครนายก อบต.ศรีจุฬา รอบที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับเลือก

ขณะเดียวกันที่บ้านของนายธวัชชัย เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถโตโยต้า วีออส สีเทา มาตรวจสอบ โดยมีนายบี รับเป็นเจ้าของ เบื้องต้นตรวจพบรถมีร่องรอยคล้ายถูกเฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถฝั่งซ้าย และมีลักษณะของการทำสีทับแต่ไม่เรียบร้อยดี และยังพบว่าล้อรถ ด้านหลังของรถคันนี้ เป็นแม็กยี่ห้อมิตซูบิชิ ซึ่งตรงกับรถต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจได้พาตัวเจ้าของรถวีออสสีเทา มาสอบปากคำอีกรอบ เบื้องต้นพบพิรุธเรื่องทำสีรถ และฝาครอบล้อแท็ค จนเวลาประมาณ 21.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวพยานคนดังกล่าวออกไปข้างนอกคาดว่าน่าจะพาไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อที่จะเชื่อมโยงถึงตัวนายธวัชชัย หลังจากนั้นจึงพาพยานไปให้ข้อมูลต่อที่บริเวณชั้น 2 ของ สภ.ดงละคร และเวลาประมาณ 23.30 น. ตำรวจได้นำตัวนายธวัชชัย ออกจากห้องขังอีกอีกครั้งและพาเข้าห้องพนักงานสอบสวน

ล่าสุดเช้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่าตอนนี้ทางกำลังตำรวจชุดหนุมานกำลังปูพรหมเร่งติดตามตัวนายภูริวัฒหรืออ็อด (กุมารดำ) ที่ตอนนี้มีเบาะแสหลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ส่วนตำรวจชุดบูรพา 491 ซึ่งทำงานคู่ขนานกัน ลงพื้นที่ติดตามตัวนายรัฐพล หรือบิ๊ก (กุมารขาว) ที่ตอนนี้หลบหนีเข้าพื้นที่ไปยังจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวทั้ง 2 คนเร็วๆ นี้ แต่หากไม่เข้ามอบตัว หรือมีการต่อสู้ก็คงต้องใช้วิธีจับตาย ส่วนอดีตนายก อบต.บางสมบูรณ์ นายประสพโชค ก็ยังคงติดต่อไม่ได้

บรรยากาศที่ สภ.ดงละคร แม่ของนายธวัชชัยได้เดินทางมาเยี่ยมและพูดคุยกับนายธวัชชัย และบอกว่าพร้อมที่จะตั้งทนายเพื่อต่อสู้เพราะมั่นใจว่าลูกชายของตัวเองนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้

และเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ หลังอาการดีขึ้นได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ได้เดินทางมาร่วมงานศพของนายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก ที่ปกป้องคมกระสุนแทนตัวนายก โดยทันทีที่นายญาณกร มาถึงงาน ได้เข้าสวมกอดกับลูกชายของนายสมชาย จากนั้นได้ไปจุดธูปและกราบเคารพศพ และร่วมฟังพระสวดต่อไป