ตามจับได้แล้ว 16 เด็กอาชีวะ เปิดศึกยิงกันหน้าปั๊มย่านแสมดำ จ่อแจ้ง 5 ข้อหาหนัก

ความคืบหน้ากรณีนักเรียนอาชีวะ 2 โรงเรียน เปิดศึกยิงกันหน้าปั๊มน้ำมันย่านแสมดำ ตำรวจตามจับได้แล้ว 16 คน จ่อแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ด้านครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตบอกไม่ได้อยากให้เรียนอาชีวะ แต่ผู้ตายใจรักเก็บเงินส่งตัวเองเรียน

กรณีกลุ่มนักเรียนอาชีวะ 2 สถาบัน เปิดศึกทะเลาะวิวาทไล่ยิงกันกลางถนนหน้าปั๊มน้ำมัน ปากซอยสะแกงาม 14 จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นาย ภูมิเมต อินทนนต์ หรือ ไทเกอร์ อายุ 20 ปี นักเรียนชั้น ปวช. ของสถาบันเทคนิคสมุทรสาคร ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือนายคิม วิน อายุ 30 ปี พนักงานปั๊มสัญชาติเมียนมาที่ถูกลูกหลง และนายพัชรพล นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน

จากการสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักเรียนเทคโนโลยีสมุทรสาครรวมตัวกันเดินทางมาส่งรุ่นน้อง ที่อยู่ภายในซอยสะแกงาม 14 ก่อนจะกลับออกมา แล้วพบกลุ่มคู่อริที่มาจากโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน ที่อยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน แล้วมีปากเสียงกัน โดยนาย ภูมิเมต นักเรียนเทคโนโลยีสมุทรสาคร เป็นคนแรกที่เปิดฉากยิง กระสุนไปโดน นาย พัชรพล นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน จากนั้นเพื่อน นาย พัชรพล ก็ยิงสวนไป กระสุนโดน นาย ภูมิเมต เสียชีวิต ทำให้คนในกลุ่มของนาย ภูมิเมต หยิบปืนกระบอกที่นายภูมิเมตใช้ ยิงสวนแต่กระสุนพลาดเข้าไปในปั๊มน้ำมัน ทำให้โดนพนักงานปั๊มบาดเจ็บ

พลตำรวจตรี พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า ตำรวจ สน.แสมดำ จับนักเรียนอาชีวะเทคนิคสมุทรสาคร ได้แล้ว 9 คน และโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธนได้ 7 คน พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนลูกโม่ขนาด จุด22 ของเทคนิคสมุทรสาคร และปืนบีบีกันดัดแปลงของโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน เมื่อวานนี้ฝากขังไปแล้ว 4 คน เป็นนักเรียนเทคนิคสมุทรสาคร

ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ คาดว่าจะแจ้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่า มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้

สาเหตุที่ต้องแจ้งข้อหาทั้งหมด แม้จะไม่ใช่คนยิง เพราะเป็นคดีที่มีพฤติการณ์เดียวกัน กระทำความผิดต่อเนื่องกัน และมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กันทั้ง 2 ฝ่าย

ส่วนงานสวดพระอภิธรรมศพ นาย ภูมิเมต ถูกจัดขึ้นที่วัดท่าข้าม มีพวงหรีดจากเทคนิคสมุทรสาคร พระราม 2 ส่งมาร่วมไว้อาลัย ขณะที่อาของนาย ภูมิเมฆ เปิดเผยว่า พ่อแม่ของนายภูมิเมตแยกทางกัน อาจึงเป็นคนเลี้ยงนายภูมิเมตมาตั้งแต่เกิด ส่งเสียงค่าเล่าเรียนทุกอย่างจนจบชั้นมัธยม ซึ่งตัวหลานชายอยากเรียนสายอาชีพ เพื่อมาช่วยกิจการประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่บ้าน แม้อาจะไม่เห็นด้วย แต่หลานชายดิ้นรนทำงานพิเศษหาเงินค่าเทอมส่งตัวเองเรียน