โกสุมพิสัยอ่วมจมบาดาล ปลากระชังน็อคน้ำตายเกลื่อน โอด "ทำนาน้ำก็ท่วม เลี้ยงปลา ปลาก็ตาย"

วานนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนศรีสุข หมู่ 5 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ถูกน้ำจากแม่น้ำชี เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 203 หลังคาเรือน 709 คน โดยชุมชนแห่งนี้อยู่ติดกับแม่น้ำชี

ขณะนี้ชุมชนศรีสุข กลายเป็นหมู่บ้านติดเกาะต้องใช้เรือสัญจรเข้าออก ระดับน้ำสูง 1 พื้นที่ลุ่มต่ำสูง 2-3 เมตร ทุ่งนาน้ำท่วมขังราวกับทะเล ระดับน้ำไม่ลดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ อบต.หัวขวาง ตั้งเต็นท์กองอำนวยการ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บริเวณปากทางเข้าไปยังหมู่บ้านศรีสุข รถไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้

นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาประจำจุด เพื่อคอยช่วยเหลืออพยพคนและสิ่งของเมื่อชาวบ้านร้องขอ พร้อมทั้งจัดเรือนำอาหาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ เข้าไปส่งมอบให้ผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ชั้นสองของบ้านไม่ยอมอพยพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพราะเป็นห่วงบ้าน โดย อบต.หัวขวาง มีเรือ 2 ลำ คอยรับส่งชาวบ้านเข้าออก วันละ 5 รอบ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น

ผู้สื่อข่าวนั่งเรือเข้าไปสำรวจภายในชุมชนศรีสุข ชาวบ้านบอกว่า เมื่อสองวันก่อนในชุมชนยังไม่ถูกน้ำท่วม พออาศัยอยู่ได้ ถนนภายในหมู่บ้านเดินได้สบาย ๆ เพียงแค่ถนนที่จะเข้าไปภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมตัดขาย ทุ่งนาเต็มไปด้วยมวลน้ำต้องใช้เรือสัญจร กลายเป็นหมู่บ้านติดเกาะ เพราะน้ำท่วมล้อมรอบ

เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มทะลักเข้าท่วมในชุมชน ชาวบ้านจึงต้องเก็บของไว้ที่สูงเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ รถยนต์ไปไว้ในที่ปลอดภัย เฝ้าระวังระดับน้ำตลอดเวลา ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่อพยพเพราะคิดว่าน้ำคงท่วมไม่มาก พร้อมระบุว่าหากระดับน้ำในชุมชนเพิ่มสูง ก็จะเก็บข้าวของสัมภาระขึ้นไปอยู่ชั้นสองของบ้าน บางคนบอกไม่อยากย้ายออกไปอยู่ที่ไหน

ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของนางอิ่มจิตร์ ละมุนตรี อายุ 52 ปี ซึ่งได้นำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำไว้หน้าบ้าน บอกว่า ที่บ้านเปิดร้านขายของชำอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน สามีพิการนิ้วมือข้างซ้ายขาด 3 นิ้ว แม่วัย 77 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พิการขาซ้าย ตาข้างซ้ายมองไม่เห็น กลัวว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก นอนไม่หลับต้องคอยเฝ้าระวัง

โดยนางอิ่มจิตร์ ยกมือไหว้แทบร้องไห้อยากขอความช่วยเหลือเรื่องน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค ยาน้ำกัดเท้าฯลฯเพราะสิ่งของที่คนนำมาช่วยเหลือไม่พอกินพอใช้ กว่าน้ำจะลดคงเป็นเดือนจะให้อยู่กินอย่างไร น้ำดื่มอาหารที่มีคนนำมาให้ไม่ทั่วถึง บ้านของตนอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ได้รับแจกถุงยังชีพ 1 ถุง มีน้ำดื่ม 2 ขวด ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง มาม่า 4 ห่อ

หมู่บ้านถูกน้ำท่วมนานกว่า 1 สัปดาห์ ติดเกาะออกไปหาซื้ออะไรกินไม่ได้ ตนห่วงของในบ้าน หากอยู่ได้ก็จะอยู่ ให้ไปอยู่ศูนย์อพยพเกรงว่าจะลำบาก ถ้าน้ำเพิ่มสูงจะพาคุณแม่ ขึ้นไปอยู่บนชั้นสอง ดีใจที่ช่อง 3 มาทำข่าว จะสะท้อนปัญหาของชาวบ้าน ไม่เคยมีนักข่าวสำนักไหนมาทำข่าวในชุมชน

ชาวบ้านรายหนึ่ง นั่งเรือกู้ภัยกลับเข้าบ้าน บอกว่า ตนนำผักอีตู่ โหระพา ขึ้นฉ่าย ไปขายที่ตลาด ในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมไม่รู้จะนำไปขายให้ใคร น้ำท่วมมากกว่าทุกปี ตอนนี้ลำบากเรื่องการสัญจร ลูกจะไปโรงเรียนก็ลำบาก ก็ต้องลองเรือมารับถึงจะได้ออกไป จะทำอะไรไปที่ไหนก็ลำบาก ได้แต่นั่งรอนอนรอสิ่งของบริจาค ไม่อยากอพยพเพราะเป็นห่วงข้าวของในบ้าน หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจะได้ขนย้ายของไว้ที่สูง

นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เผยว่า แนวโน้มสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย ยังมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดการณ์ว่ามวลน้ำจากอำเภอโกสุมพิสัย จะไหลเข้าสู่อำเภอกันทรวิชัย ใน 1-2 วันนี้ จึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม การประมงริมน้ำชี ให้แจ้งเกษตรกรนำปลาที่เลี้ยงในกระชังขึ้นจากน้ำจำหน่ายก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียเพราะเกรงว่าจะมีมวลน้ำขนาดใหญ่มาอีกรอบ ส่วนการสัญจรได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหาเรือให้กับหมู่บ้านที่น้ำท่วมเพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมให้อำเภอจัดให้มีศูนย์พักพิงเพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึง

ด้านเจ้าของกระชังปลานิล ในพื้นที่ดังกล่าว ว่าจ้างคนงานและให้ญาติ ๆ มาช่วยกันตักปลานิล ที่น็อคน้ำตายขึ้นจากการกระชังทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ รวมถึงปลานิลที่ยังไม่น็อคตาย ตักใส่ตระกร้า บางเจ้าก็ตักใส่เรือทยอยขนมากองไว้บนฝั่งริมถนนจำนวนมาก และเริ่มส่งกลิ่นเหม็น

โดยปลาที่ยังไม่ตายจะมีชาวบ้านมารอซื้อไปทำปลาแดดเดียว ส่วนตัวที่ตายเจ้าของกระชังบางรายจะให้ญาติพี่น้องมาช่วยกันขอดเกล็ดปลาเอาไส้และขี้ปลาออก ล้างทำความสะอาดใส่เกลือ รำอ่อนและข้าวคั่ว ชั่งกิโลขายให้กับชาวบ้านที่มารอซื้อแย่งกันซื้อนำไปทำปลาร้าหรือปลาแดก ปลาที่น็อคน้ำตายแล้วจะไม่สามารถนำไปทำปลาแดดเดียวได้

นางอุดม ราชวังเมือง เจ้าของกระชังปลา เผยว่า ตนเลี้ยงปลากระชังกับพี่ชายรวม 40 บ่อ น้ำเยอะน้ำเสียปลานิลที่เลี้ยงไว้ในกระชังน็อคน้ำตายหมด ลำบากใจทำใจไม่ได้ ตนอาชีพประมงหวังได้ผลผลิต ลงทุนล้านกว่าบาท ชาวบ้านคนอื่นๆ ประมาณ 80 ราย ที่ประกอบอาชีพประมงเลี้ยงปลากระชังก็ประสบปัญหาเดียวกัน

ปลาในกระชังของตนตายหมดไม่เหลือซักตัว ได้แต่ทำใจ จึงตักปลาที่ตายออกจากกระชังใส่เกลือขายให้กับคนที่ต้องการซื้อไปทำปลาร้าปลาแดก กิโลกรัมละ 40-50 บาท ถ้ายังไม่ได้ใส่เกลือ ขอดเกล็ดออกขายกิโลกรัมละ 10 บาท ปลาที่ตายเหล่านี้นำไปทำปลาแดดเดียวไม่ได้เพราะเริ่มเน่าแล้ว รวมความเสียหายหลายแสนบาท

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_bI37nz1ML4