สังคม
พบคนไทยป่วย "โรคฉี่หนู" กว่า 600 ราย เตือนเลี่ยงลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า
โดย narisa_n
21 ก.ย. 2564
129 views
21 ก.ย. 64 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลกระทบทางสุขภาพที่มักเกิดตามมาหลังจากมีน้ำท่วมขัง ซึ่งประชาชนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู โดยเชื้อชนิดนี้เป็นเชื้อแบคทีเรีย จะออกมากับฉี่ของสัตว์ เช่น หนู หมู วัว ควาย สุนัข แพะ แกะ ปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ ลำคลอง ตามแอ่งน้ำขังเล็กๆ และพื้นดินโคลนที่ชื้นแฉะเชื้อจะมีปริมาณเข้มข้นมาก สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ทางบาดแผลหรือแค่รอยถลอก รอยขีดข่วน หรืออาจไชผ่านผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน และจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป พบมากที่สุดในช่วงฤดูฝนหรือเกิดพายุมรสุม
ผลจากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคฉี่หนู ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–12 กันยายน 2564 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วย 635 ราย เสียชีวิต 4 ราย โดยภาคที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด ได้แก่ ภาคใต้ พบ 4.43 ต่อประชากรแสนคน สูงกว่าภาคอื่นๆ ประมาณ 4 เท่าตัว ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ระนอง พัทลุง พังงา ยะลา และสงขลา ตามลำดับ พบได้ทุกวัย ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงาน และประกอบอาชีพเกษตรกรรม รับจ้าง
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อไปว่า อาการป่วยของโรคฉี่หนูระยะแรกจะคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไป แต่ประชาชนสามารถสังเกตได้ โดยหลังติดเชื้อประมาณ 2-10 วัน จะเริ่มมีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่หลัง น่องและโคนขา หนาวสั่น บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง หากมีอาการที่กล่าวมาและเกิดภายหลังเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน ขอให้นึกถึงโรคนี้ และรีบไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ประการสำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำหรือย่ำโคลนให้แพทย์ที่ตรวจรักษาทราบด้วย เพื่อวินิจฉัยและให้การรักษาได้อย่างรวดเร็ว อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะทำให้อาการรุนแรง เช่น ตับไตวาย มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ การเสียชีวิตจากโรคฉี่หนูที่ผ่านมาส่วนใหญ่เกิดมาจากพบแพทย์ช้า
ทางด้านแพทย์หญิงวรยา เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า โรคฉี่หนูสามารถป้องกันได้ ขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติ ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือเดินลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนที่เท้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรสวมรองเท้าบู๊ท หรือสวมถุงพลาสติกที่สะอาด หุ้มเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้สัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ และรีบชำระล้างร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ
2.หมั่นล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ
3.รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่และร้อน อาหารที่ค้างมื้อควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด และอุ่นให้เดือดหรือร้อนก่อนนำมารับประทานทุกครั้ง
4.ดูแลทำความสะอาดที่พัก บ้านเรือนและห้องครัวให้สะอาด หากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดควรสวมถุงมือยางและรองเท้าบู๊ทขณะเก็บกวาด ควรเก็บขยะ โดยเฉพาะเศษอาหาร ในถังที่มีฝาปิดมิดชิด หรือทิ้งในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารให้หนูเข้ามาในบ้าน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับคำปรึกษาที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
แท็กที่เกี่ยวข้อง โรคฉี่หนู ,โรคไข้ฉี่หนู