ต่างประเทศ

"ตาลีบัน" ประกาศนิรโทษกรรม เปิดทางผู้หญิงทำงานร่วมรัฐบาล

โดย pattraporn_a

17 ส.ค. 2564

135 views

หลังจากกลุ่มตาลีบัน บุกยึดเมืองหลวงและครองอำนาจ จนประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ต้องหนีออกนอกประเทศ ล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มตาลีบันได้ออกมาประกาศนิรโทษกรรม ให้กับชาวอัฟกานิสถานทั่วประเทศ และเรียกร้องให้ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถานทำงานร่วมกับรัฐบาล ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯส่งเครื่องบินทหาร กลับมาอพยพเจ้าหน้าที่ทางการทูตและพลเมืองของตัวเองอีกครั้ง หลังเคลียร์ผู้คนออกจากรันเวย์สนามบินได้


เครื่องบินทหารของสหรัฐฯ เร่งอพยพเจ้าหน้าที่การทูตพร้อมครอบครัว และพลเมืองของตัวเองออกจากกรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน หลังมีการสลายกลุ่มชาวอัฟกานิสถานจำนวนมาก ที่บุกเข้ามาภายในสนามบินฮามิด คาไซ เพื่อต้องการเดินทางหนีออกนอกประเทศจนทำให้เกิดเหตุโกลาหล และมีรายงานผู้เสียชีวิต 5 คน โดยมีรายงานว่าตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ จนถึงช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีเครื่องบินทหารเดินทางออกจากสนามบินดังกล่าวแล้ว อย่างน้อย 12 เที่ยว


และเมื่อวานนี้ ก็มีภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนทั่วโลก หลังมีผู้คนจำนวนมาก พากันวิ่งเกาะล้อเครื่องบินขณะแล่นบนรันเวย์ และในขณะที่เครื่องบินเทคออฟขึ้นไปบนฟ้า มีคนร่วงลงมากระแทกพื้นเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน นอกจากนี้ ยังมีภาพของชาวอัฟกานิสถานแออัดอยู่บนเครื่องบินขนส่ง C-17 ของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ออกมา โดยรายงานระบุว่า มีชาวอัฟกานิสถานอยู่บนเครื่องบินลำนี้ประมาณ 640 คน เพื่อเดินทางไปยังประเทศกาตาร์


ล่าสุด กลุ่มตาลีบันได้ออกมาประกาศนิรโทษกรรม ให้กับชาวอัฟกานิสถานทั่วประเทศ และเรียกร้องให้ผู้หญิงชาวอัฟกานิสถาน ทำงานร่วมกับรัฐบาล หลังจากที่ผู้หญิงทั่วประเทศเกรงว่า จะกดขี่ทางเพศเหมือนที่เคยเกิดขึ้นจากกลุ่มตาลีบันในอดีต นับเป็นความพยายามของกลุ่มตาลีบัน ที่ต้องการให้ประชาชนอยู่ในความสงบ หลังจากทั่วโลกได้เห็นภาพความโกลาหลในสนามบิน และท้องถนนในกรุงคาบูล


แม้ว่าหลายฝ่ายจะออกมาแสดงความไม่พอใจ กรณีที่สหรัฐฯถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน แต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาแถลงปกป้องการติดสินใจของตัวเอง โดยบอกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมกับเตือนกลุ่มตาลีบัน หากโจมตีปฏิบัติการของสหรัฐฯ จะต้องถูกตอบโต้อย่างฉับพลันและรุนแรง พร้อมกับตำหนิผู้นำอัฟกานิสถาน ที่ไม่เข้มแข็งในการต่อสู้ จึงทำให้ประเทศล่มสลาย


สำหรับกลุ่มตาลีบันนั้น ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1994 โดยนายโมฮัมเหม็ด โอมาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทหารมูจาฮีดีน ที่ต้องการให้ประเทศถูกปกครองตามหลักศาสนาอิสลาม ต่อมาในปี 1996 ตาลีบันยึดกรุงคาบูลได้สำเร็จ และเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "อิสลามิค เอมิเรตส์ อัฟกานิสถาน" มีการบังคับใช้กฎระเบียบตามหลักศาสนาอย่างเข้มงวด


ส่วนการที่สหรัฐฯ ส่งทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน และทำสงครามกันยาวนานถึง 20 ปี มีจุดเริ่มต้นหลังจากเหตุวินาศกรรมนายน์วันวัน (9/11) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นฝีมือของ นายโอซาม่า บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ หรือ อัลเคดา หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทางตาลีบันได้ให้บินลาเดนเข้าไปกบดานในอัฟกานิสถาน


หลังจากสหรัฐฯ ทราบเรื่องนี้ ได้ขอให้ตาลีบันส่งตัวบินลาเดนมาให้ แต่ก็ถูกปฏิเสธ จึงทำให้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐฯในขณะนั้น ตัดสินใจส่งทหารเข้าไปยังอัฟกานิสถาน และในที่สุดก็เอาชนะกลุ่มตาลีบันได้


โดยสหรัฐฯ ช่วยอัฟกานิสถานก่อตั้งประเทศขึ้นมาใหม่ มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนแรก ชื่อ ฮามิด คาร์ไซ  แม้กลุ่มตาลีบันพ่ายแพ้สงคราม แต่ระหว่างนั้นก็ยังคงพยายามสร้างสถานการณ์ โดยหวังจะกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง


เวลาผ่านไปจนกระทั่งปี 2020 ในสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มตาลีบัน จะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน แลกกับการที่ตาลีบันจะไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายใด ๆ เข้ามาอาศัยในอัฟกานิสถาน และต้องเจรจากับรัฐบาลอัฟกานิสถานอย่างสันติ


แต่แล้วสิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้น เพราะหลังจากที่สหรัฐฯและกองกำลังต่างชาติ เริ่มถอนกำลังออกจากประเทศตั้งแต่มิถุนายน กลุ่มตาลีบันก็เริ่มช่วงชิงโอกาสและยึดครองเมืองต่าง ๆ มีรายงานว่าหลายพื้นที่ ทหารอัฟกานิสถานไม่มีแม้แต่กระสุนที่จะใช้ต่อสู้กับกลุ่มตาลีบัน และบางพื้นที่ก็ตัดสินใจยอมแพ้เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือด จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม กลุ่มตาลีบันได้บุกเข้ามายังกรุงคาบูล และยึดครองประเทศได้สำเร็จ

คุณอาจสนใจ

Related News