ประเด็นข่าวรอบวัน 12 พ.ค.2564 - เตรียมฝากขัง 'เด่นภูมิ' ผู้ต้องหาลวงพริตตี้ไปขืนใจ / อิสราเอล-ฮามาส เดือด ยูเอ็นหวั่นสงครามเต็มรูปแบบ

- เตรียมฝากขัง 'เด่นภูมิ' ผู้ต้องหาคดีลวงพริตตี้ไปขืนใจ

ความคืบหน้าการจับกุมนายเด่นภูมิ ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง หลอกลวงพริตตี้กว่า 30 คน ไปล่วงละเมิดและบังคับให้เสพยา เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอใช้สิทธิ์ไม่ไปทำแผนจุดเกิดเหตุ พร้อมขอทนายความเพื่อสู้คดี

โดยในวันนี้พริตตี้ผู้เสียหาย 2 คน เข้าชี้ตัวผู้ต้องหาที่ สน.บางขุนเทียน โดยยืนยันว่ามีหลักฐานไปสู้ในชั้นศาล พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยวันพรุ่งนี้ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขังชั่วคราว ส่วนที่ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ ทั้ง สน.บวรมงคล และ สน.ประชาชื่น คาดว่าจะมีการขออายัดตัวอีกครั้ง หลังการส่งฝากขังต่อศาลแล้ว

- สกัดจับแรงงานเถื่อน 77 คน พร้อมผู้พาลักลอบชาวไทย

สภ.ทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จับกุมแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 77 คน และมีผู้นำพา จำนวน 1 คน ที่บริเวณบ้านห้วยอู่ล่อง ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ 4 คัน

ซึ่งจับกุมได้หลังจากตำรวจทองผาภูมิ ตชด.และทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า สนธิกำลังสกัดจับในเส้นทาง ส่งผลให้รถยนต์พลิกคว่ำ 1 คัน พบแรงงานข้ามชาติบาดเจ็บ 6 คน ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลทองผาภูมิ จากการสอบสวนพบว่า หลบหนีมาจากเมียนมา เดินเท้ามาขึ้นเรือที่บ้านขุนคลี่ อำเภอทองผาภูมิ และขึ้นรถยนต์ ก่อนเดินเท้าเลี่ยงด่านตรวจ โดยเสียค่าเดินทางคนละ 16,000 บาท

- ชายแดนแม่ฮ่องสอน ยันไม่มีกำลัง BGF เข้าพื้นที่ชายแดนสาละวิน

ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันกระแสข่าวมีกองกำลัง BGF เข้าพื้นที่สนับสนุนทหารเมียนมาชายแดน ริมสาละวิน เป็นข่าวลือ ทหารยืนยันควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่มีการสู้รบในฝั่งเมียนมา เป็นระยะเวลา 12 วันแล้ว ในขณะที่ผู้หนีภัยการสู้รบคงเหลือในไทย 38 คน สถานการณ์ทั่วไปปกติ แต่ยังไม่เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านแม่สามแลบ ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

- อิสราเอล VS ฮามาส เดือด ยูเอ็นหวั่นสงครามเต็มรูปแบบ

สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน โดยกองกำลังความมั่นคงอิสราเอล ยิงจรวดถล่มพื้นที่ฉนวนกาซา ทำให้อาคารหลายแห่งพังเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารสูง 13 ชั้น ที่ทางอิสราเอลระบุว่าเป็นสำนักงานของกลุ่มฮามาส ขณะที่ทางฝั่งฮามาส ก็ยิงตอบโต้กลับทันที

โดยยิงจรวดหลายร้อยลูกเข้าไปยังนครเทล อาวีฟ และเมืองอื่น ๆ แต่ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงสกัดเอาไว้ได้ การสู้รบในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2557 ทำให้ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลางของสหประชาชาติ ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง ก่อนที่สถานการณ์จะกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ