สังคม

ดราม่า 'อาลัวพระเครื่อง' เสียงแตก คนแห่สั่งออเดอร์ล้น 'พระมหาไพรวัลย์' แนะกินไม่ลงก็ซื้อไปบูชา

29 เม.ย. 2564

3.2K views

จากกรณีที่เป็นเรื่องฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังร้านขนมไทยแห่งหนึ่งใน อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ทำขนมอาลัวรูปพระเครื่องหลายรูปแบบหลากสีสัน ก่อนจะวางขายในโลกออนไลน์ ถือเป็นการสร้างความแปลกใหม่ในวงการขนมไทย จนทำให้ขายดี มีผู้ติดต่อมาสั่งซื้ออย่างล้นหลาม


โดยทางร้านโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมระบุว่า “อาลัวพระเครื่องนั้นเป็นของทางร้าน โดยขายกล่องละ 100 บาท จำนวน20 ชิ้นเป็นรสออริจินัลควันเทียน เป็นการผลิตตามออร์เดอร์ อาจทำให้ล่าช้า และอาจต้องรอขนมนานถึง 2 สัปดาห์ เพราะมีคนสนใจสั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก”


ทั้งนี้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมไอเดียในการผลิต บางคนเข้ามาแซวว่าปลุกเสกความอร่อยแล้วจากทางร้านบางคนถามว่าต้องสวดก่อนกินหรือไม่ แต่ก็มีบางส่วนมองว่าไม่เหมาะสมและไม่พอใจที่ทำขนมรูปทรงพระเครื่อง


นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และไม่สมควรทำขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่อง ขณะนี้ได้เตรียมทำหนังสือชี้แจงร้านขนมดังกล่าวว่าทำไม่ได้และไม่สมควรทำ เพราะรูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล เครื่องสักการะบูชาพระพุทธเจ้า และไม่รู้ว่าไปเอาไอเดียนี้มาได้อย่างไร


ขณะที่นางสุชาดา หิรัญภัทรานันท์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า กรณีนี้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงครามไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้หารือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม มีความเห็นตรงกันว่าการที่จะนำวัตถุมงคลที่เคารพของชาวพุทธศาสนิกชนไปทำเป็นรูปอาหารไม่น่าจะเหมาะสม


ทั้งนี้ในเรื่องการประกอบอาชีพเป็นเรื่องที่ควรให้การสนับสนุน แต่ไม่น่าจะทำเป็นรูปวัตถุมงคล แต่น่าจะทำเป็นเรื่องของอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ก็จะรุ่งเรืองได้เช่นกัน แต่พอเป็นวัตถุมงคลเป็นความรู้สึกทางจิตใจเอาของสูงที่เคารพบูชามาทำเป็นอาหาร หากวันไหนที่ขนมเสีย นำไปทิ้ง และมีภาพสุนัขหรือแมวมากัดกิน ก็จะทำให้ยิ่งไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้เป็นห่วงมาก ในวันนี้( 29 เม.ย.) ทั้ง 2 หน่วยงานจะลงไปให้คำแนะนำกับทางร้าน


ด้านพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง จ.นนทบุรี แสดงความคิดเห็นว่า “ใครรับไม่ได้ อาตมาเคารพสิทธิ์ในความเห็นนะ แต่สำหรับอาตมา อาตมาไม่เห็นว่าเป็นเรื่องลบหลู่อะไร เรามักรับกันไม่ค่อยได้หรอกกับเรื่องลักษณะนี้ แต่เรารับได้ถ้าพระเครื่องเหล่านี้จะถูกปั้มออกมาวางขายเป็นตระกร้า ๆ องค์ละ 5 บาท 10 บาท เรารับไม่ได้ที่พระเครื่องจะกลายเป็นขนม แต่เรารับได้ถ้าพระเครื่องจะกลายเป็นสินค้ามีราคา ซึ่งคนจะซื้อขายกันเหมือนเพชรพลอยในราคาหลายล้าน”


คนที่ซีเรียสเรื่องการปรามาสพระพุทธเจ้าในรูปแบบของขนม ช่วยซีเรียสเวลาคนเอาพระพุทธเจ้าไปทำเป็นของขลัง ไปทำเป็นเรื่องไสยศาสตร์อวดอ้างสรรพคุณ ไปทำเป็นของพาณิชย์ในการค้าขายและหลอกลวงคนด้วยนะ กินไม่ลงก็ซื้อไปเก็บไว้บูชาได้นะ อันนี้พูดจริง อย่างน้อยคนทำก็กล้าคิดกล้าทำ ในช่วงโควิดแบบนี้ ถือว่าเข้าใจหาวิธีในการเรียกลูกค้า


พร้อมระบุว่า “สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่าขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธไม่กล้าชี้ว่า ไอ้ไข่อยู่ในวัดและคนพากันไปจุดประทัดเซ่นไหว้เช่นนั้นไม่เหมาะสม สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่า ขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธไม่กล้าชี้ว่า พระพิฆเนศองค์ใหญ่กว่าหลังคาโบสถ์อยู่ในวัดไม่เหมาะสม สำนักงานพุทธกล้าชี้ว่าขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่สำนักงานพุทธไม่กล้าชี้ว่าการบูชาราหู บูชาพญานาค การทำพิธีดูดวงเจิมหน้าผากลงนะหน้าทอง ครอบครู ซึ่งทำกันอยู่ในวัดดัง ๆ หลายแห่งไม่เหมาะสม”


ด้านพระพยอมกัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องพระเครื่องที่บางคนนับถือเเล้วเอามาทำเป็นขนมกินเล่น เล่นอะไรเล่นได้ เเต่อย่านำของที่มีคนเชื่อถือนับถือมาทำเล่น เพราะอย่างอื่นก็มีทำเยอะเเยะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนองกันไป ถ้าเป็นการหากินธรรมดาคงไม่มีปัญหาอะไร เเต่ถ้าเป็นการหากรรมก็เป็นการผิดกฏหมายผิดศีลธรรม เวลาจะทำอะไรอย่าให้สะเทือนใจคนที่เขานับถือจะดีที่สุด เเละปลอดภัยที่สุด


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/o7X7KTjqGQw

คุณอาจสนใจ

Related News