สังคม

ดราม่ากู้ภัยกับทาสแมว จับแมวหลุดจากบ้านปล่อยป่าตาย จนท.ยันไม่มีเจตนาทำร้าย ล่าสุดโดนพักงาน

โดย

11 พ.ย. 2563

8.3K views

กรณีดราม่าของแมวเพศผู้ พันธุ์อเมริกันชอตแฮร์ ชื่อเจ้าสัว หายจากบ้านพักใน อ.บางปะอิน จ.อยุธยา แล้วตายในป่า โดยแมวได้หลุดออกจากบ้าน ขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความกลัว จึงโทรแจ้งกู้ภัยให้มาจับไปปล่อยป่า ก่อนเกิดเหตุสลดขึ้น กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มทาสแมว คนเลี้ยงสัตว์และกู้ภัย พุทธไธสวรรย์ บางปะอิน จ.อยุธยา ซึ่งเรื่องนี้แต่ละฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง ทั้งทางกู้ภัยและเจ้าของแมว

นายเมธาสิทธิ์ วันจา เจ้าหน้าที่กู้ภัยหน้าที่กู้ภัยพุทธไธสวรรย์ หน่วยบางปะอิน คนที่ไปจับแมวไปปล่อยและตายในเวลาต่อมา เปิดใจชี้แจงกับทีมข่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาจะทารุณกรรม หรือทำร้ายแมว และไม่ได้ต้องการให้แมวตาย

พร้อมเล่าว่า แมวตัวดังกล่าวหลุดจากบ้านเจ้าของๆ ไปอยู่บ้านเพื่อนบ้าน ห่างกันประมาณ 30 เมตร ตั้งแต่เวลา 7.40 นาที จากนั้นมีการโทรขอความช่วยเหลือให้ไปจับแมวจากบ้าน แมวมีท่าทางดุร้าย ขู่ ตลอด นอนขวางทางบันไดบ้านทำให้คนในบ้านไม่กล้าออกจากบ้านตั้งแต่เช้าจนบ่ายสาม ตนจึงไปช่วย พอไปถึงเจอแมวในสภาพตัวเปียก ตนมองครั้งแรก ไม่รู้ว่าเป็นแมวสายพันธุ์ แต่คิดว่าอาจจะเป็นแมวป่วย หรือแมวจรจัดที่เจ้าของนำมาทิ้ง ซึ่งชาวบ้านที่แจ้งบอกว่า แมวมีท่าทางดุ ขู่เป็นระยะ และยังกระโดดกระโจนเข้าใส่ประตูบ้าน ทุกคนกังวลจะเกิดความไม่ปลอดภัย

ตนจึงใช้ผ้าคลุมหัวแมวก่อนและจับใส่กระสอบซึ่งก่อนจะจับแบบนี้นั้น ชาวบ้านที่เดือดร้อนและใกล้เคียงสอบถามแล้วไม่พบว่าแมวตัวนี้มีเจ้าของ ตนจึงนำไปปล่อยป่าข้างทางห่างจากหมู่บ้าน 500 เมตร โดยตอนที่ปล่อย ก็เปิดปากกระสอบออก และคิดว่าแมวคงจำทางกลับบ้านได้ หากมีบ้านอยู่ก็คงกลับไปได้ ซึ่งไม่ได้ทุบตีหรือทารุณกรรมแมวใดๆ ทั้งสิ้น

จากนั้นตนก็มารู้ว่าแมวนี้มีเจ้าของ และเจอเจ้าของแมว พวกตนก็ช่วยออกตามหา ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงตอนกลางคืนก็เอา ไฟมาส่องเดินตามหาตามป่า แต่ก็พบเจอแมว จนกระทั่งเช้าวันจันทร์ มาพบว่าตายแล้ว สภาพเลอะโคลน นอนตายห่างจากจุดที่ปล่อยไม่ไกลมาก จากนั้นตนก็โดนถล่มด่าในโลกโซเชียล หลังจากเจ้าของนำเรื่องราวไปเขียน

ขอยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำร้ายหรือทุบตี ทารุณ ตนก็ทำตามหน้าที่ ซึ่งปกติ มีแต่เคยจับสัตว์มีพิษหากจับจากบ้านเรือนประชาชนก็จะนำไปปล่อยแหล่งธรรมชาติ ไม่เคยจับสัตว์เลี้ยง และพอจับได้มา แมวมีท่าทางดุร้ายและไม่มีปลอกคอแสดงว่ามีเจ้าของ ตนก็เลยนำมาปล่อย ตนมาทำงานอาสาไม่ได้มีการอบรมกรณีเจอสัตว์เลี้ยงแบบนี้ หากตนเอากลับมาเลี้ยงหรือเอามาไว้ที่ศูนย์ก็ไม่รู้จะเกิดอันตรายกับคนอื่นหรือไม่ ส่วนที่ไม่ได้โพสต์ภาพลงโซเชียลตามหานั้น ตนไม่ทันคิดเพราะเห็นว่าคนที่แจ้งเหตุ ส่งภาพถามหาในไลน์กลุ่มหมู่บ้านแล้ว ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงบ่าย 3

ตอนนี้ตนถูกโจมตีทั้งในโลกโซเชียล และโทรมาด่าทอ อยากขอความเห็นใจว่าถ้าหากเป็นตนจะทำอย่างไร อยากขอโทษกลุ่มทาสแมว ที่ทำให้ไม่พอใจ แต่หากจะดี กลุ่มทาสแมวหรือสัตว์เลี้ยงนำกรงมาบริจาคมูลนิธิก็จะเป็นการดี เพื่อที่หากมีเคสการจับสัตว์เลี้ยงหลุดมาแบบนี้จะได้มีที่อยู่และตามหาเจ้าของได้

ส่วนกรณีนี้หากเจ้าของดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนก็พร้อมให้การอธิบายทุกอย่าง และตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้คุยกับเจ้าของแมวโดยตรง

ด้านนายนิวัฒน์ พงษ์สุข หัวหน้าจุด มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดบางปะอิน กล่าวว่า เบื้องต้นให้อาสาสมัครที่ไปจับแมวพักงานไว้ก่อน พร้อมกับสอบสวนข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเจ้าของแมวและชาวบ้านที่ให้ไปจับแมว ขอให้ประชาชนเข้าใจอาสมัครมูลนิธิ ใครเดือดร้อนอะไร ขอความช่วยเหลือมาเราไปช่วยเหลือทุกครั้ง ฟังเหตุผล ฟังการอธิบายก่อนที่จะวิจารณ์ด้วยความรุนแรง โซเชียลด่ากันถึงพ่อแม่ครอบครัวอาสา ด่ากันถึงมูลนิธิ เจ้าหน้าที่อาสาคนที่ไปจับแมว เป็นอาสาที่ตั้งใจทำงาน ช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ช่วยคนเจ็บ ช่วยเหลือ การจับสัตว์เลื้อยคลานมาโดยตลอด

ในส่วนของนางศุภักษณา วาวิชนี หรือบีม เจ้าของแมวเจ้าสัว ยอมรับว่า ไม่ได้ใส่ปลอกคอให้แมว เพราะตนเลี้ยงในบ้าน เลี้ยงระบบปิด ดูแลอย่างดี มีห้องนอน ห้องน้ำ ของเล่น รักแบบลูก แต่วันเกิดเหตุตนไปเที่ยวต่างจังหวัด เตรียมน้ำ และอาหาร ให้พร้อม และเปิดหน้าต่างไว้ 

ซึ่งเจ้าสัวออกจากบ้านทางหน้าต่างนี้ โดยตนเปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นว่าหน้าต่างเปิดและไม่เห็นเจ้าสัวอีกเลย จึงรีบกลับมาบ้านเพื่อตามหา จนเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่ากู้ภัยจับไปแล้ว แมวหลุดมาที่บ้านเพื่อนบ้าน ตนโทรไปที่ศูนย์ก็ไม่มีใครรับใช้เวลาติดต่อค่อนข้างนาน

จนกระทั่งติดต่อกับกู้ภัยคนที่นำแมวไปปล่อยได้ ก็ออกตามหาแมวจุดที่เขาไปปล่อย แต่ก็ไม่เจอ จนมาเจอว่าน้องตายแล้ว เสียใจมากเพราะรักเจ้าสัวเหมือนลูก ตั้งใจเลี้ยงดูแลเขาเป็นอย่างดี ไม่เข้าใจว่าทำไมกู้ภัย จับแมวไว้ ไม่เอาไปดูแลก่อน หรือถ่ายรูปลงเพจ เพื่อตามหาเจ้าของ ทำไมถึงรีบเอามาปล่อย ทั้งที่จับไปเพียง 30 นาที หากนำไปผูกไว้ หรือทำการดูแลเป็นขั้นตอน ไม่ใช่การผลักภาระ และนำไปทิ้งแบบนี้ แมวก็มีชีวิต กู้ภัยคือหน่วยที่ช่วยชีวิตแต่มาทำแบบนี้ ตนก็จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนเรื่องภาพถ่ายตอนเจ้าสัวหายในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน เป็นคนละเฟสที่ตนอยู่ และไม่ใช่ไลน์กลุ่มหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นมา เป็นไลน์กลุ่มเพื่อนบ้านที่สนิทกันตั้งขึ้น ตนจึงไม่รู้เรื่อง

ในส่วนของเพื่อนบ้าน คนที่แจ้งกู้ภัยมาช่วย บอกว่า แมวออกมาอยู่ที่เสาบันได มีท่าทางขู่และจะกระโดดใส่ คนในบ้านก็กลัว ไม่กล้าออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าจนถึงบ่ายสาม แมวกระโดดไปมาสองบ้าน จึงเอาน้ำสาดให้แมวหนีไป และตามหาเจ้าของ แต่ไม่มีใครมาแสดงตัว ไม่มีใครทำร้ายแมว แต่ทุกคนกลัว พยายามถามหา ตามหาแล้วว่าแมวของใคร แต่ไม่เจอเจ้าของ

เช่นเดียวกับคุณก้อย เพื่อนบ้านที่แมวหนีมาอยู่เล่าว่า ท่าทางแมวน่ากลัว ดุ ขู่และกระโดดไปมา ถ่ายอุจจาระปัสสาวะเรี่ยราด ตนและลูกก็กลัว เพราะมีลูกเล็ก พอตามหาเจ้าของก็ไม่มีใครปรากฎตัว แมวก็กระโดดจากบ้านตนไปบ้านข้างๆ ก่อนที่กู้ภัยจะมาจับไป หากในมุมของตนก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย ทั้งกู้ภัยและเจ้าของแมว 

สำหรับเรื่องนี้ทางด้านวอชด็อกไทยแลนด์ ได้ออกมาช่วยเหลือให้คำแนะนำ ด้านกฎหมายกับเจ้าของแมวและมองว่าการกระทำของกู้ภัย เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/oROsGT9x94o

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ