อาชญากรรม

สั่งสอบเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ หลังนางบัวลอยก่อคดีวางแผนฆ่า

โดย

13 ต.ค. 2563

3.4K views

เชียงใหม่ - จากกรณีตำรวจ สภ.แม่ริม จับกุม นางบัวลอย อายุ 61 ปี และนายปั๋นแก้ว ขันแก้ว อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า นายอนันต์ ดวงมาลัย อายุ 58 ปี โดยพบศพอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง-สบแฝก ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า นางบัวลอยได้จ้างวานนายปั๋นแก้ว ให้ไปฆ่าเพื่อฮุบเงินฌาปนกิจกว่า 5 แสนบาท
วันที่ 11 ต.ค. พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้ตอนแรกค่อนข้างซับซ้อน แต่จากการสืบสวนสอบสวนก็พบว่ามีเรื่องเงินฌาปนกิจ จำนวน 5 แห่ง มาเกี่ยวข้อง ซึ่งผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่ญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิด และคนส่งเงินฌาปนกิจทุกเดือน ก็คือนางบัวลอย
เราก็สืบสวนจนจับกุมได้ และนายปั๋นแก้ว ก็ให้การรับสารภาพว่ารับงานฆ่ามาจากนางบัวลอย แม้นางบัวลอยจะปฏิเสธว่าแค่ขอให้ไปสั่งสอน แต่หลักฐานพยานเราแน่นหนา นอกจากนี้จากข้อมูลเดิมเคยมีศพที่ตายปริศนา 2 คดี ในพื้นที่ใกล้กัน ที่มีนางบัวลอย รับผลประโยชน์จากเงินฌาปนกิจทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าไปเร่งคลี่ปมว่าคดีที่เกิดขึ้นเสียชีวิตยังไง และทำไมนางบัวลอย จึงได้รับผลประโยชน์จากเงินเหล่านั้น
วันเดียวกัน นายจำรัส แสงคำอายุ 64 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกนางบัวลอย นำชื่อเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์ และรอดตายจากการถูกวางยา เปิดเผยว่า หลายปีก่อนนางบัวลอยมาขอกับลูกสาว เอาชื่อตนเข้าเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ ด้วยความที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและเห็นกันมาแต่เด็ก ตนก็ไม่ขัดข้อง แต่ไม่รู้ว่าไปสมัครไว้กี่ที่
จนกระทั่งกลางปี 2561 นางบัวลอยมาหาที่บ้านเอายาแคปซูลมาให้ 2 ซอง อ้างว่าหลานเอามาจากญี่ปุ่น กินแล้วจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและหายจากอาการอัมพฤกษ์ที่เป็นอยู่ กลับมาเดินมาได้ หลังจากนางบัวลอยกลับไป ตนก็กินยาไป 3 เม็ด จากนั้นไม่ถึง 10 นาที นางบัวลอยย้อนกลับมาถามว่ากินยาหรือยัง ก็บอกว่ากินไปแล้ว
นางบัวลอยกลับบอกว่าเอายาให้ผิด แล้วเดินเข้าไปหยิบยาอีกซองที่เหลือออกไปจากบ้าน จากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มมีอาการกระวนกระวาย คลื่นไส้ อาเจียน คัน และเหงื่อออกทั่วตัว ดื่มน้ำไปเท่าไหร่ก็ไม่หาย จนหมดสติไปหลายชั่วโมง มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว และแพทย์ได้ล้างท้องจนอาการปลอดภัย โดยครั้งนั้นได้บอกกับหมอไปว่ากินยาผิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกสาวไปตามหานางบัวลอยมาสอบถาม นางบัวลอยอ้างว่าไม่ได้เอายาอะไรให้ ลูกสาวจึงเชื่อว่าต้องถูกวางยาเอาเงินฌาปนกิจ จึงให้ยกเลิกสมาชิกฌาปนกิจทันที
นายจำรัส ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ยังมีนางน้อย ที่เป็นเครือญาติกันและอยู่หมู่บ้านเดียวกันเสียชีวิตลง และมีนางบัวลอยเป็นผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งตนเองเชื่อว่าอาจเสียชีวิตเพราะถูกวางยา แต่ที่ผ่านมาทางญาติก็ไม่มีใครติดใจเอาเรื่อง เพราะมีฐานะยากจน ไม่มีเงินในการต่อสู้คดี และยังกลัวว่าจะถูกแจ้งความดำเนินคดีกลับ เพราะไม่มีหลักฐาน
นอกจากนี้ ก่อนที่นายอนันต์ ที่เสียชีวิตรายล่าสุดจะถูกฆ่า นายจำรัสบอกว่าเคยเตือนให้ระวังตัว เพราะเห็นว่าถูกนางบัวลอยนำชื่อไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจเหมือนกับตน จนสุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตลงจริง ๆ
ด้าน นายกุศล คำใส ผู้ใหญ่บ้านบ้านซาง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตในหมู่บ้านหลายคน ที่ชาวบ้านต่างพูดกันว่าถูกวางยาจากฝีมือของนางบัวลอย โดยข้อมูลเท่าที่ทราบมาพบว่ามีทั้งหมด 5 คน ที่เสียชีวิต และมีชื่อนางบัวลอย เป็นผู้รับประโยชน์เงินฌาปนกิจ
2 ใน 5 คือนายหล้า ที่เสียชีวิตไปประมาณ 4 ปีก่อน และนายอุทิศ ที่เสียชีวิตเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อนหน้านี้ ตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านได้ไปตรวจสภาพศพหลังได้รับแจ้งเหตุ พบความผิดปกติ โดยทั้งสองเหมือนกันก็คือ หนึ่งวันก่อนตายยังแข็งแรงปกติ แต่มาพบเป็นศพตอนรุ่งเช้า ในสภาพผิวดำคล้ำ และมีน้ำลายฟูมปากเล็กน้อย ยอมรับว่าสงสัยอยู่ในใจ เพราะทำงานเกี่ยวกับงานด้านป้องกันและเห็นศพมามาก หากเสียชีวิตปกติตัวจะไม่คล้ำแบบนี้ แต่เมื่อสอบถามทางญาติผู้ตายไม่ติดใจ จึงต้องให้ทางญาติประกอบพิธีศพไปตามความประสงค์
นอกจากทั้ง 5 รายนี้ ยังมีอดีตสามีของนางบัวลอย ที่เสียชีวิตไป 2 คน คือ อดีตสามีคนแรก เสียชีวิตประมาณ 10 ปีก่อน และนายคำ ไม่ทราบนามสกุล เสียชีวิตขณะอายุประมาณ 70 ปี โดยพบเป็นศพนั่งเสียชีวิตในรถ ใกล้กับตลาดต้นพะยอม อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ซึ่งสองรายนี้ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับนายอนันต์ รายล่าสุด ผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายเคยเล่าให้เพื่อนในวงเหล้าฟังว่าถูกวางยามาแล้ว 4 ครั้ง แต่ตนเองก็ไม่เชื่ออะไรมาก เพราะนายอนันต์เป็นคนขี้เมา
ล่าสุดปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายอนันต์ มาเล่าให้ตนเองฟังว่าถูกวางยาอีก บอกว่าพบว่าขวดเหล้าที่ซื้อไปกิน บริเวณฝาเหมือนถูกเจาะเป็นรูปเข็ม เมื่อเปิดขวดจะยกดื่มพบว่าเป็นฟองฟู่สีขาว จึงเอาไปทิ้ง เชื่อว่าเป็นยาพิษ เรื่องนี้ตนเองก็ไม่ได้เชื่ออะไรมาก จนกระทั่งมาถูกฆ่าเสียชีวิต
ผู้ใหญ่บ้านยอมรับว่า การขอชื่อชาวบ้านไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านมานาน และการนำชื่อไปเข้าโดยที่ผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่ญาติก็ทำได้ง่าย แค่มาขอกันแล้วมอบหลักฐานให้ไปสมัครก็ได้เป็นสมาชิก ทราบว่านางบัวลอย ทำแบบนี้มานานตั้งแต่อายุ 40 กว่าปี โดยอ้างว่าต้องการแบ่งเบาภาระการจัดงานศพให้กับครอบครัว และจะแบ่งเงินสงเคราะห์ให้กับครอบครัวเพื่อเป็นทุนต่อชีวิต
สำหรับนางบัวลอย ปกติเป็นคนอัธยาศัยดี ช่วยเหลืองานหมู่บ้าน ที่บ้านก็ไม่ได้ขัดสนเงินทองอะไร แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยกันมานานเรื่องวางแผนฆ่าคนเอาเงิน พอมาถูกจับตนเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง
ล่าสุด (13 ต.ค.63) เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบถึงกรณีเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ หลังนางบัวลอยก่อคดีวางแผนฆ่า 
ชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UjU_j12XTjM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ