ญาติโล่งใจ ผลนิติเวช รพ.ตำรวจ ชี้ 'น้องชมพู่' มีร่องรอยอวัยวะเพศฉีกขาด หลังติดใจผลตรวจ รพ.แรกไม่พบ

ความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ปี ที่พบเสียชีวิตสภาพเปลือยในป่า หลังหายออกจากบ้านไป 4 วัน ซึ่งผลการชันสูตรศพรอบแรกที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตรวจไม่พบร่องรอบการถูกทำร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศ

แต่ล่าสุดแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่รอบ 2 หลังครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ปรากฏว่าพบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย และอวัยวะเพศมีบาดแผลฉีกขาด แพทย์จึงเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิ ซึ่งระยะการเสียชีวิตยังไม่นานเกินไป หากมีอสุจิก็สามารถตรวจพบได้

ส่วนน้องชมพู่ จะถูกข่มขืน กระทำชำเราหรือไม่ ต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ ส่วนบาดแผลที่พบไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าเป็นบริเวณใดของร่างกาย ซึ่งแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเลือด ไปตรวจหาสารเสพติด และสารพิษ เพื่อดูว่ามีการวางยาหรือไม่

นอกจากนี้แพทย์ยังได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากชิ้นเนื้อจะสามารถ ระบุได้ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกทุบตี , กดทับ หรือมีการลากร่างเกิดขึ้นหรือไม่ เบื้องต้นคาดใช้เวลาอีก 30 วัน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจะออก การชันสูตรวันนี้จึงยังไม่สรุปสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยได้แจ้งผลการชันสูตรต่อพนักงานสอบสวน และแจ้งให้ญาติรับทราบแล้ว ศพสามารถรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้

ขณะที่นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ ซึ่งได้ฟังผลการชันสูตรกลางรายการโหนกระแส หลังทราบผลที่ออกมาถึงกับร้องไห้ด้วยความโล่งใจ เนื่องจากทางบ้านติดใจการชันสูตรรอบแรก เพราะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเสียชีวิต โดยพบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนเรื่องคดี อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้ผู้ที่ก่อเหตุเป็นคนในชุมชน เพราะน่ากังวลที่จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนพ่อและแม่ของหลานสาวเชื่อว่าหากทราบผลชันสูตรชัดเจน น่าจะดีใจที่ผลออกมาเป็นบวกต่อรูปคดี เพราะทางครอบครัว ติดใจในประเด็นการเสียชีวิตอยู่แล้ว

ขณะที่ผลการชันสูตรตามเอกสารการแจ้งตายเบื้องต้น ที่ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้มอบให้กับทางลุงพล มีข้อความระบุในส่วนของสาเหตุการตายว่า ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ ซึ่งต่อจากนี้ในอีก 45 วัน ทางนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจจะมีการจัดส่งใบชันสูตรแบบละเอียด ให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม เพื่อใช้ในการดำเนินการทางคดีต่อไป

ด้านพ่อแม่ของน้องชมพู่ระบุ ผลการชันสูตรศพที่ขัดแย้งกัน แต่ก็ต้องยึดผลจากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนตัวไม่อยากให้ผ่าศพลูกซ้ำอีก ส่วนการเผาศพก็ต้องหารือกับทางตำรวจอีกครั้ง

ขณะที่ทางโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเผยผลชันสูตรศพรอบแรก ไม่ตรงกับที่โรงพยาบาลตำรวจ ตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือผลการชันสูตร ซึ่งไม่อยากให้รายละเอียดกับสื่อ เพราะกลัวว่าจะมีการขัดแย้งกับนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ แต่ยืนยันว่าผลที่ตรวจรอบแรก ทางแพทย์ได้ชันสูตรอย่างชัดเจนแล้ว

ชมผ่านยูทูปที่นี่ : https://youtu.be/c_A_JGhwCd8