หนุ่มถูกกล่าวหาเป็นโจรชิงทองลพบุรี แจ้งความคนแชร์มั่ว รับเคยทำจริง แต่กลับตัวแล้ว

นายเอกฐวีป คงคาวารี หรือเอก อายุ 36 ปี ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ต้องหาชิงทองเมื่อปี 2556 และถูกจับกุมต้องโทษนาน 7 ปี ก่อนพ้นโทษมา แต่ล่าสุดกลับมีผู้คนในโลกออนไลน์แชร์ภาพ หน้าบัตรประชาชน และกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ต้องหา ชิงทองและกราดยิงในร้านทองจังหวัดลพบุรี

นายเอก บอกว่า ขณะกำลังเรียนหนังสืออยู่นั้น มีคนโทรศัพท์มา และส่งข้อความที่แชร์กันมาให้ตนดู  จึงตั้งสติ และรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.สามเสน โดยระหว่างนั้นได้โทรศัพท์ไปหาทางบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชรพี่ชายรับโทรศัพท์และบอกว่าตำรวจบุกมาค้นที่บ้านและตามหาตัว ขณะนั้นสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือพ่ออายุ 80 ปี และแม่อายุ 70 ปี เพราะกลัวว่าจะตกใจและคิดว่าเราเป็นคนร้าย ยอมรับเคยก่อเหตุปล้นทองที่ห้างสรรพสินค้าที่ย่านลาดพร้าวเมื่อปี 2556

ทั้งนี้นายเอก ได้นำหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดมาให้ทีมข่าวดู ในวันที่ 9 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 20.30 น. นายเอกทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไปก่อเหตุในจังหวัดลพบุรี ส่วนที่มีภาพของตนหลุดออกมานั้น ทราบมาว่า หลุดมาจากกลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพอทราบต้นตอที่โพสต์แล้ว และเตรียมเข้าไปแจ้งความเอาผิดคนโพสต์ และคนแชร์

โดยอยากฝากถึงคนที่โพสต์ว่า การแชร์ข้อความ เพียงสั้นๆ อาจจะเป็นการทำลายชีวิตคนหนึ่ง เมื่อตนพ้นโทษออกมาก็ตั้งใจมาทำงาน และเรียนปริญญาตรีให้จบ ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวเส้นทางสายดังกล่าวอีก ณ เวลานี้ เมื่อมีการแชร์ข้อความกัน จากที่บางคนไม่เคยรู้เรื่องราวของตน ก็ถูกเปิดเผย และมีผลต่อสายตาของผู้คนในสังคมที่มองมาที่ตนเอง

อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจดีว่า สักวันอาจถูกตรวจสอบ เพราะหนึ่งในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบประวัติคนที่เคยก่อเหตุ เพื่อเทียบเคียงแผนประทุษกรรม

นอกจากนี้ นายเอก ยังมองว่า พฤติการณ์ก่อเหตของคนร้าย เป็นคนมีฝีมือในการใช้ปืน และปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็เชื่อว่าตำรวจสามารถจำกัดวงลงมาได้ ว่าเป็นกลุ่มใด ส่วนการแต่งกายของคนร้าย ตนมองในฐานะผู้ที่เคยก่อเหตุ ต้องแต่งกายให้ต่างจากชีวิตปกติ เพื่อปกปิดอัตลักษณ์ และรูปลักษณ์ของตัวเองจากผู้พบเห็น

จากนั้นนายเอก เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ให้ดำเนินคดีกับบุคคล และเพจเฟซบุ๊ก ที่โพสต์และแชร์ข้อความจำนวน 7-8 ราย เพราะเป็นข้อมูลที่บิดเบือน ไม่ตรงตามความเป็น และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หนึ่งในนั้นอ้างว่าเป็นบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับ กอ.รมน. ด้วย

โดยตนเองรวบรวมข้อมูลที่มีผู้แชร์ ส่วนตัวจึงมองว่าอาจเป็นการที่เจ้าหน้าที่ส่งต่อข้อมูลของตนเอง  เพื่อตรวจสอบกันเป็นการภายในหน่วยงาน แต่ข้อมูลหลุดออกมา แล้วถูกบุคคลที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล นำไปเผยแพร่ จนมีผู้แชร์ไปกว่า 8,000 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อตนเอง

เพราะขณะนี้ตนเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีผู้ใหญ่ให้โอกาสได้ทำงานและส่งเสียให้เรียนต่อ กว่าจะตั้งตัวได้ก็ยาก ชีวิตกำลังจะดีขึ้น กลับต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เหมือนซ้ำเติมชีวิตคนที่ตั้งใจกลับมายืนในสังคม ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะแจ้งความไว้เป็นตัวอย่าง และขอให้ผู้ที่โพสต์ข้อความออกไปให้ช่วยลบโพสต์

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนเองเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่กรุงเทพฯเมื่อปี 2556 และถูกจำคุกเป็นเวลานานถึง 7 ปี ก่อนจะพ้นโทษมาได้เพียง10 เดือน ซึ่งในมุมมองของผู้ที่เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองมาก่อน ในคดีของตัวเองตอนก่อเหตุ มุ่งประสงค์จะเอาทรัพย์สินเท่านั้น ไม่ได้เจตนาจะยิงหรือทำร้ายผู้ใด

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fjVcuPJYsZU