ต่างประเทศ
“โดนัลด์ ทรัมป์” เสนอลดภาษีจีนเหลือ 80% ก่อนเจรจาการค้าสุดสัปดาห์นี้
โดย paranee_s
10 พ.ค. 2568
164 views
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณลดภาษีสินค้าจากจีนเหลือ 80% จากเดิม 145% ซึ่งถือเป็นการเสนอทางเลือกที่มีความชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเป็นครั้งแรก ก่อนสองชาติเจรจาการค้ากันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โดย ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า ภาษีสินค้า 80% สำหรับจีนดูเหมือนจะเหมาะสม พร้อมเสริมว่าจีนควรเปิดตลาดให้กับสินค้าสหรัฐฯ เพราะมันจะเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับพวกเขา
นอกจากนี้ ขณะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ ยังแย้มว่าเขาได้ให้ตัวเลขสำหรับการเจรจากับตัวแทนของสหรัฐฯ แล้วแต่ยังอุบเงียบว่าเป็นตัวเลข 80% เดียวกันนี้หรือไม่
สัญญาณนี้มีขึ้นก่อนที่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนายเจมีสัน เกรียร์ หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าสหรัฐฯ จะหารือกับนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจของจีนที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันนี้ โดยมีเป้าหมายคือการหาทางออกให้กับความขัดแย้งทางการค้าที่กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
อย่างไรก็ดี แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกของทำเนียบขาวได้ออกมาแถลงย้ำว่า ตัวเลข 80% เป็นเพียงตัวเลขที่ประธานาธิบดีเสนอขึ้นมาเท่านั้น และสหรัฐฯ จะไม่ยอมลดภาษีเพียงแค่ฝ่ายเดียวแน่นอน แต่จีนจะต้องแสดงการยอมผ่อนปรนด้วยเช่นเดียวกัน
ประเด็นที่น่าจับตามองในการเจรจาครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องการค้าเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการลักลอบส่ง “เฟนทานิล” ยาเสพติดอันตรายด้วย โดยมีรายงานว่าจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงเข้าร่วมการประชุม ซึ่งทรัมป์เคยอ้างว่าปัญหาเฟนทานิลเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการขึ้นภาษีสินค้าตั้งแต่แรก
แม้ทรัมป์จะแสดงความคาดหวังว่าการเจรจาจะมีความคืบหน้าและภาษีอาจลดลง แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงมองด้วยความระมัดระวัง เพราะทางออกสำหรับสองฝ่ายนั้นไม่ง่าย และแม้ว่าจะลดภาษีลงเหลือ 80% อัตราภาษีนำเข้าโดยรวมของสหรัฐฯ ยังคงสูงถึง 18% ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งถึงสามเท่าและสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 – 3% ตามการประมาณการของอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Economics)
แม้ทรัมป์จะเคยส่งสัญญาณหลายครั้งว่าเขาคาดว่าอัตราภาษีต่อจีนจะลดลง แต่เขาก็ไม่เคยเสนอทางเลือกที่ชัดเจนจนกระทั่งครั้งนี้
สถานการณ์ปัจจุบัน คือ สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเฉลี่ย 145% ส่วนจีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายากบางชนิด และขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ 125% ส่งผลให้เกิดแรงกดดันมหาศาลต่อเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ โดยเฉพาะผู้บริโภคและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น และผู้ผลิตในจีนที่ดิ้นรนหาตลาดใหม่
ท่ามกลางความตึงเครียด กี พาร์เมอแลง รองประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าภาพการประชุม กล่าวอย่างมีความหวังว่า การที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะพูดคุยกันนั้น ถือเป็นความสำเร็จแล้ว และหากสามารถกำหนดแผนการดำเนินงานและตัดสินใจกันได้ จะช่วยลดความตึงเครียดลงได้มาก
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ทางการจีนได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการส่งออก โดยจะเห็นว่ามาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ดูเหมือนจะทำให้ยอดการส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาลดลงอย่างหนัก โดยลดลงถึง 17.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่เพียง 33,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 40,100 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หากไปดูภาพรวมการส่งออกจากทั้งหมดของจีน กลับพบว่ายังคงแข็งแกร่งเกินคาด โดยมีตัวเลขเติบโตถึง 8.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยยอดส่งออกที่สูงเกินคาดดังกล่าวได้แรงหนุนจากการส่งออกไปประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ทะยานขึ้นถึง 20.8% ในจำนวนนี้ ส่งออกเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นถึง 28% และอินโดนีเซีย 17%
ทั้งนี้ นายจื้อ เหว่ย จาง ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management ชี้ว่าผลกระทบกำแพงภาษีของทรัมป์อาจยังไม่ปรากฏชัดเจนทั้งหมดในข้อมูลการค้าเดือนเมษายน เนื่องจากอาจมีการขนส่งผ่านประเทศที่สาม หรือเป็นสัญญาที่ทำไว้ล่วงหน้าก่อนการประกาศใช้ภาษี พร้อมคาดการณ์ว่าข้อมูลการค้าจะค่อย ๆ อ่อนตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SI55tSUbBEU
แท็กที่เกี่ยวข้อง