ต่างประเทศ

กัมพูชาปฏิเสธรายงานของ Nikkei Asia ปมวางทุ่นระเบิดใหม่ ชี้เป็นข้ออ้างหวังผลการเมือง-ดินแดน

3 ธ.ค. 2568

150 views

กัมพูชาปฏิเสธรายงานของ Nikkei Asia ที่ “สีหศักดิ์” ให้สัมภาษณ์เรื่องวางทุ่นระเบิดใหม่ ชี้เป็นข้ออ้างหวังผลทางการเมืองและดินแดน บอกไทยเก็บกู้ระเบิด-ปฏิบัติการทางเทคนิคโดยไม่ประสานกัมพูชา มองบั่นทอนความพยายามร่วมกัน

องค์การปฏิบัติการทุ่นระเบิดและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหยื่อแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia เมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค. 2568) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบุว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ตามแนวชายแดน และเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมาตรา 8 ของอนุสัญญาออตตาวา

ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่วันนี้ (3 ธ.ค. 2568) CMAA ระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เป็นการกล่าวอ้างฝ่ายเดียว และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ได้รับการตรวจสอบ พร้อมย้ำว่ากัมพูชาได้ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างครบถ้วนและไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นับตั้งแต่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา

กัมพูชาไม่ได้ใช้ทุ่นระเบิดมานานกว่า 30 ปีแล้ว และกองทัพก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบระดับชาติและนานาชาติอย่างเคร่งครัด กัมพูชาไม่มีคำสั่งหรือการอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิด และความมุ่งมั่นต่อสนธิสัญญานี้ก็พิสูจน์ได้จากความโปร่งใสและความร่วมมือที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

แถลงการณ์ระบุว่า ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น เป็นสิ่งที่ตกค้างมาจากความขัดแย้งในอดีต ซึ่งCMAA ชี้ว่าปัญหายืดเยื้อนี้ไม่ควรนำไปสับสนกับการวางทุ่นระเบิดใหม่

กัมพูชายังชี้ว่า ฝ่ายไทยมักดำเนินการเก็บกู้ระเบิดและปฏิบัติการทางเทคนิคเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่มีการประสานงานกับกัมพูชา ซึ่ง CMAA มองว่าการกระทำดังกล่าวบั่นทอนความพยายามร่วมกันและละเมิดกลไกที่มีอยู่ภายใต้อนุสัญญาออตตาวา ทาง CMAA ยืนยันว่าปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดควรดำเนินการด้วยความเป็นมืออาชีพ ความเป็นกลาง และความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ด้วยแรงจูงใจทางการเมือง

ฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าตนเองมีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะผู้นำด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยสามารถกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนได้แล้วกว่า 3,000 ตารางกิโลเมตร ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไปกว่า 1.2 ล้านลูก และกำจัดอาวุธระเบิดที่ตกค้างจากสงครามได้กว่า 3 ล้านชิ้น

อย่างไรก็ดี ประเด็นด้านมนุษยธรรมเหล่านี้กำลังถูกทำให้เป็นเรื่องการเมืองเพื่อสนับสนุนเรื่องราวทางการเมืองมากกว่าสะท้อนข้อเท็จจริง เสี่ยงที่จะทำลายความไว้วางใจระหว่างพันธมิตรในภูมิภาคและบั่นทอนความก้าวหน้าที่มีมาหลายทศวรรษ CMAA ยืนยันว่า “กัมพูชาจะไม่ถูกดึงเข้าไปสู่วาทกรรมหรือเรื่องเล่าฝ่ายเดียว แนวทางของเรายังคงตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักฐาน ความร่วมมือ และกลไกที่มีอยู่”

นอกจากนี้ กัมพูชายังกล่าวหาว่าไทยใช้เหตุการณ์ทุ่นระเบิดเป็นยุทธศาสตร์บั่นทอนความสำเร็จและการมีส่วนร่วมด้านปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชา ซึ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงในฐานะผู้สนับสนุนที่ทุ่มเทและรัฐภาคีที่มุ่งมั่นต่ออนุสัญญาออตตาวา การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของอนุสัญญาฯ และมุ่งสร้างความขัดแย้งระหว่างรัฐภาคีและประชาคมระหว่างประเทศ

ไทยใช้เหตุการณ์ทุ่นระเบิดเป็นข้ออ้างสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธกับกัมพูชา เพื่อผลักดันการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนโดยอิงจากแผนที่ที่จัดทำขึ้นฝ่ายเดียว ไทยฉวยโอกาสจากเหตุทุ่นระเบิดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชนและประชาคมโลกจากการทำลายล้างและความเสียหายมหาศาลที่เกิดจากการใช้กำลังและอาวุธเกินกว่าเหตุในช่วงความขัดแย้งด้วยอาวุธ 5 วัน รวมถึงการละเมิดข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์และปฏิญญาร่วมอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายนี้ กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยมีความเป็นมืออาชีพ ความเป็นกลาง และการประเมินโดยใช้หลักฐานเป็นฐาน โดยเรียกร้องให้พันธมิตรและรัฐภาคีทั้งหมดสนับสนุนหลักฐานทางเทคนิค ขั้นตอนที่ได้รับการตรวจสอบ ความเชี่ยวชาญที่เป็นกลาง ความร่วมมือร่วมกัน และการเคารพกลไกที่มีอยู่ แทนที่จะพึ่งพาข้อกล่าวหาฝ่ายเดียวที่ทำให้ตัวอนุสัญญาอ่อนแอลง



คุณอาจสนใจ

Related News