ต่างประเทศ

KNU ประกาศเคอร์ฟิวเมืองโจนโด สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบหนีเข้าพื้นที่

8 พ.ย. 2568

57 views

สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวและห้ามการเดินทาง เพื่อหยุดยั้งการหลั่งไหลของอาชญากรที่หลบหนีออกจากแหล่งกบดานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนที่อยู่ติดกับประเทศไทย

เว็บไซต์ข่าว The Irrawaddy รายงานว่า ทางการ KNU ซึ่งควบคุมพื้นที่เมืองโจนโด (Kyondoe) บนทางหลวงสายเอเชียหมายเลข 1 ที่มุ่งหน้าไปยังชายแดน ได้สั่งห้ามไม่ให้คนในพื้นที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้หลบหนีที่อาจเดินทางมาจากเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา KNU ระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังจัดฉากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งๆ ที่ตนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็แอบเคลื่อนย้ายชาวต่างชาติที่ทำงานในศูนย์เหล่านั้น

KNU ได้สั่งห้ามประชาชนในเมืองโจนโด ซึ่งเป็นเมืองย่อยในเขตกอกะเร็ก (Kawkareik District) ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 06.00 น. และเตือนไม่ให้ที่พักพิงหรือเคลื่อนย้ายชาวต่างชาติที่หลบหนีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังสั่งห้ามการพนันทุกรูปแบบในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หลบหนีมาตั้งฐานปฏิบัติการใหม่ พร้อมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนขุดหลุมหลบภัยเพื่อป้องกันตนเองจากการโจมตีของรัฐบาลทหาร

กฎระเบียบที่เข้มงวดเหล่านี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลทหารได้บุกเข้าค้น KK Park (เคเคพาร์ค) แหล่งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ทางตะวันออกของเมืองเมียวดี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม โดยที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือ BGF ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลทหาร

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม กองกำลัง BGF ได้ขับไล่คนงานทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติหลายพันคนออกจากพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความโกลาหลบริเวณด่านข้ามแดน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าหัวหน้าแก๊งชาวจีนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ถูกโยกย้ายไปยังสถานที่ปลอดภัยภายใต้การควบคุมของ BGF และกองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ หรือ DKBA

ขณะที่พนักงานระดับปฏิบัติการหลายร้อยหรือหลายพันคนหลบหนีไป แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังคงอยู่เพื่อหาโอกาสใหม่

เจสัน ทาวเวอร์ จากองค์กร Global Initiative Against Transnational Organized Crime ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิรวดีเมื่อวันพุธว่า ทีมผู้บริหารและหัวหน้ามาเฟียได้ย้ายไปยังแหล่งสแกมเมอร์แห่งใหม่ ทั้ง โพลีพาร์ค (Poly Park), อพอลโล (Apollo), เหิงเซิง (Hengsheng) และ ชเวก๊กโก (Shwe Kokko) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ BGF นอกจากนี้ บางส่วนยังย้ายปฏิบัติการลงใต้ไปยังด่านเจดีย์สามองค์ และไท่ชางพาร์ค (Taichang Park) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ DKBA

ทาวเวอร์กล่าวเสริมว่า BGF ยังได้รับผลประโยชน์จากการปราบปรามครั้งนี้ โดยการขายคนงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์อื่นเพื่อทำกำไร


แท็กที่เกี่ยวข้อง  สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ,KNU

คุณอาจสนใจ

Related News