“เปรู” ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับ “เม็กซิโก” หลัง “อดีตนายกฯ หญิง” หนีคดีขอลี้ภัยในสถานทูต

“เปรู” ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับ “เม็กซิโก” อย่างเป็นทางการ หลัง “อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง” ที่กำลังเผชิญข้อหาหนักได้หลบหนีเข้าไปขอลี้ภัยในสถานทูตเม็กซิโกประจำกรุงลิมา

นายอูโก เด เซลา (Hugo de Zela) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับเม็กซิโกโดยมีผลทันที

ชนวนของเหตุการณ์นี้มาจากการที่นางเบตซี ชาเวซ อดีตนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติโย ได้หลบหนีเข้าไปยังสถานทูตเม็กซิโกในกรุงลิมา เพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลเปรูมองว่าการกระทำของเม็กซิโก ที่ให้ที่พักพิงแก่บุคคลที่กำลังเผชิญข้อหาร้ายแรง ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร และเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน

ทั้งนี้ นางชาเวซ กำลังถูกดำเนินคดีในข้อหามีส่วนร่วมในความพยายามก่อรัฐประหารของอดีตประธานาธิบดีกัสติโย ที่พยายามจะยุบสภาอย่างผิดกฎหมายเมื่อปลายปี 2565 ซึ่งอัยการได้ยื่นขอให้ศาลลงโทษจำคุกเธอสูงถึง 25 ปี แม้จะเพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อเดือนกันยายน แต่การหลบหนีเข้าสถานทูตครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับรัฐบาลเปรูชุดปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน มีรายงานสถานการณ์ในขณะนี้เต็มไปด้วยความสับสน เนื่องจากทนายความส่วนตัวของนางชาเวซได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาไม่สามารถติดต่อลูกความของเขาได้มาหลายวันแล้ว และไม่ทราบเรื่องการขอลี้ภัยมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คนขับรถของนางชาเวซเคยเผยว่า เธอได้ขอให้เขาพาเธอไปยังสถานทูตเม็กซิโกในขณะที่นายกัสติโยกำลังดำเนินการเพื่อยุบสภา

ล่าสุด ทางการเม็กซิโกยังคงนิ่งเงียบ ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อการตัดสินใจของเปรู