ต่างประเทศ

เกาหลีใต้พบยอดเทรดคริปโตกับกัมพูชาพุ่ง 1,400 เท่า หวั่นเป็นเส้นทางฟอกเงินของอาชญากรข้ามชาติ

28 ต.ค. 2568

47 views

หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ เผยการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลระหว่างแพลตฟอร์มของเกาหลีใต้กับกัมพูชาพุ่ง 1,400 เท่า หวั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินหรือโอนเงินผิดกฎหมายของกลุ่มอาชญากรในกัมพูชา

หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ หรือ FSS เปิดเผยว่า การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลระหว่างแพลตฟอร์มของเกาหลีใต้กับกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีที่แล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินหรือโอนเงินผิดกฎหมายของกลุ่มอาชญากรในกัมพูชา

ข้อมูลจาก FSS ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว การโอนเงินดิจิทัลระหว่างแพลตฟอร์มซื้อขาย 5 แห่งของเกาหลีใต้ ได้แก่ Upbit, Bithumb, Coinone, Korbit และ Gopax กับ Huione Guarantee ของกัมพูชา มีมูลค่ารวมสูงถึง 12,800 ล้านวอน (ราว 290 ล้านบาท) ซึ่งพุ่งสูงขึ้นเกือบ 1,400 เท่า จาก 9.22 ล้านวอน (ราว 209,000 บาท) ในปี 2566

Huione Group (ฮวยวัน กรุ๊ป) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัททางการเงินในกรุงพนมเปญ และเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์ม Huione Guarantee ได้ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรคว่ำบาตรไปแล้วก่อนหน้านี้ ในฐานะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องสงสัยว่าใช้แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งนี้เป็นช่องทางสำคัญในการฟอกเงินที่ได้จากการฉ้อโกงและการโจรกรรม

การโอนส่วนใหญ่ระหว่างแพลตฟอร์มของเกาหลีใต้และกัมพูชาทำในสกุลเงิน Tether (USDT) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยการเชื่อมโยงแบบหนึ่งต่อหนึ่ง (1 USDT เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) รวมถึงความเสถียรและความสะดวกในการแปลง ทำให้ Tether ถูกใช้อย่างแพร่หลายในฐานะช่องทางที่สะดวกสำหรับการโอนเงินข้ามพรมแดน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้แพลตฟอร์มการซื้อขายเงินดิจิทัลของเกาหลีใต้เริ่มกระชับมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น Upbit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ได้รายงาน Huione ต่อหน่วยงานทางการเงินเมื่อต้นปีนี้ หลังจากตรวจพบกิจกรรมที่อาจเป็นการฟอกเงิน และต่อมาได้ระบุกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับ Huione และสั่งห้ามการโอนคริปโตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มดังกล่าว

เช่นเดียวกับ Bithumb ซึ่งมีปริมาณธุรกรรมมากที่สุด ก็ได้บล็อกการฝากและถอนคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ Huione ทั้งหมดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของ FSS ยังแสดงให้เห็นว่า ธนาคาร 4 แห่งของเกาหลีใต้ (Jeonbuk Bank, KB Kookmin Bank, Shinhan Bank และ Woori Bank) ที่มีสาขาอยู่ในกัมพูชา ได้จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากรวมทั้งสิ้น 1,450 ล้านวอน (ราว 32 ล้านบาท) ให้กับ Prince Group บริษัทกัมพูชาที่ต้องสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยปัจจุบันธนาคารเหล่านี้มียอดเงินฝากของ Prince Group ที่ถูกอายัดไว้ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ รวมกว่า 91,000 ล้านวอน (ราว 2,066 ล้านบาท)

โดย Jeonbuk Bank จ่ายส่วนแบ่งมากที่สุดที่ 709 ล้านวอน (ราว 16 ล้านบาท) ตามมาด้วย KB Kookmin Bank ที่ 673 ล้านวอน (ราว 15 ล้านบาท)

สส. คัง มิน-กุก จากพรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้ และเป็นผู้ที่ได้รับข้อมูลดังกล่าวจาก FSS แสดงความกังวลว่า องค์กรอาชญากรรมในกัมพูชาอาจใช้ธนาคารเกาลีสาขาท้องถิ่นฟอกเงินผิดกฎหมาย จึงได้มีการเรียกร้องให้หน่วยงานทางการเงินดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด

นายอี อ็อก-วอน ประธานคณะกรรมการบริการทางการเงิน (FSC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินสูงสุดของเกาหลี ให้คำมั่นว่าจะนำเสนอมาตรการอายัดบัญชีเชิงรุกที่มุ่งเป้าไปที่รายได้ของกลุ่มอาชญากรกัมพูชา และปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลที่มีอยู่ และจะประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขึ้นบัญชีดำบุคคลและนิติบุคคลภายใต้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินโดยเร็วที่สุด

นายอี ชาน-จิน ผู้ว่าการ FSS ยอมรับว่ายังมีช่องโหว่ในการกำกับดูแลสาขาของธนาคารในต่างประเทศ และจะเร่งออกมาตรการทางกฎหมายเพื่ออุดช่องโหว่ดังกล่าว



คุณอาจสนใจ

Related News