ต่างประเทศ
“ฮุน มาเนต” อ้างไทย-กัมพูชา ตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนทำหลักเขตแดน
23 ต.ค. 2568
2.4K views
ในวันนี้ (23 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวถึงผลการประชุม JBC กัมพูชาและไทย ว่ามีความคืบหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่หมู่บ้านจกเจย และเปรยจัน แต่ข้อความในเฟซบุ๊กของนายกฯ ฮุน มาเนต กลับไปกล่าวถึงการวัดพื้นที่และกำหนดเขตแดนร่วมกันโดยใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000
ข้อความในเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ในตอนแรกได้กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาที่พยายามแก้ไขสถานการณ์ที่หมู่บ้านจกเจยและเปรยจัน ซึ่งได้มีความคืบหน้าไปสู่การเจรจาที่ชัดเจนและสร้างสรรค์มากขึ้น ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายคือไทยและกัมพูชากำลังหารือเกี่ยวกับหลักการทางกฎหมายเพื่อหาทางออกอย่างสันติ
ฮุน มาเนต กล่าวอ้างถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยใช้ลวดหนามและยางรถยนต์ล้อมบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้านกัมพูชาบางส่วนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความยากลำบากและความทุกข์ยากแก่ชาวบ้านในพื้นที่ สถานการณ์เช่นนี้ยังก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาทั้งภายในและภายนอกประเทศ
รัฐบาลให้ความสำคัญตั้งแต่แรกเริ่มในการป้องกันการลุกลาม ปกป้องพลเรือน และแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุดด้วยการควบคุมและยับยั้งชั่งและยึดมั่นในสันติวิธีมาโดยตลอด เนื่องจากการใช้ความรุนแรงไม่เพียงแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เท่านั้น แต่ยังอาจขยายขอบเขตความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์และทำให้ผลกระทบต่อพลเรือนเพิ่มมากขึ้น
ฮุน มาเนต บอกว่า เขาเข้าใจถึงความคับข้องใจของประชาชน เพราะบางครั้งการใช้ความอดทนท่ามกลางความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินต่อไป บางคนอาจหมดหวังหรือเข้าใจผิดว่า รัฐบาลยินยอมอย่างลับๆ ที่จะยกที่ดินของกัมพูชาเพื่อแลกกับสันติภาพ
เขาขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีข้อตกลงลับ หรือการยกดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น กัมพูชาไม่ละเมิดอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในขณะเดียวกัน กัมพูชาจะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของตนเองเช่นกัน
ปัญหาชายแดนเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและยาวนาน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกัน เพื่อสร้างสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ทางออกที่ยอมรับได้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส ความยินยอมร่วมกัน และสนธิสัญญาทางกฎหมายที่ปราศจากการบีบบังคับจากทั้งสองฝ่าย
คณะกรรมการ JBC เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกระบวนการแบ่งเขตแดนร่วม และยังคงดำเนินงานตามสนธิสัญญาและข้อตกลงที่มีอยู่ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างมาก แม้ว่างานจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม
ในการประชุม JBC สองวันเมื่อเร็วๆ นี้ (21-22 ตุลาคม 2568) ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างละเอียดและสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในหมู่บ้านจกเจย และเปรยจัน (ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 47)
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการวัดพื้นที่ร่วมกันและการกำหนดเขตแดนชั่วคราว โดยใช้แผนที่ 1ต่อ 200,000 ตามสนธิสัญญาปี 2450 และบันทึกเขตแดนฝรั่งเศส-สยามเป็นพื้นฐาน ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกตรวจสอบกับการยึดครองและการตั้งถิ่นฐานที่แท้จริงของประชาชนทั้งสองฝ่าย ด้วยวิธีการที่โปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมายนี้เท่านั้น ทั้งสองประเทศจึงจะสามารถบรรลุแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ และมั่นใจได้ว่าปัญหาจะไม่ยืดเยื้อไปอีกหลายปีข้างหน้า
แท็กที่เกี่ยวข้อง ฮุน มาเนต ,ไทยกัมพูชา