“สม รังสี” ประกาศตั้ง “รัฐบาลอิสระกัมพูชา” ต่อสู้องค์กร “สีเทา” ที่คุ้มครองโดยรัฐบาลพนมเปญ

“สม รังสี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาออกแถลงการณ์ ประกาศตั้ง “รัฐบาลอิสระกัมพูชา” ในวันที่ 23 ตุลาคม อย่างเป็นทางการ เพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องอธิปไตยของชาติ และต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลพนมเปญชุดปัจจุบัน

นายสม รังสี โพสต์แถลงการณ์ดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวในวันนี้ว่า สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา หรือ CNRC จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในฐานะรัฐบาลกัมพูชาอิสระในวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 34 ปีของการลงนาม "ข้อตกลงสันติภาพปารีสว่าด้วยกัมพูชา"

แถลงการณ์ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลดังกล่าวสะท้อนถึงความรับผิดชอบของ CNRC ท่ามกลางวิกฤตการเมืองของประเทศ และเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องเร่งด่วนจากประชาชนกัมพูชา ที่ต้องการผู้นำที่ชอบธรรม

CNRC ถือกำเนิดขึ้นจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากประชาชนในการเลือกตั้งปี 2013 และ 2017 ก่อนที่จะถูกยุบโดยพลการโดยระบอบฮุน เซน เนื่องจากความหวาดกลัวต่อการตื่นตัวทางประชาธิปไตย CNRC ยืนยันว่า รัฐบาลฮุน เซน/ฮุน มาเนตในปัจจุบันขาดความชอบธรรม เพราะได้ล้มล้างเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งดังกล่าว

วัตถุประสงค์หลักของความเคลื่อนไหวนี้คือ เพื่อผลักดันความปรารถนาของชาวกัมพูชาในการ ฟื้นฟูข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 อีกครั้ง – ซึ่งเป็นรากฐานที่สร้างความมั่นใจในการอยู่รอดของกัมพูชาในฐานะประเทศที่สงบสุข มีอธิปไตย และเป็นอิสระ ซึ่งปกครองโดยประชาธิปไตยแบบพหุนิยม และมีพรมแดนที่มั่นคง

ข้อตกลงสันติภาพปารีสระบุไว้อย่างชัดเจนว่า กัมพูชาต้องปกครองแบบพหุนิยมที่เน้นการยอมรับความหลากหลายของกลุ่มคน ความคิด และผลประโยชน์ที่แตกต่างกันในสังคม หรือ pluralistic democracy

CNRC ยืนยันว่า ฮุน เซนได้ละเมิดหลักการเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ทำลายหลักการประชาธิปไตย และบ่อนทำลายหลักประกันระหว่างประเทศที่เคยปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาได้กลายเป็นรัฐมาเฟีย โดยที่อาชญากรรมออนไลน์และการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายข้ามชาติได้แพร่หลายภายใต้การคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ระดับสูง

CNRC ระบุว่า ระบอบการปกครองในปัจจุบันเป็นระบอบอาชญากรรม ซึ่งคุกคามทั้งเสถียรภาพของชาติและภูมิภาค

รัฐบาลอิสระกัมพูชา 23 ตุลาคม แสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ สำหรับการดำเนินการเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ในการขึ้นบัญชีดำและฟ้องร้องคดีอาชญากรรมข้ามชาติที่นำโดย เฉิน จื้อ พร้อมผู้สมรู้ร่วมคิดหลายสิบคน ที่ใกล้ชิดกับครอบครัวและบริวารของ ฮุน เซน ผู้นำที่ครองอำนาจมานานกว่า 40 ปี รวมอยู่ด้วย